ของขวัญจาก ร.๙..แอสตร้าเลือกไทยเป็นฐานการผลิต ได้ฉีดวัคซีนโควิด กลางปีหน้า

ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย บ.สยามไบโอไซเอนซ์ ที่ก่อตั้งโดยในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งคาดว่า จะพัฒนาวัคซีนให้ใช้ได้ และเริ่มผลิตประมาณกลางปี 2564

พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการสำนักพระราชวัง ในฐานะประธานกรรมการบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า ศูนย์การผลิตของบริษัท มีเครื่องจักรที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับผลิตยารักษาโรคมะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง

เครื่องจักรดังกล่าว สามารถประยุกต์ใช้ผลิตวัคซีน AZD 1222 โดยหลังจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากแอสตร้า เซนเนก้า รวมทั้งขั้นตอนการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา คาดว่าวัคซีนชุดแรกจะพร้อมใช้กลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนดังกล่าวได้สำเร็จเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ปรับพื้นที่บางส่วนของโรงงาน เพื่อใช้ผลิตชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยตั้งเป้าผลิตชุดตรวจ 1 แสน ตัวอย่าง มอบให้รัฐบาลส่งต่อไปยังห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ


บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ถือหุ้น 100% โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ผลิตยาชีววัตถุ (biological product-ยาที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ) แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศไทย ที่สามารถผลิตยาได้ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2552

โดยพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในด้านการสาธารณสุขของไทย

กลางปีหน้าคนไทยจะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นชาติแรกๆ ในโลก จากโรงงานผลิตวัคซีนของในหลวง ร.9 โชคดีแค่ไหนที่เรามีบริษัทผลิตวัคซีนที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาค ในช่วงเวลาที่เราต้องเจอกับวิกฤตจากไวรัสร้าย บริษัทที่สร้างขึ้นจากทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ ทุกบาททุกสตางค์ เพียงเพราะท่านรักและเป็นห่วงประชาชนเสมอ

ข้อมูล เพจจิตอาสาพระราชทาน

ภาพ สยามไบโอไซเอนซ์

0 replies on “ของขวัญจาก ร.๙..แอสตร้าเลือกไทยเป็นฐานการผลิต ได้ฉีดวัคซีนโควิด กลางปีหน้า”