3 ส.ค.63 เวลา 13:30 น. ที่ห้องประชุมท่าอากาศยานเลย อ.เมืองเลย จ.เลย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และคณะ เข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือประชาชนพื้นที่ประสบอุทกภัยบ้านสูบ โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวว่า ในวันนี้ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาติดตามสถานการณ์และลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอเมืองเลย
ทั้งนี้ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดน้อมนำพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการดูแลประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว และดำเนินการตามแนวทางการเผชิญเหตุ
ทั้งการติดตามสถานการณ์ การแจ้งเตือนประชาชน และเตรียมการทั้งด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ บุคลากร ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที และประการสำคัญ คือ การอพยพประชาชน ต้องวางระบบให้สามารถดำเนินการได้ทันทีก่อนเกิดเหตุ
นอกจากนี้ ในการตั้งโรงครัวพระราชทานต้องดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึงเพื่อบรรเทาและผ่อนคลายความเดือดร้อนและทุกข์ของประชาชน และในด้านการฟื้นฟู เมื่อสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายแล้ว ต้องเร่งสำรวจ ประเมินความเสียหาย คาดการณ์งบประมาณค่าใช้จ่าย และเบิกจ่ายให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์ของทางราชการ เพื่อรัฐบาลจะได้ช่วยเหลือส่วนที่ขาดเหลือต่อไป
พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสถาบันการอาชีวศึกษา ร่วมสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน โดยรัฐมีบุคลากร เช่น ทหาร อปพร. นายช่างโยธา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเข้าซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ทั้งฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ตำรวจ หอการค้า และภาคเอกชนในจังหวัด ขอให้ทุกคนช่วยกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน
จากนั้น ในเวลา 14:30 น. ที่วัดศรีสว่างวารี ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา และคณะ ลงพื้นที่ตำบลน้ำสวย อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ในการมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 300 ชุด และพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน