นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ติดตามสถาการณ์น้ำท่วมจากในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับกระทบจากสถานการณ์มากจากฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมฉับพลัน โดยมีการประกาศยกระดับเป็นเขตภัยพิบัติทั้ง 23 อำเภอ และมีผลกระทบต่อการคมนาคมสัญจรเเละชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก
นายพิธากล่าวว่า ทีมงานพรรคก้าวไกลมาที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสมทบกับทีมงานพรรคที่กำลังช่วยบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนชาวใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากกระทบที่อยู่อาศัยเเละที่ทำกินกว่าหลายเเสนไร่ โดยได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดในขณะกำลังประชุมสภาผู้แทนราษฎร และเล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่จึงเดินทางมาด้วยตนเอง เพื่อทำให้การบูรณาการความช่วยเหลือจากบุคลากรและฝ่ายต่างๆข้องพรรคก้าวไกลให้ทำได้เร็วขึ้น
สำหรับช่วยเหลือเฉพาะหน้าในวันนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้นเท่านั้น ในระยะยาวทีมงานพรรคก้าวไกลจะศึกษาถึงปัญหาที่เกี่ยวกับการป้องกันและดูเเลด้านสาธารณภัย รวมถึงการเตือนภัยพิบัติ เพื่อนำไปอภิปรายในรัฐสภาเพื่อใช้กลไกต่างรวมทั้งกรรมธิการในการหามาตราการป้องกันการเกิดเหตุที่รับผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคต
“เราเป็นผู้แทนของประชาชน เมื่อประชาชนในพื้นที่มีปัญหา เราต้องมารับฟังปัญหาของเขา เพื่อผลักดันต่อในสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ยังต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ครั้งนี้ ปัญหาที่สำคัญคือรัฐขาดการบริหารจัดการด้านการป้องกันการเตือนภัยพิบัติรวมถึงการดูเเลความปลอดภัยของประชาชน
หลังจากน้ำลดจะต้องมีมาตราการฟื้นฟูเยียวยาพี่น้องประชาชน แต่จนถึงขณะยังไม่เห็นว่าจะมีมาตราการเร่งด่วนใดๆออกจากจากรัฐบาล สภาพความเป็นอยู่ตอนนี้คือประชาชนช่วยเหลือกันเองเท่าทำได้ ผมจึงอยากกระตุ้นเตือนไปยังรัฐบาลว่า อย่ารอช้าในเมื่อมีทั้งงบประมาณและอำนาจจัดการ ขอให้รีบสั่งการ เพราะไม่มีภาระงานใดจะสำคัญกว่าพี่น้องประชาชน หลังจากนี้หากรัฐบาลจะมีการตั้งศูนย์เพื่อแจ้งข่าวสารแก่ประชาชนในพื้นที่ก็ควรเป็นไปอย่างเร่งด่วน และขอให้เตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำขนาดใหญ่ที่อาจจะไหลเข้าพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่อไป”
ขณะที่ นายสมชาย ฝั่งชลจิตร ในฐานะ ส.ส. สัดส่วนภาคใต้ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถรับมือได้คือ การเตือนภัยอย่างเป็นระบบจากรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือเหตุภัยพิบัติได้ทัน อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ การจัดผังเมืองใหม่ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องอย่าขวางทางน้ำตามธรรมชาติ เช่น กรณีบ่อขยะในเขตเทศบาลเมือง ที่เเต่เดิมเป็นพื้นที่แก้มลิงสำหรับรับน้ำได้กว่า 30 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ได้ถูกถมไป ทำให้เมื่อเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ ไม่มีที่รับน้ำเพียงพอ จึงผลกระทบอย่างมหาศาลต่อชีวิตเเละความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
สำหรับการสำรวจความเสียหายและมอบปัจจัยยังชีพแก่ผู้ประสบเหตุเบื้องต้น ในช่วงเช้าหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะลงพื้นที่บริเวณศูนย์อพยพโรงเรียนเทศบาลวัดใหญ่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ในจุดนี้มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบมาพักพิงชั่วคราวกว่า 80 กว่าครัวเรือน ซึ่งหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุ โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
จากนั้นได้ลงพื้นที่สำรวจบ่อขยะเทศบาลนครศรีธรรมราช ที่ใหญ่เป็น อันดับที่ 2 ของประเทศ จุขยะกว่า 2.4 ล้านตัน รองจากบ่อขยะบางพลี ต.ราชาเทวะ จ.สมุทรปราการ ซึ่งการที่มีน้ำท่วมครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากบ่อขยะดังกล่าวอยู่ข้างสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ที่เป็นแหล่งพักผ่อนของประชาชน จากนั้นทีมพรรคก้าวไกลได้เดินทางต่อไปที่ อ.จุฬาภรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยที่หนักที่สุด โดยในขณะนี้น้ำลดลงบ้างเเล้ว เเต่ยังมีประชาชนอีกหลายหลังคาเรือนที่ยังไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากน้ำท่วมขัง และกระเเสน้ำกัดเซาะจนถนนชำรุด ทำให้ทางสัญจรถูกตัดขาด ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมเเซม เพื่อให้ประชาชนได้สัญจรชั่วคราว
