ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ซึ่งมี นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง แนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับ ธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ… (ประกาศ Sandbox) ตามที่สำนักงาน คปภ. เสนอ ซึ่งร่างประกาศดังกล่าวจะสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบ
สำหรับการเข้าทดสอบนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจประกันภัย และประชาชน รวมทั้งจะยกระดับประกาศ Sandbox เดิมที่เป็นระดับสำนักงานให้เป็นประกาศในระดับของบอร์ด คปภ. ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการบังคับใช้กว้างขึ้น
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและกำลังมุ่งเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งส่งผลกระทบต่อกระบวนการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตมนุษย์ รวมทั้งส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ ภาคการผลิต ภาคการบริการ และคุณภาพชีวิตของมนุษย์ ธุรกิจประกันภัยก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยง หรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ได้
สำนักงาน คปภ. จึงจำเป็นต้องเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และการเข้ามา มีบทบาทของเทคโนโลยี รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม หรือโมเดลต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งกฎระเบียบการกำกับที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง (Digital Disruption) จึงได้ออกประกาศสำนักงาน คปภ. เรื่องแนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ. 2562 และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผู้เข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการกำหนดเงื่อนไขหรือข้อตกลงระหว่างเข้าร่วมโครงการ
ปัจจุบันมีผู้เข้ามานำเสนอโครงการรวม 28 โครงการโดยมีโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 9 โครงการ ซึ่งประกาศ Sandbox ที่ออกมามีข้อจำกัด เนื่องจากเป็นประกาศในระดับของสำนักงาน จึงสามารถอนุมัติโครงการเท่าที่อยู่ในกรอบอำนาจของนายทะเบียนเท่านั้น ส่วนโครงการที่เสนอเข้ามาขอทดสอบซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎกติกาที่อยู่ในอำนาจของบอร์ด คปภ. จำเป็นต้องนำไปขอความเห็นชอบจากบอร์ด คปภ. เป็นราย ๆ ไป
ทำให้อาจไม่ทันต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมประกันภัยที่ต้องการ เข้าทดสอบอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากพระราชบัญญัติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 12 กำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบาย กำกับ ส่งเสริม และพัฒนาการประกอบธุรกิจประกันภัย
โดยสถานการณ์ปัจจุบันเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการ ของผู้เอาประกันภัยได้อย่างแม่นยำ ซึ่งการออกหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน คปภ. จะต้องสอดคล้องกับนโยบายและกรอบภารกิจตามที่บอร์ด คปภ. กำหนด
แต่ปัจจุบันยังไม่มีประกาศ คปภ. กำหนดหลักการต่าง ๆ และขอบเขตการใช้ดุลพินิจ ของสำนักงาน คปภ. ในภารกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องออกประกาศ คปภ. เรื่อง แนวทางการเข้าร่วมโครงการทดสอบนวัตกรรมที่นำเทคโนโลยีมาสนับสนุนการให้บริการสำหรับธุรกิจประกันภัย (Insurance Regulatory Sandbox) พ.ศ… เพื่อวางกรอบแนวทางให้สำนักงาน คปภ. นำไปออกหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในส่วนรายละเอียดตามกรอบ และเงื่อนไขตามที่บอร์ดคปภ. กำหนดต่อไป โดยจะนำไปใช้แทนประกาศของสำนักงาน คปภ. ที่ออกไปก่อนหน้านี้ สำหรับร่างประกาศ Sandbox ฉบับใหม่นี้ มีสาระที่สำคัญ ดังนี้
1. กำหนดกลุ่มผู้สมัคร และคุณสมบัติของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ไว้
2. กำหนดประเภทธุรกรรมที่สามารถเข้าทดสอบในโครงการฯ ไว้ โดยให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่สำนักงาน คปภ. ประกาศกำหนด
3. กำหนดระยะเวลาการทดสอบไว้อย่างชัดเจน (ไม่เกินครั้งละ 1 ปี และขยายระยะเวลาการทดสอบได้ไม่เกินครั้งละ 1 ปี)และหากผลการทดสอบนวัตกรรมที่เข้าร่วมโครงการฯ ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยไทย และต่อผู้บริโภค รวมทั้งจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงประกาศที่อยู่ภายใต้อำนาจของบอร์ด คปภ. ให้สำนักงาน คปภ. เสนอต่อบอร์ด คปภ. เพื่อพิจารณาต่อไป
4. กำหนดให้สำนักงาน คปภ. จัดให้ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการมีมาตรการในการดูแลผู้เอาประกันภัย การบริหารจัดการความเสี่ยง การจัดส่งรายงาน และการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
“ต้องขอกราบขอบพระคุณบอร์ด คปภ. ที่ได้กรุณาให้ความเห็นชอบร่างประกาศ Sandbox ฉบับใหม่นี้ ซึ่งย่อมจะส่งผลให้การส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านประกันภัยในระดับขององค์กรกำกับดูแล ถูกยกระดับความสำคัญขึ้นมาให้ดีขึ้น เข้มข้นขึ้น และเป็นรูปธรรมขึ้น โ
ดยผมคิดว่านับจากนี้ไป การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาใช้ ไม่เพียงแค่เป็นเรื่องที่ธุรกิจประกันภัยของไทยควรจะกระทำ แต่เป็นสิ่งที่ธุรกิจประกันภัยของไทย “ต้อง” ทำ เพื่อให้ธุรกิจสามารถฝ่าฟันกับปัจจัยความเสี่ยงและความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในยุค New Normal เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ ซึ่งเป็นภารกิจที่สำนักงาน คปภ. จะส่งเสริมอย่างจริงจังให้เกิดผลในทางปฏิบัติ สำหรับขั้นตอนจากนี้สำนักงาน คปภ. จะได้เสนอร่างประกาศ Sandbox นี้ ให้ประธานบอร์ด คปภ. ลงนามเพื่อให้มีผลบังคับต่อไป” เลขาธิการ คปภ.กล่าวในตอนท้าย