นายศราวุธ เพชรพนมพร ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษี (GSP) สำหรับสินค้าไทย รอบที่ 2 เป็นมูลค่าสูงถึง 25,000 ล้านบาท โดยการตัดสิทธิจะเริ่มต้นในวันที่ 30 ธันวาคมเป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้ระงับ GSP สำหรับสินค้าของประเทศไทย มาแล้วคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านบาท โดยการระงับ GSP ของสหรัฐฯ ทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการไทยอย่างรุนแรง และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 100,000 ล้านบาท
นายศราวุธ กล่าวด้วยว่า การตัดสิทธิรอบแรก สหรัฐฯ เปิดโอกาสให้ทางการไทย แก้ไขปัญหาต่างๆ แต่การดำเนินการไม่ได้รับการยอมรับจากสหรัฐฯ จนเป็นที่มาของการตัดสิทธิในรอบใหม่ โดยทางการสหรัฐฯ ให้เหตุผลว่า ไทยไม่ให้ความเป็นธรรมกับสหรัฐฯ ในการส่งสินค้าประเภทเนื้อและหมูเข้ามาไทยอย่างยุติธรรม ปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบแก้ไขตั้งแต่แรก ส่งผลให้สหรัฐฯ ไม่พอใจไทย จนเป็นเหตุผลที่ตัด GSP รอบ 2
“นอกจากนี้ไทยยังคงต้องจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ระหว่าง “โจ ไบเดน” ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต และ “โดนัลด์ ทรัมป์” จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งไม่ว่าใครชนะก็ส่งผลกระทบต่อไทยทั้ง 2 ฝ่าย หากทรัมป์ชนะ การระงับสิทธิพิเศษทางการค้าก็จะคงอยู่ต่อไป ในขณะเดียวกันหากไบเดนชนะ นโยบายการเจรจาการค้าระหว่างประเทศนั้นมีความเป็นไปได้สูง ที่สหรัฐฯ จะกลับเข้าสู่การเจรจา CPTPP ไม่ว่าใครจะชนะผลการเลือกตั้งจะกระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน” นายศราวุธ กล่าว