ผู้กำกับ..ตัวตลกของสังคม?

ผสมโรง

สันต์ สะตอแมน

เซเลบตกยุค

นี่..ผมไม่ได้จะหมายถึงใคร แต่เป็น “คำ” ที่รวมอยู่ในข้อความที่ คุณมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อหลายวันก่อนนู้น

โดยข้อความเต็มมีว่า.. “จักรวาลบันเทิงไทยกำลังจะล่มสลาย และสถาบันดาราไทยก็จะถูกทำลายเป็นอันดับแรก เมื่อคนรุ่นที่คุณทอดทิ้งและไม่ใส่ใจกำลังจะกลายเป็นผู้บริโภคหลัก

และคอนเท้นต์ในทีวีมันล้าสมัยสำหรับพวกเขา และไม่มีใครดูไปนานแล้ว

ดาราอาวุโส ถ้าทำตัวไม่น่านับถือก็กลายเป็นแค่เซเลบตกยุคหรือตัวตลกของสังคม คุณจะเอาไม้เรียวไปไล่ตีเด็กให้มันนั่งฟังคุณไม่ได้อีกแล้ว”

ครับ..ก็ไม่ใช่อยู่ดีๆ คุณมะเดี่ยวจะเสนอทัศนะมุมมองต่อวงการบันเทิงขึ้นมาลอยๆ หากแต่เป็นผลพวงจากที่ดารา นักแสดงรุ่นใหญ่ 3-4 ท่านโดนทัวร์ลง..

กรณีไปวอแวเอากับม็อบเยาวชน-ม็อบปลดแอกนั่นแหละ!

แทนที่คุณมะเดี่ยวจะได้แสดงความเห็นอก-เห็นใจ ปกป้องคนในแวดวงอาชีพเดียวกัน ซ้ำยังเป็นดาราอาวุโสที่ผู้กำกับคนนี้ก็เคยร่วมทำงานด้วย แต่กลับใช้คำซ้ำเติมที่รุนแรง..

“เซเลบตกยุค..ตัวตลกของสังคม” ไปซะงั้น!

ยิ่งกว่านั้น คุณมะเดี่ยวยังมั่นใจอีกว่า.. “จักรวาลบันเทิงไทยกำลังจะล่มสลาย และสถาบันดาราไทยก็จะถูกทำลายเป็นอันดับแรก เมื่อคนรุ่นที่คุณทอดทิ้งและไม่ใส่ใจกำลังจะกลายเป็นผู้บริโภคหลัก”

ก็..ไม่ได้จะขัดใจอะไรหรอกนะ เพียงอยากตั้งข้อสังเกตให้ได้ลองคิดเล่นๆว่า ที่ผ่านมาคุณมะเดี่ยวได้กำกับหนังจากเงินนายทุนมาหลายต่อหลายเรื่อง และแทบทุกเรื่องก็เป็นหนังที่เจาะตลาดวัยรุ่นโดยตรง

แล้วถามว่าทำไม เหตุใด “ผู้บริโภคหลัก” ที่คุณมะเดี่ยวไม่ทอดทิ้งนั้น ถึงไม่ค่อยสนใจ หรือแห่กันไปดูหนังจนโกยเงินเป็นร้อยล้านล่ะ?

อย่างล่าสุดเรื่อง “ดิว ไปด้วยกันนะ” ก็เห็นว่าเป็นหนังดี ได้เข้าชิงถึง 9 รางวัลของชมรมวิจารณ์บันเทิง แต่เก็บเงินตลอดโปรแกรมฉายได้ยังไม่ถึง 20 ล้านบาท


ถามว่า หลายปีมานี้ที่หนังไทยซบเซา สลบไสล หายใจรวยริน เป็นเพราะผู้สร้างทอดทิ้ง “คนรุ่นผู้บริโภคหลัก” หรือ..

เป็นเพราะผู้กำกับมุ่งแต่จะสร้างหนังเกย์  หนังตุ๊ด หนังเลสเบี้ยนเอาใจวัยรุ่นกันแน่ล่ะ..หือ?

และที่คุณมะเดี่ยวมองว่า “คอนเทนต์” ในจอทีวีมันล้าสมัยคนไม่ดูมานานแล้วนั้น จะไม่เป็นการดูถูกดูแคลนคนทำงานในวงการโทรทัศน์ไปหน่อยไหม และถ้าเขาย้อนเอาบ้างว่า..

คอนเทนต์หนังไทยมันเพี้ยน-ทำสนองตัณหาผู้กำกับ คนถึงไม่ดู หนังถึงได้เจ๊ง คุณมะเดี่ยวจะรู้สึกอย่างไรล่ะ?

หรือว่า กูไม่สน เพราะกูไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันอะไรกับทั้งหนังทั้งทีวี. และที่เข้ามาทำงานในวงการนี้ก็หวังแค่เงินกับชื่อเสียง ถ้างั้นก็เอาตามที่สบายใจ

แต่ผมจะบอกให้อย่าง..จะเป็นดาราอาวุโส จะเป็นผู้กำกับรุ่นไหนก็ช่าง ถ้าทำตัวไม่น่านับถือ ก็กลายเป็น..

“เซเลบตกยุค-ตัวตลกของสังคม” เหมือนกันทั้งเพ!

Written By
More from pp
รวมพลังขับเคลื่อนโรคหายาก ปีที่ 12 เพื่อก้าวสู่มิติในการเข้าถึงยาและสิทธิการรักษาให้ครอบคลุมมากขึ้น
ปัจจุบันมีผู้ป่วยทั่วโลกกว่า 300 ล้านคน ที่กำลังเผชิญกับโรคหายาก วินิจฉัยยาก และเข้าถึงกระบวนการรักษาที่ยาก ขณะที่ประเทศไทยคาดว่ามีจำนวนผู้ป่วยโรคหายากสูงถึง 5% ของประชากรทั่วประเทศ หรือกว่า 3.5 ล้านคน ซึ่งมีชื่อโรคหลายพันโรค และ 5% ของโรคเหล่านี้มียารักษาจำเพาะที่มีประสิทธิภาพสูง
Read More
0 replies on “ผู้กำกับ..ตัวตลกของสังคม?”