ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
เกือบ 400 คนแน่ะ!
ผมหมายถึงศิลปิน ดารา นักแสดง นักร้อง ตลก ทั้งเคยร่วมต่อต้านคอรัปชั่น ทั้งเคยออกมาปกป้องสถาบันชาติ
ที่กำลังถูก “กลุ่มเยาวชน” บนโลกโซเชียล ขุดคุ้ยชื่อขึ้นมาเพื่อยั่วยุให้สมาชิกที่อยู่ในฝั่งเดียวกัน “ล่าแม่มด” กดดันเหมือนอย่างที่ได้กระทำกับคุณม้า อรภา อะไรทำนองนั้นน่ะ!
ซึ่งมีใครบ้าง ผมเห็นจะขอสงวนชื่อ-แซ่ก็แล้วกัน แต่ที่อยากบอก คือ “ขอขอบใจ” ลูกๆ หลานๆ เยาวชน (คณะนี้) ที่ได้พยายามไปขุดค้นหารายชื่อเหล่าคนบันเทิงที่เคย “ต้านคอรัปชั่น-ปกป้องสถาบันชาติ”
ทำให้ผมได้รู้จักหน้าค่าตาคนบันเทิงเหล่านั้นเป็นใคร และจะได้ขอบอก-ขอบคุณได้ตรงตัว ในสิ่งที่เขา-เธอได้แสดงออกในครั้งนู้น
เพราะผมเชื่อของผมว่า การต่อต้านคอรัปชั่นครั้งมโหฬารของรัฐบาลชุดนั้น กับการปกปักษ์รักษาสถาบันชาติ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง-ดีงาม!
เหมือนอย่างที่กำลังมองและเป็นกำลังใจให้คุณม้า อรนภา ในขณะนี้ ไม่ได้จะเข้าข้าง หรือส่งเสริม สนับสนุนให้คนก้าวร้าว หยาบคาย เพราะนั่นเจ้าตัวคงจะรู้ตัวเองดี
ขอให้คุณม้าอย่าได้ท้อแท้สิ้นหวังหมดกำลังใจกับอุดมคติที่ยึดมั่น-ติดตัวมาทั้งชีวิต กับแค่การ “ถูกปลด” ออกจากหน้าที่พิธีกรรายการโทรทัศน์!
ก็..เข้าใจอยู่ การ “ตกงาน” มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายกับทุกชีวิต และยิ่งได้รู้-ได้เห็นว่าคุณแม่คุณม้าเองก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยที่จะคอยช่วยเหลือลูกได้ในยามไม่มีงานทำด้วยแล้ว ยิ่งเข้าใจความรู้สึก!
แต่ คุณม้าได้ดิ้นรนต่อสู้ด้วยลำแข้งลำขาของตัวเองมาจนปูนนี้แล้ว อยากให้คิดเสียว่า “คุ้มค่า” หากจะโดนปลดจากงานพิธีกร ด้วยเหตุมีอุดมคติ แห่งความดี-งาม ที่ยึดมั่นเป็นเป้าหมายมาทั้งชีวิต!
และผมเชื่อว่า อีกไม่กี่เพลา คุณม้า อรนภา ก็น่าจะได้มีงานการทำเป็นปกติต่อไป ผมยังมองไม่เห็นใครในวงการบันเทิงที่ออกมาต่อต้านคอรัปชั่น ปกป้องสถาบัน แล้วต้องตกงาน!
เห็นไหม..รายชื่อ 310 คนที่กลุ่มเยาวชนขุดคุ้ยขึ้นมา ก็ล้วนแต่เป็นดารา นักแสดง นักร้อง ตลกระดับแถวหน้า-แถวรองที่มีงานทำอยู่เต็มมือแทบทุกคน
ฉะนั้น..ไม่ว่าจะคุณม้าหรือใครก็ตาม หากจะต้องหลุดจากงานเพราะการแสดง “จุดยืน” รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ของตัวเองแล้วล่ะก็..
ขอให้จงภูมิใจ อย่าได้น้อยใจ-ท้อแท้ไปเลย!
นี่..พูดเรื่องนี้ พอดีได้อ่านที่คุณชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า..
“ถ้ากลุ่มคนที่เรียกตนเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยและกำลังติดตามรังควานคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มของตนในทุกวิถีทางอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ในขณะนี้ มีโอกาสใช้อำนาจรัฐ
ประเทศไทยคงมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในสมัยการปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีนช่วงปี 2509 – 2512
รวมทั้งอาจเกิดการเข่นฆ่าประชาชนที่มีความเห็นต่างเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเขมรแดงมีอำนาจปกครองกัมพูชาในช่วงปี 2518 – 2522 ที่มีผู้ถูกฆ่าตายประมาณ 3 ล้านคน
โดยที่ขณะนั้นกัมพูชามีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน
แม้จะเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองไม่มีวันที่จะเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอน แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
จึงขอให้ข้อคิดเพื่อเตือนใจสำหรับประชาชนคนไทยทุกคนที่ยังรักประเทศไทย ศาสนา และยึดมั่นอยู่กับสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย”
ครับ..ก็ขอฝากเตือนลูกๆ หลานๆ ด้วยล่ะกัน!