ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์ 2564 นี้
โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว การพนัน พร้อมสรุปความพร้อมการอภิปรายรัฐบาล
โดยนายยุทธพงศ์ เริ่มต้นแถลงข่าวจากกรณีบ่อนการพนันระยอง ที่มีการจับตัวผู้ต้องหาสำคัญ มีหลักฐานทางการเงินและซัดทอดไปยังบ่อนระยอง โดยตนเองเป็นผู้เปิดประเด็นเรื่องบ่อนนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว
แต่เพิ่งมีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องเดือนกุมภาพันธ์ไม่กี่วัน ซึ่งเป็นเกมการเมืองสมคบจัดฉากไปจับเพื่อแสดงให้เห็นว่า ระยองไม่มีบ่อน ไปตรวจแล้วไม่พบ และสำคัญกว่านั้น ไปจับบ่อน รู้ชื่อเจ้าของบ่อนลงตามสื่อมวลชน แต่กลับไม่สามารถจับตัวเจ้าของบ่อนได้ ซึ่งการจับบ่อนระยองแค่การตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้ลามมาถึงพลเอกประยุทธ์ ซึ่งตนจะอภิปรายเรื่องบ่อนการพนันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตนเห็นข่าวพลเอกประยุทธ์ เขียนเฟซบุ๊กขอบคุณกรุงเทพมหานคร ที่ชะลอการขึ้นราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งที่ท่านเป็นผู้รับผิดชอบนโยบายสูงสุด จึงควรต้องถูกตรวจสอบ และต้องไปตรวจสอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยปละละเลยขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว
แต่ไม่ใช่มาเขียนเฟซบุ๊กกล่าวขอบคุณหน่วยงานรัฐที่ให้ชะลอขึ้นค่าโดยสาร โดยตนมีหลักฐานว่ามีการเอื้อประโยชน์ สมคบกับเอกชน มีกลิ่นไม่ชอบมาพากล ซึ่งตนจะนำไปอภิปรายเปิดหลักฐานทั้งหมดในการอภิปรายมุ่งเป้าไปที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องรับผิดชอบทั้งหมด
“กรณีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ก็สามารถอภิปรายนายกฯได้ในฐานะหัวหน้าศูนย์โควิด บ่อนการพนันนก็อภิปรายได้ในฐานะนายกฯดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ การปล่อยปละละเลยด่านความมั่นคงชายแดนจนเกิดกรณีลักลอบเข้าเมือง จนพาเชื้อโควิดเข้าประเทศนี่ก็เรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง นี้ก็อภิปรายนายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ และการทำสัญญาเอื้อประโยชน์ผูกขาดตัดตอนรถไฟฟ้าก็เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีอีก ดังนั้นทุกประเด็นสามารถอภิปรายเกี่ยวข้องกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทั้งสิ้น” นายยุทธพงศ์ กล่าว