วันที่ 17 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรองรองนายกรัฐมนตรี ชั้น 3 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและยินดีที่ได้มีโอกาสพบอุปทูตฯ ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินความสัมพันธ์ไทย-จีนอีกครั้ง ขอใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับการครบรอบ 45 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ซึ่งนายกรัฐมนตรีไทยกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้หารือกันทางโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 และทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะเอาใจใส่ในมิตรภาพอันดีระหว่างกัน ด้านความท้าทายโควิด-19 ครั้งใหญ่นี้
ส่งผลกระทบถึงประชาคมระหว่างประเทศ ไทยและจีนต่างให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์จนทำให้ปัจจุบัน ทั้งสองประเทศสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นระหว่างกันอย่างแท้จริง ส่งผลให้เห็นแนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน ที่มีการปรับเปลี่ยนไปบ้าง เพราะอยู่ในช่วงโควิด-19 แต่เห็นผลสำเร็จที่สำคัญ
อุปทูตรักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยยินดีและเป็นเกียรติที่รองนายกรัฐมนตรีอนุญาตให้เข้าเยี่ยมคารวะ จีนให้ความสำคัญกับมิตรภาพระหว่างไทยจีนเป็นอย่างมาก ในช่วงเวลาที่จีนประสบกับความยากลำบาก ได้รับน้ำใจจากไทยซึ่งคนจีนไม่เคยลืม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เชิญสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ อุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนจีน รัฐบาลไทยส่งความช่วยเหลือให้รัฐบาลจีน นายกรัฐมนตรีไทยได้มีคลิปให้กำลังใจ ซึ่งถือได้ว่าจีนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากมาส่วนหนึ่งจากน้ำใจของไทย ในโอกาสนี้ อุปทูตแจ้งว่าผู้นำจีนฝากความปรารถนาดีถึงรองนายกรัฐมนตรี
ทั้งสองฝ่ายยืนยันพร้อมมีความร่วมมือทั้งด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 รวมถึงการจัดหาวัคซีนในอนาคต รวมทั้งฝ่ายจีนพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพื่อช่วยตรวจหาผู้ติดเชื้อ ซึ่งฝ่ายรองนายกรัฐมนตรีชื่นชมพัฒนาการของจีน และเจตนารมณ์ของจีนที่จะจัดให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลก ตลอดจนทั้งสองฝ่ายยืนยันว่า จะสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 ร่วมกัน
อุปทูตได้กล่าวถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างกันมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วง 8 ปีแรกของปี 2563 นี้ มีตัวเลขการค้าระหว่างกันเพิ่มร้อยละ 6.7 สินค้าการเกษตรของไทยได้รับความนิยมมากในจีน ซึ่งประเทศไทยได้ปรับการขายเป็นแบบออนไลน์ทำให้ชาวจีนได้รับสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพจากไทยอย่างรวดเร็ว การลงทุนซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกนี้ มีโครงการจากจีนที่ขอรับการส่งเสริมจาก BOI ถึง 95 โครงการ นับเป็นเงินกว่าหนึ่งหมื่นเจ็ดพันล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจีนต้องขอขอบคุณความร่วมมือของไทย
รองนายกรัฐมนตรีได้หารือกับฝ่ายจีนเพื่อวางแนวทางแก่ไทยเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ สร้างงาน ให้ประชาชนมีรายได้ เป็นความเข้มแข็งมั่นคงของประเทศต่อไป รวมทั้งได้ปรึกษาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการบริหารน้ำอย่างเป็นระบบ การบูรณาการการใช้น้ำร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฝ่ายจีนรับปากที่จะให้ความร่วมมือกับไทยซึ่งเป็นมิตรประเทศสำคัญเป็นอย่างดี