1 ต.ค.63 พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.) ครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุม 109 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล
ที่ประชุม ได้รับทราบการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาบุคคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA) ซึ่งมีรูปแบบการบริหารร่วม ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านยานยนต์ ที่เป็นของคนไทยให้มีศักยภาพตามมาตรฐานการผลิต และสร้างบุคลากรที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตยานยนต์ ให้มีมาตรฐานเท่าทันเทคโนโลยีการผลิต
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในปี2563 มีผู้เข้าฝึกอบรมทั้งสิ้น 1,839 คน และได้รับทราบการดำเนินงาน ของสถาบัน พัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติ และหุ่นยนต์ (MARA) ซึ่งดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน มีผลการดำเนินงานในปี2563 คือได้ทำการฝึกอบรมให้กับวิทยากรตัวคูณ ของสถานประกอบกิจการในพื้นที่ EEC เพื่อยกระดับฝีมือแรงงานรองรับเทคโนโลยีชั้นสูง จำนวน 1,252 คน
ต่อจากนั้น กพร.ปช. ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ แนวทางการจัดทำแผนพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-c u r v e ปี64-ปี65 และเห็นชอบแนวทางการพัฒนาอาชีพคนพิการ ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 และ กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
พล.อ.ประวิตร ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การว่างงาน ของภาคอุตสาหกรรม จากผลกระทบของ covid-19 และจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงได้กำชับให้ รง.โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งขับเคลื่อนมาตรการพัฒนากำลังคน ทุกระดับของประเทศ จากทุกภาคส่วน
โดยจะต้องบูรณาการร่วมกันอย่างแน่นแฟ้นโดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลิตแรงงานไทย รวมถึงส่งเสริมอาชีพคนพิการ อย่างเป็นระบบ ให้สามารถ สร้างงาน/สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคมไทยในภาวะวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ต่อไป
พล.อ.ประวิตร ยังได้เน้นย้ำ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในเรื่องการฝึกอบรมกำลังคน เพื่อยกระดับฝีมือแรงงาน จะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับการติดตาม ประเมินผล อย่างจริงจัง และมีมาตรการทางการสื่อสาร/ประชาสัมพันธ์ ที่จะช่วยส่งเสริมตลาดแรงงานทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อไป