22 กันยายน 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สภาพัฒน์ฯ เผยไทยเหลื่อมล้ำพุ่งรอบ 10 ปี รวยจนห่างกันสูงสุด 20 เท่า หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีเพิ่มทะลุ 80 เปอร์เซ็นต์ ว่า
นายกรัฐมนตรี เห็นรายงานของสภาพัฒน์ฯ แล้ว นึกออกหรือยังว่าจะแก้ไขอย่างไร หรือจะใช้วิธีโยนความผิดไปให้รัฐบาลก่อนตามถนัด ในรายงานพบคนจนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 นายกรัฐมนตรีหนียังไงก็หนีไม่ออก
รัฐบาลยิ่งอยู่ยาวคนยิ่งแห่มาลงทะเบียนรับบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจไทยหลังจากโควิด-19 จะต้องเจอกับภาวะ 3 สูง 3 ต่ำ ซึ่ง 3 สูง คือ อัตราการว่างงานสูง หนี้สาธารณะสูง และหนี้ภาคเอกชนสูง ส่วน 3 ต่ำ คือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำ อัตราเงินเฟ้อต่ำ และอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ ตลอด 6-7 ปี
ทำให้คนไทยได้เห็นว่า ประเทศไทย ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะมาเป็นผู้นำ คนไทยจะฝากอนาคตเศรษฐกิจไทยไว้กับทหารเกษียณที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จริงๆ หรือ ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่ทหารแก่กำลังทำลายเศรษญกิจไทยให้ตายทั้งเป็น หรือไม่ ภาวะสุญญากาศ กำลังลุกลาม ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง หา รมว.คลัง ยังไม่ได้ จะพูดอะไร จะแก้เหลื่อมล้ำแบบไหน น้ำหนักคงไม่มี