พวกสืบต่อ “ประชาธิปไตย ๒๔๗๕” โดยเฉพาะคนพรรค “เพื่อไทย-อนาคตใหม่” นี่
น่าจะสำเร็จ “อตีตังสญาณ” นะ!
“จ่านิว” ถูกรุมทำร้าย โดยคนคลุมหน้าซึ่งยังไม่ทราบว่าใครและด้วยเหตุผลใด แล้วหนีไป เมื่อ ๒๘ มิ.ย.๖๒
แต่เพื่อไทย-อนาคตใหม่ “รู้แจ้งแทงตลอด” ว่าคนพวกไหนทำ ทำด้วยเจตนาใด
“สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ทวีตข้อความโดยพลัน
“………….ขอประณามการกระทำรุนแรงนี้ ขอเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบลงมาดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง #คนเห็นต่างต้องไม่โดนทำร้ายอีก”
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มิปล่อยโอกาสให้หลุดลอยปลุกระดมทันที
“จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกกี่ครั้ง ต้องทนอีกกี่หนกับการที่คนธรรมดาผู้กล้าลุกขึ้นสู้กับความไม่เป็นธรรมถูกทำร้ายอย่างป่าเถื่อนโดยไม่ต้องมีใครรับผิดชอบ อย่าปล่อยให้ถึงคราวลูกหลานของคุณ จึงรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญ #หยุดคุกคามประชาชน”
และ….วันพรุ่งนี้
(เสาร์ ๒๙ มิถุนายน)
ผมจะไปร่วมงานที่จ่านิวจัด
อ่านแล้วก็งงๆ ว่า “พรุ่งนี้” งานอะไรที่จ่านิวจัด เพราะไม่เห็นมีข่าวคราว
ก็เลย อ้อ…จากที่ธนาธรฉวยจังหวะ “จ่านิวถูกตี” แล้วโฆษณาประชาสัมพันธ์สืบสานงานบุญคณะราษฎรล้มเจ้าต่อยอด ด้วยข้อความว่า
“๒๙ มิ.ย.ที่อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา”…..
จ่านิวเขาจะจัดงาน รำลึกการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ นั่นเอง
แล้วธนาธรก็ไปเดี่ยวไมโครโฟนในงานบุญคณะราษฎรนั้น และทิ้งวาทกรรมหรูไว้ว่า
“……นายสิรวิชญ์ถือเป็นหนามของผู้ที่ต้องการสืบทอดอำนาจ การทำร้ายครั้งนี้ ถือเป็นการสั่งสอนนายสิรวิชญ์และทุกคนว่า อย่าลุกขึ้นมาต่อต้านอำนาจ”
เห็นมั้ย…
ยังไม่ทันรู้หมู่ รู้แต่จ่า “นิว” แต่ฝ่ายประชาธิปไตย ๒๔๗๕ รู้อดีต-รู้อนาคต แจ่มแจ้งแทงเต็งไปแล้วว่า
“ฝ่ายประชาธิปไตย ๒๕๖๒” จ้ำโบ๊ะ ประมาณนั้น!
“ตู่-จตุพร” นึกว่าเป็นเสือสำนึกบาปไปแล้ว….
แต่ที่ไหนได้ ที่เห็นอยู่ในสภาพแมวลายเสือมาระยะหนึ่ง นั่นแค่ลีลา “ซ่อนเล็บ”
ในงานบุญคณะราษฎรร่วมธนาธร ชาวยุทธจักรจึงได้เสพวลีเฉียบจากจตุพรอีกครา
“……..ที่ฮ่องกงไม่มีใครตีหัวใคร ยังออกมาเป็นล้าน การตีหัวจ่านิว เหมือนตีหัวคนทั้งชาติ”!
เอางั้นเลยนะ!?
แต่ผมได้ยิน “คนทั้งชาติ” เขาบอกว่า เชิญ “หัวจตุพร” ไปหัวเดียวเถอะ อย่าเอา “ทั้งชาติ” ไปตีขลุมให้เลอะเทอะแบบนั้น!
พูดกันในเชิงวิเคราะห์……
“จ่านิว” แค่เบี้ยนอกกระดาน เปลี่ยนชื่อคณะเร่รับงานพอๆ กับคณะลิเก คณะตลก เป็นอย่างลูกชายทักษิณโพสต์นั่นแหละว่า ตาย ๑ เกิด ๑๐
คือหมายความว่า กำจัดจ่านิวไป……….
ก็มีคณะอื่นๆ ประเภทจ่านิว อีกเป็น ๑๐ เป็น ๑๐๐ มาให้พรรค ให้นักการเมือง ให้อาจารย์ที่ไปรับงานมา จ้างเล่นบทเบี้ย “พันมือ-พันตีน” หน้ากระดานอีก
อีกอย่าง จ่านิวเพิ่งโพสต์เฟซอวดไปไม่กี่วัน ว่าได้รับทุนไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยปูเน ที่บอมเบย์หรือมุมไบ รัฐหนึ่งของอินเดีย
สิงหานี้ก็จะเปิดเทอม และจ่านิวก็ต้องไปแล้ว!
อีกทั้งการเมืองตอนนี้ หมดหน้า “ประชาธิปไตยรับจ้าง” ชั่วคราวแล้ว
คือประชาธิปไตย ๒๔๗๕ แพ้ให้แก่ประชาธิปไตย ๒๕๖๒ ไปแล้ว
บ้านเมืองตอนนี้ เข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยตามครรลองมีรัฐสภาแล้ว มีนายกฯ แล้ว อยู่ระหว่างพลเอกประยุทธ์ฟอร์มรัฐบาล
หมดเทศกาลงานรับจ้าง!
แล้ว “เบี้ยนอกกระดาน” อย่างจ่านิว มีความหมายอะไร ที่ต้องไปให้ราคา
สมมุติรำคาญนัก ก็ทนมาได้ ๕ ปี ทนอีกซักเดือน-ครึ่งเดือน มันจะยากเย็นนักหรือ?
จ่านิวไปเป็นว่าที่ “มหาบัณฑิต” ที่ปูเนโน่น ก็หมดรำคาญเก่า จะมีก็ “รำคาญใหม่” ที่มารับช่วงแทน
พูดกันตรงๆ ถ้าฝ่ายประชาธิปไตยล้มเจ้า ๒๔๗๕ คือ เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ไม่กระดี๊-กระด๊า ไม่รีบออกตัวแรง ในทันทีที่จ่านิวถูกทำร้าย
เพราะการกระดี๊-กระด๊า “ป้ายโทษ” ไปทางรัฐบาลทันที-ทันใด โดยที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ นิ้วหนึ่ง ที่ชี้ไปทางรัฐบาล
อีก ๔ นิ้ว มันเลยชี้ทางตัวเอง!
๒๒-๒๓ มิ.ย. พลเอกประยุทธ์ เขามีหน้า-มีตา กับการจัดงานประชุมสุดยอดอาเซียน
ก็อิจฉาตาร้อนผ่าวกันไปแล้ว
๒๘-๒๙ มิ.ย. พลเอกประยุทธ์ ในฐานะประธานอาเซียน ก็ โก อินเตอร์ กระทบไหล่บิ๊กๆ กลุ่มผู้นำเศรษฐกิจโลก G 20 ที่ญี่ปุ่น
อยู่ทางนี้ ๒๘ มิ.ย. จ่านิวก็ถูกตีหัว ทั้งสื่อ ทั้งแก๊งเอ็นจีโอ ทั้งองค์กรโลกลูกมือ CFR
ตีข่าวกันยกใหญ่ หวังให้ข่าวนี้ “ฉีกหน้า” นายกฯ ประชาธิปไตยเลือกตั้ง ที่ชื่อ “พลเอกประยุทธ์” กลางงาน
ความจริง มันก็เหตุการณ์ “ทำร้ายร่างกาย” ทั่วไปนี่แหละ บังเอิญคนถูกทำร้ายเป็น “จ่านิว” เด็กที่ผู้ใหญ่ใช้เป็นเครื่องมือการเมือง
ก็เลยทำเป็นใหญ่ยิ่งกว่าปลาพะยูนเกยตื้น ถึงขั้นกลั่นวาทกรรม จ่านิวเป็นหนามของคนสืบต่ออำนาจบ้าง ตีหัวจ่านิว เท่ากับตีหัวคนทั้งชาติบ้าง
ฟังแล้ว “ปวดท้องเยี่ยว” โดยพลัน!
มันผิด ๑,๐๐๐% อยู่แล้ว ที่ใครไปทำร้ายใคร เป็นหน้าที่ตำรวจโดยตรงที่ต้องไปสืบจับคนร้ายมาให้ได้
ฉะนั้น พูดได้ วิจารณ์ได้…….
แต่การชี้นำ พุ่งเป้า ด้วยเข้าใจเอาเอง ปักใจเอง ส่อจงใจ-เจตนา ว่าฝ่ายนั้น-ฝ่ายนี้ สั่งการ-ลงมือ มันไม่ควรทำ
ทั้งขณะนี้ “เจ้าทุกข์” คือตัวจ่านิวเอง ก็ยังไม่ได้ให้ปากคำ เป็นเบาะแสถึงความน่าจะเป็น ว่าจากสาเหตุใด
นั่นคือ คนร้ายก็ยังจับไม่ได้
จ่านิวก็ยังไม่ให้การ
พยานหลักฐาน อยู่ระหว่างตำรวจสอบสวน-สืบเสาะ
แล้วพรรคฝ่ายค้าน พุ่งเป้า “จับมั่น-คั้นตาย” ไปที่ฝ่ายรัฐบาล ชาวบ้าน ชาวเมือง ก็ชักสงสัย
แบบนี้ “ตีรวน” หวังประชาธิปไตย “ล้างไพ่” เมื่อกูไม่ได้ ก็หาเหตุระดมคนลงถนน สร้างเงื่อนไข “ล้มกระดาน” อย่างนั้นใช่หรือไม่?
ผู้ใช้นาม “ล้านชื่อต้านล้างผิด” โพสต์ fb ไว้ “จ่านิวโดนทำร้าย…ใครได้ ใครเสีย???”
อ่านแล้ว ก็เห็น “ตามเหตุ-ตามผล” ที่เขาแยกแยะไว้ ลองอ่านกันดูนะครับ
วิเคราะห์มุมไหนๆ รัฐบาลก็มีแต่เสีย…ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมีแต่ได้ประโยชน์
เพราะฉะนั้น ใครเป็นผู้บงการทำร้ายจ่านิว…คงชี้ชัดได้ไม่ยาก!!!
รัฐบาล “ในส่วนได้”
-ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เพราะผู้ถูกทำร้ายหรือแนวร่วมก็ยังทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไป เนื่องจากกิจกรรมเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อรัฐบาล
รัฐบาล “ในส่วนเสีย”
-รัฐบาลโดนกล่าวหาใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่าง
-รัฐบาลถูกลดความนาเชื่อถือ แสดงให้เห็นว่าบ้านเมืองไม่สงบ มีปัญหา
-ถูกตอกย้ำความเกลียดชัง
-หากม็อบจุดติด จะสร้างความยุ่งยากในการบริหารบ้านเมือง นำไปสู่เหตุวุ่นวาย บานปลายจนอาจถึงขั้นยุบสภาและลาออก
ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล “ในส่วนได้”
-นำไปปลุกอารมณ์มวลชนให้เกลียดชังรัฐบาล
-เรียกร้องความรับผิดชอบจากรัฐบาล
-ขยายผลไปยังต่างประเทศว่าประเทศไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เผด็จการทำร้ายประชาชน
-ใช้เป็นเชื้อจุดม็อบประท้วงรัฐบาล เพื่อล้มรัฐบาล ล้างไพ่ทางการเมือง แก้รัฐธรรมนูญ เลือกตั้งใหม่ พลิกขั้วอำนาจและล้างคดีที่กำลังพัวพัน
เห็นมั้ย…………
เป็นวิเคราะห์ที่เข้าเหตุ-เข้าผล ดังนั้น อยากให้พรรคและนักการเมืองรักษาบุคลิกภาพความเป็นผู้มีวุฒิภาวะไว้
รอตำรวจจับมือตีหัวจ่านิวมาให้ได้ก่อน
ให้เขาสอบปากคำจนได้ความก่อน และรอให้ตำรวจได้ปากคำจากเจ้าทุกข์ คือจ่านิวก่อน
ถ้าหวยออกมา ฝ่าย “ประชาธิปไตย ๒๕๖๒” ทำจริงๆ
ถึงตอนนั้น ธนาธร เพื่อไทย จตุพร อาจม-อาจารย์แอบจิตทั้งหลาย จะตะโกนว่า………
ประชาธิปไตย ๒๔๗๕ จงเจริญ
ก็ “เชิญตามสบาย”!
