นิพนธ์ ลุยเมืองชล ติดตามแผนป้องกันอุทกภัย-ผลกระทบ EEC พร้อม เน้นย้ำ นโยบายความปลอดภัยทางถนน พื้นที่ภาคตะวันออก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีมอบนโยบายแนวทางในการปฏิบัติงาน การเตรียมความพร้อมเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปัญหาที่ดิน การป้องกันและลงอุบัติเหตุทางถนน และติดตามรับฟังผลกระทบของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี โดยมีนายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดชลบุรี โดยเฉพาะเมืองพัทยาสิ่งที่ต้องแก้ปัญหาคือต้องมาทบทวนแผนเผชิญเหตุและจุดอ่อนไหวที่ล่อแหลม จุดไหนอ่อนไหวที่สุด และให้ความสำคัญกับจุดนั้นก่อน เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวจะปล่อยให้น้ำท่วมเป็นประจำไม่ได้ เพราะมันจะกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและการลงทุน

ฝากให้การตรวจสอบสภาพความพร้อมของอุปกรณ์การใช้งานการระบายน้ำ เช่น เครื่องสูบน้ำ พาหนะ เรือท้องแบน ควรจะต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานในการขนย้ายอพยพ

สิ่งสำคัญที่ควรเน้นย้ำ คือ การกำหนดจุดพื้นที่ปลอดภัยต่อการอพยพคนที่เรียกว่าศูนย์พักพิงชั่วคราว ต่อสิ่งล่อแหลมจากสถานการณ์น้ำท่วม และควรมีการซักซ้อมประจำปีของหน่วยงานต่างๆ ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์จริงใครจะเข้าถึงสถานการณ์เป็นกลุ่มแรกและกลุ่มต่อไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ความพร้อมการแจ้งเตือนประชาชนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ถือเป็นเรื่องจำเป็นเพราะสามารถช่วยลดการสูญเสียได้ จากบทเรียน กรณี พายุโพดุล และพายุปลาบึก ซึ่งมีคนไทยเสียชีวิตเพียง 1 รายเท่านั้น ทำให้เห็นความแตกต่างของตัวเลขความสูญเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้ามีส่วนสำคัญที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ

ดังนั้น การเตรียมความพร้อมจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าการเตรียมการยังไม่เข้มแข็ง ทำให้เห็น ได้ชัดเจนว่าการแจ้งเตือนประชาชนอยู่ในระดับต่ำมาก ด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้สามารถทำได้หลายช่องทาง Facebook Fanpage เว็บไซต์ ไลน์ วิทยุชุมชน ของหน่วยงานต่างๆก็ตาม ถือเป็นการแจ้งเตือนภัยได้ทั้งประเทศ

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการระบายน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจต่าง ๆ อย่างเช่นเมืองพัทยา ถือเป็นอีกเมืองที่มีความต้องการใช้น้ำในฤดูแล้งเพราะเป็นเมืองปลายทาง แต่ก็ต้องดูว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจะสามารถกักเก็บน้ำในส่วนที่ดีไม่มีสิ่งเจือปนไว้ใช้ได้อย่างไร และส่วนไหนควรที่จะปล่อยทิ้งลงทะเล

ซึ่งเรื่องนี้กรมชลประทานจะต้องเข้ามาดูแลบริหารจัดการน้ำยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอความต้องการน้ำเพิ่มมากขึ้นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงความต้องการน้ำในการอุปโภคบริโภคของประชาชน กับปริมาณน้ำฝนที่ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ กักเก็บน้ำมีจำกัดไม่สามารถรองรับการขยายตัวดังกล่าวได้ ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำ


การแก้ปัญหาน้ำขาดแคลนในพื้นที่ EEC ต้องเริ่มจากการสร้างระบบให้เกิดการบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรน้ำที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้น้ำสามารถใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ โดยนำน้ำเสียจากทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และชุมชน กลับมาบำบัดเพื่อนำมาใช้ซ้ำอีกครั้ง เป็นการลดปริมาณการใช้น้ำและแก้ปัญหามลพิษน้ำเสีย

นอกจากนี้ รมช.มท. กล่าวถึง ความปลอดภัยทางท้องถนนในช่วงวันหยุดยาว 25 -​ 28 ก.ค. นี้ ขอให้ทางจังหวัดเตรียมความพร้อมการจราจรและดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชนจำนวนป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน การบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เช่น ขับรถเร็ว เมาขับ และการฝ่าฝืนข้อบังคับจราจร

ทั้งนี้ ได้กำชับให้เพิ่มการเฝ้าระวัง รวมทั้งมีมาตรการป้องกันและแก้ปัญหากับพื้นที่ล่อแหลมหรือจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากข้อมูลสถิติที่มีต่อเนื่องกันมา โดยขอให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมทำงานกับจิตอาสาในพื้นที่เพื่อร่วมกันลดการสูญเสียและความเสียหายที่เกิดขึ้น

ดังนั้น จึงให้จังหวัดได้ดำเนินการจัดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)​ ในทุกระดับทั้ง จังหวัด อําเภอ และท้องถิ่น ให้ติดตามงานและจัดการประชุมสรุปผลการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง พร้อม ทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความสูญเสียบนท้องถนนให้ได้มากที่สุด

ต่อมา นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ติดตามการดูแลความปลอดภัยการท่องเที่ยวแบบ New Normal พร้อมติดตามการบริหารจัดการบำบัดน้ำเสียบนเกาะเสม็ดให้มีประสิทธิภาพ

นายนิพนธ์ฯ กล่าว่า มาติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำเสียของจังหวัดระยองซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจอันดับ 2 ของประเทศ การวางแผนระบบน้ำเสีย อยากให้ทำเป็นระบบเพื่อรองรับในอนาคตอย่างมีประสิทธิภาพในการจัดการน้ำเสียเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของภาครัฐ และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ในฐานะที่องค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลอยู่

โดยให้ท้องถิ่นจับมือกับ อจน.ดูแลแก้ไข แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ บูรณาการในพื้นที่ร่วมกันให้มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนในการมีส่วนร่วมดูแลและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางน้ำ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กับประชาชนในการบริหารจัดการน้ำเสียรวมถึงการตอกย้ำในความร่วมมือของหน่วยงานภาคีด้านการบริหารจัดการน้ำเสียในการร่วมกันบำบัดน้ำเสียเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยได้มีการปรึกษาหารือร่วมกับนายก อบจ.ระยอง ถึงแนวทางการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียบนเกาะเสม็ดและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อการรักษาระบบนิเวศที่ดีต่อไป


รมช.มท. กล่าวถึงการท่องเที่ยวแบบ New Normal ว่า การเตรียมความพร้อมเพื่อการท่องเที่ยววิถีใหม่ให้การกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว การจำกัดนักท่องเที่ยว รวมทั้งความพร้อมเพื่อการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหากเกิดกรณีฉุกเฉิน โดยกำชับเจ้าหน้าที่และนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด การ์ดต้องไม่ตก เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำอีก

Written By
More from pp
มาสด้าคอนเฟิร์มปิกอัพ BT-50 PRO เติมดีเซล B20 ได้
มาสด้าเสริมทัพปิกอัพพันธุ์แกร่ง BT-50 PRO เพื่อรองรับการใช้น้ำมันดีเซล B20 โดยยังคงความเป็นรถปิกอัพที่ตอบสนองการใช้งานได้ทั้งการเป็นรถยนต์นั่งเพื่อทุกคนในครอบครัว และการบรรทุกที่มีสมรรถนะการขับขี่อันทรงพลัง หวังให้ลูกค้ามาสด้าได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยเติมน้ำมันดีเซล B20 ตามนโยบายภาครัฐ   
Read More
0 replies on “นิพนธ์ ลุยเมืองชล ติดตามแผนป้องกันอุทกภัย-ผลกระทบ EEC พร้อม เน้นย้ำ นโยบายความปลอดภัยทางถนน พื้นที่ภาคตะวันออก”