สันติ อิ่มใจจิตต์
ร้าน Steve Cafe & Cuisine สาขาเทเวศร์ ที่จะแนะนำในวันนี้ เป็นร้านที่ผมคิดว่านักชิมหลายคนยังไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ผ่าน เพราะสถานที่ตั้งของร้านนี้ไม่ใช่ทางผ่าน ไม่มีป้ายโฆษณา แต่ถ้าได้เข้ามาในร้านได้ชิมอาหาร ได้ดูบรรยากาศของร้านแล้ว รับรองว่าจะต้องชวนพรรคพวกย้อนกลับมาอีกหลายครั้งแน่ๆ
ร้านนี้ผมประทับใจตั้งแต่จอดรถแล้วครับ เพราะได้เห็นวัดเทวราชกุญชรที่สวยงามมาก ภายในบริเวณวัดมีพิพิธภัณฑ์สักทองที่หาดูได้ยาก เมื่อเดินตามทางที่จะไปบริเวณท่าน้ำเป็นสถานที่ที่มีประชาชนนำปลามาปล่อยลงสู่แม่น้ำ ก่อนที่จะถึงท่าน้ำนั่นแหละครับ ด้านซ้ายมือจะพบทางเข้าร้าน ซึ่งเป็นทางเดินเล็กมากเดินเข้าไปได้ครั้งละ 1 คน เมื่อขึ้นบันไดเตี้ยๆ จะพบจุดคัดกรองโควิด-19 ต้องถอดรองเท้าของเราใส่ไว้ในล็อกเกอร์ของร้าน เดินเข้าไปภายในร้านแล้วจะต้องตกตะลึงกับบรรยากาศที่สวยงามมาก
เพราะร้านซึ่งเป็นบ้านโบราณแบบเก่าตั้งอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา มีเรือท่องเที่ยวสวยๆ เรือประจำทาง รวมทั้งเรือเล็กเรือน้อยผ่านไปมา มองเห็นสะพานพระราม 8 ตั้งตระหง่านอย่างชัดเจน รวมทั้งการตกแต่งภายในร้านที่สวยงามแปลกตา เพียงแค่นี้ผมว่าคุ้มแล้วครับที่มาร้านนี้
ได้สอบถาม คุณสรเทพ โรจน์พจนารัตน์ หรือ คุณสตีฟ เจ้าของร้านว่าทำไมจึงทำร้านได้สวยงามอย่างนี้ ก็ได้รับคำตอบว่าสถานที่นี้เป็นบ้านแบบโบราณเก่าแก่ของคุณป้า ตัวเองนั้นสู้ชีวิตมาเยอะได้ผ่านประสบการณ์ในด้านโรงแรมอย่างโชกโชน ทำหน้าที่ตั้งแต่เป็นเมด ขยับขยายหน้าที่การงานก้าวหน้ามาตลอด เพราะชอบงานที่ท้าทายความสามารถ ได้เดินทางไปต่างประเทศตลอด แต่ทำงานไปนานๆ แล้วเบื่อ จึงทิ้งเงินเดือน 300,000 บาท ออกมาทำร้านอาหาร เพราะรู้ว่าตัวเองชอบทางนี้
ประกอบทั้งมีแม่ยายเป็นชาวใต้ที่เป็นกุ๊กมาทั้งชีวิต จึงชวนทั้งพี่เขยและพี่สะใภ้มาทำร้านอาหาร โดยนำสูตรอาหารของทางภาคใต้มาปรับปรุงรสชาติ เน้นที่ไม่ใช้เครื่องปรุงผงชูรส ใช้น้ำตาลปีบแทน น้ำตาลทรายไม่ใช้ น้ำซุปก็ใช้น้ำต้มผักอย่างเดียวเท่านั้น เครื่องแกงทุกอย่างทำเองหมด โดยที่ตัวเองนั้นจุกจิกมากเพราะต้องเลือกวัตถุดิบจากแหล่งที่คิดว่าดีที่สุดโดยเฉพาะ เช่น ใบเหลียง สะตอ ต้องเลือกใช้จากจังหวัดชุมพร น้ำมันหอยต้องเลือกยี่ห้อที่ไม่เค็ม รสชาติของอาหารที่นี่จะจัดจ้านเป็นพิเศษตามแบบฉบับของภาคใต้
ส่วนเรื่องอาหารอร่อยขอแนะนำให้สั่ง ยำตะไคร้ มาชิมเป็นกับแกล้มเรียกน้ำย่อยเป็นอันดับแรก ซึ่งเมื่อได้ชิมแล้วรับรองว่าจะต้องติดใจ เพราะรสชาติที่ไม่เหมือนใคร เริ่มจากตะไคร้คุณสตีฟจะเลือกตะไคร้ที่อ่อนมากๆ มาซอยละเอียดยิบ ยำใส่ทั้งหมูแผ่น หมูหยอง ถั่วลิสง ผักชีลาว ที่สำคัญคือ น้ำยำรสชาติจัดจ้านกลมกล่อมใช้มะนาวสดแท้ๆ แพงเท่าไหร่ก็ใช้ กินแกล้มกับใบชะพลูเคี้ยวสนุก อร่อยเกินบรรยายครับ
อาหารจานต่อมาที่จะแนะนำนั้น แปลกแต่อร่อยมาก คือ เหลี่ยมต้อผัดเคย เหลี่ยมต้อนั้น คือ ราวท้องของหมู โดยหมูตัวหนึ่งๆ จะมีราวท้องเพียงแค่นิดเดียว เป็นเนื้อส่วนที่มีทั้งหนัง มันและเนื้อ แต่มีมันน้อย หนังบาง เนื้อแดงมาก คล้ายๆ หมูสามชั้นบวกกับคอหมูย่าง หากินยาก มีราคาแพง ซึ่งคนที่จะผัดเนื้อส่วนนี้ให้อร่อยก็ต้องมีฝีมือ
ซึ่งเวลาผัดก็ใส่พริก กระเทียม เคย ให้เข้ากันปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ เกลือ ผัดเข้ากันดีแล้วจึงเอาเอี่ยมต้อใส่ ผัดให้เครื่องต่างๆ ซึมเข้าไปในเอี่ยมต้อจนเกือบแห้ง ก่อนตักขึ้นมีเคล็ดลับต้องบีบมะนาวลงไปจะได้กลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว เวลากินจะกรุบๆ กรอบๆ เค็มๆ หอมๆ มันๆ เผ็ดๆ รวมทุกรสครับ เนื้อของเอี่ยมต้อจะเด้งดึ๋ง อย่าได้พลาดเชียว
แกงเหลืองปลากะพงไหลบัว เมนูนี้อร่อยไม่พลาดอีกเช่นกันเพราะเป็นเมนูอาหารใต้ โดยคนใต้แท้ๆ ทำ เพราะฉะนั้นรสชาติคงไม่ต้องบรรยายว่าอร่อยขนาดไหน พริกแกงที่นี่ใช้แต่พริกกะเหรี่ยงทำ จะไม่เผ็ดทันทีค่อยๆ เผ็ดไปเรื่อยๆ เพียงแค่นี้น้ำลายก็สอออกมาแล้วครับ
ตัดความเผ็ดด้วย แตงโมหน้าปลาสลิดแห้ง ซึ่งเป็นอาหารโบราณที่สมัยนี้หากินยากมาก แต่ที่ร้านนี้แปลกคือใช้ปลาสลิดที่ต้นทุนสูงแทนปลาช่อนเหมือนร้านทั่วๆ ไป แต่จะได้กลิ่นหอมและรสชาติที่ดีกว่าครับ
ขอแนะนำว่าควรรีบแวะไปชิมด่วนจะเป็นการดีที่สุด เพราะที่ร้านนี้จะมีชาวต่างชาติที่ติดใจในรสชาติและบรรยากาศนิยมมาชิมกันมาก ซึ่งช่วงนี้ชาวต่างชาติยังเข้ามาไม่ได้ จึงเป็นโอกาสพอจะมีที่นั่งว่าง ทางที่ดีควรจองที่นั่งล่วงหน้าจะเป็นการดีที่สุดครับ
ชื่อร้าน สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ คุยซีน (สาขาเทเวศร์) เจ้าของ คุณสรเทพ โรจน์พจนารัช
สถานที่ วัดเทวราชกุญชร จากศรีย่านตรงไปตามถนนสามเสนผ่านหอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี จะพบซอยศรีอยุธยา 21 (เทเวศร์) เลี้ยวขวาเข้าไปจนถึงวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร จอดรถภายในวัด เสียค่าบำรุงคันละ 40 บาท แล้วเดินไปที่ท่าน้ำจะพบทางเข้าร้านอยู่ด้านซ้ายมือ เปิดบริการตั้งแต่เวลา 10.30-22.00 น. โทรศัพท์ 0-2281-0915, 0-2280-2989
