กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วอนประชาชนร่วมใจสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เข้าวัด การ์ดอย่าตก หลังผลสำรวจพบประชาชนสวมหน้ากากเข้าวัดร้อยละ 72
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ประชาชนนิยมไปวัดเพื่อทำบุญตักบาตรหรือเวียนเทียนที่เป็นการรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
ซึ่งจากผลสำรวจอนามัยโพลครั้งที่ 7 เรื่องพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนในการป้องกันโรคโควิด-19 ระหว่างวันที่ 23 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่าสถานที่ที่คนสวมหน้ากากตลอดเวลามากที่สุดคือ ห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 83 รองลงมาคือ ร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 82
ส่วนสถานที่ที่ประชาชนไปและมีการสวมหน้ากากกันน้อย คือ สวนสาธารณะ สนามกีฬา มีเพียงร้อยละ 68 และ วัด โบสถ์ โบราณสถาน ร้อยละ 72
จึงขอความร่วมมือประชาชนที่เข้าวัดทำบุญ การ์ดไม่ตก ด้วยการสวมหน้ากากตลอดเวลาเข้าร่วมกิจกรรม ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสผู้อื่นหรือสัมผัสกับสิ่งของที่ต้องสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได รวมทั้งให้มีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลขณะทำกิจกรรมร่วมกันในวัด และหากพบว่าตนเองมีไข้ ไอ จาม หรือมาจากพื้นที่เสี่ยงควรงดร่วมกิจกรรม
“สำหรับการจัดการด้านสุขอนามัยภายในวัดนั้น ต้องเน้นทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ไม้ตีระฆัง กระบอกเซียมซี รวมทั้งห้องน้ำโดยเฉพาะบริเวณสายฉีดชำระ ที่กดโถส้วม โถปัสสาวะ ลูกบิดหรือ กลอนประตู ที่รองนั่งโถส้วม พื้นห้องส้วม และที่เปิดก๊อกน้ำ
สำหรับพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ ก่อนทำความสะอาด ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมถุงมือยางและผ้ายางกันเปื้อน สวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และหลังจากปฏิบัติงานเสร็จต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทันที
ทั้งนี้ การจัดพิธีทางศาสนาต้องลดความแออัดของผู้เข้าร่วมประกอบพิธีโดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน 1-2 เมตร และขอให้จัดจุดปฐมพยาบาล เบื้องต้นให้กับผู้ที่มีอาการป่วยขณะประกอบ ศาสนพิธี โดยแยกผู้ป่วยออกจากกิจกรรมหรือพิธีกรรมและส่งตัวไปรักษาที่บ้านหรือโรงพยาบาลต่อไป” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว