“รองฯ พิชัย” เรียกร้อง เร่งปฏิรูปกองทัพ ปรับลดงบประมาณไม่เกิดประโยชน์ หลังทวิตเตอร์ปิดแอคเค้าท์โยงปฏิบัติการณ์ไอโอ เตือน รัฐบาล-ทหาร เลิกก่อกวนผู้เห็นต่าง

10 ตุลาคม 2563 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่บริษัททวิตเตอร์ (Twitter) ได้ปิดบัญชี 1,594 บัญชีใน 5 ประเทศ คือ ไทย คิวบา อิหร่าน ซาอุดิอาระเบีย และ รัสเซีย โดยพบส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการด้านข่าวสาร (IO) เป็นบัญชีในประเทศไทย มากที่สุดถึง 926 บัญชี ว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลและทหารมีความพยายามที่จะปฏิบัติการ IO ที่บิดเบือนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด และหลายครั้งได้สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน ปลูกฝังทัศนคติที่ไม่ถูกต้องให้กับประชาชนและสร้างความเกลียดชัง

จากข้อมูลในสื่อพบว่ามีการตรวจสอบพบว่า 11 อันดับแรกที่โดน ปฏิบัติการ IO ก่อกวนมากที่สุดเป็นของนักการเมืองพรรคก้าวไกล และอนาคตใหม่ อันดับที่ 12 เป็นของตน พิชัย นริพทะพันธุ์ บัญชี @Pichailive ซึ่งโดนก่อกวนบ่อยครั้งมากจนเป็นที่น่ารำคาญ และต้องตามบล็อกกัน บางครั้งข้อความเดียวกันหรือรูปเดียวกัน ส่งออกมาจาก 7-8 บัญชี ที่ชื่อไม่ซ้ำกัน

ไม่ต้องบอกก็ต้องรู้ว่าจะต้องมาจากแหล่งเดียวกันอย่างแน่นอน ข้อมูลที่ใช้ก่อกวนเป็นข้อมูลซ้ำๆ พูดแบบเดิมๆ เหมือนไม่มีความคิด ถูกสั่งให้ส่งก็ส่งมา และหลังจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้อภิปรายเรื่องนี้ในสภาก็หายไปพักหนึ่งแล้วก็กลับมาทำกันใหม่อีก

บริษัทระดับโลกอย่าง Twitter คงไม่ใส่ร้ายทหารหรือรัฐบาลไทยแบบไม่มีข้อมูล เพราะไม่มีประโยชน์อะไรกับบริษัทเลย และประเทศที่โดน Twitter ปิดบัญชีที่เหลืออีก 4 ประเทศแต่ละประเทศก็เชื่อกันว่าต้องมีปฏิบัติการ IO อยู่แล้ว แทนที่รัฐบาล และทหารจะแก้ตัว ควรจะต้องรีบแก้ไขและเลิกการกระทำดังกล่าวจะดีกว่า เพราะประชาชนโดยเฉพาะนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ฉลาดพอที่จะแยกแยะได้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่

การที่มีการใช้เงินหลวงจากภาษีประชาชนเพื่อทำปฏิบัติการ IO และ ก่อความไม่สงบ สร้างความแตกแยกให้กับประชาชน แทนที่จะต้องทำหน้าที่สร้างความสงบ รักษาความมั่นคง เป็นการใช้เงินภาษีอย่างผิดประเภท แทนที่จะนำเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเหลือประชาชนจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลและซ้ำเติมด้วยวิกฤติไวรัสโควิด

อีกทั้งการที่ทหารใช้เงินหลวงแบบนี้ยิ่งเป็นเหตุผลที่ต้องปฏิรูปกองทัพ และจะต้องปรับลดงบประมาณทางการทหารที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมถึงระงับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ที่ยังไม่จำเป็นทั้งหมด ทั้งเรือดำน้ำ รถหุ้มเกราะ เครื่องบิน VIP เป็นต้น ถึงเวลาแล้วที่กองทัพจะต้องปฏิบัติตัวให้เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน และทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง อย่าเพียงแต่พูด แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ซึ่งประชาชนจะรับรู้ได้และอาจจะหมดศรัทธาในกองทัพได้