นายกรัฐมนตรีสั่งเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย มั่นใจสาธารณสุขไทยสามารถรองรับได้

1 ก.ย. 63 เวลา 12.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศที่ชายแดนติดกับประเทศไทย

ซึ่งพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายโรงเรียนในจังหวัดที่มีพื้นที่ตามแนวชายแดน ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเข้าสู่นักเรียน อาทิ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กรณีพบชาวบ้านที่มีอาการไข้สูง 2 ราย ขณะนี้อยู่ภายใต้ความดูแลของโรงพยาบาลแล้ว

ทั้งนี้ ได้มีการเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดในพื้นที่ตามแนวชายแดน ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ รวมถึงกำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้เฝ้าระวังกรณีกระบวนการลักลอบพาชาวต่างด้าวเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ตามช่องทางธรรมชาติ เช่น ผู้ที่ว่ายน้ำลักลอบเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องถูกนำเข้าสู่การตรวจคัดกรองโรค พร้อมสั่งการให้ติดตามผู้ที่กระทำผิดเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำประชาชนต้องไม่ประมาท แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศมาเป็นเวลาหลายเดือน แต่หากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง ไทยมีความพร้อมทั้งด้านงบประมาณ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงการพัฒนาวิจัยวัคซีนที่ได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศ


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า มุ่งเน้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งเสริมให้มีการเดินทางมากขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของธุรกิจสายการบินไม่ให้มีการลดลูกจ้างพนักงาน ซึ่งรัฐบาลจะต้องจัดหางบประมาณเพื่อนำมาผลักดันการจ้างงานเพิ่มขึ้น และส่งเสริมสภาพคล่องของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่มีการใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรในการผลิตยาเสพติด ทำให้มีจำนวนยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น ก็ได้จับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณ ตามพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2564 ในการพิจารณาโครงการต่าง ๆ ว่าจะนำงบประมาณไปใช้ในส่วนใดบ้าง ตามความเหมาะสมและความจำเป็น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยืนยันว่าการใช้จ่ายงบประมาณของกองทัพเรือนั้น เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของประเทศไทยในสถานการณ์ระหว่างประเทศและในภูมิภาคขณะนี้ รวมทั้งยังเป็นการดูแลและปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศด้วย

Written By
More from pp
SAM แต่งตั้ง “นารถนารี รัฐปัตย์” นั่ง MD คนใหม่ มีผลตั้งแต่ 18 มี.ค. 2567
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM มีมติแต่งตั้ง นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ มีผลตั้งแต่วันที่ 18...
Read More
0 replies on “นายกรัฐมนตรีสั่งเพิ่มความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย มั่นใจสาธารณสุขไทยสามารถรองรับได้”