ยื่นน้ำใจ เยียวยา สร้างรอยยิ้ม ไวรัสโควิด-19 ไวรัสตัวร้ายที่คอยกัดกินกำลังใจของคนทั่วโลกอย่างมหาศาล…

ปัจจุบันประเทศไทยมีการควบคุมได้ดีแล้ว แต่สถานการณ์ในต่างประเทศยังคงคุกรุ่น และไวรัสโควิด-19 นี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ดัชนีชี้วัดต่างๆ ตกต่ำลงอย่างไม่หยุดหย่อน ทั้งความเชื่อมั่น เศรษฐกิจ รวมทั้งความสุข

ที่คนเคยบอกว่าเรื่องง่ายๆ ที่จะทำให้คนมีความสุข คือการทำอะไรที่ชอบและถูกใจ แต่การจะวัดค่าความสุขได้น่าจะมาจากพื้นฐานชีวิตที่ดีมากกว่า

เหตุผลหลักๆ ควรจะมาจากครอบครัวที่ดีที่เป็นพื้นฐานของความสุข และเสริมด้วยปัจจัยภายนอกอื่นๆ อย่างสังคมที่ดี อาชีพที่สุจริตที่ใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ ไม่เบียดเบียนใครพอกินพอใช้ มีเสรีภาพในการใช้ชีวิต และการอยู่ร่วมกันแบบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

ปัจจัยทั้งหมดควรเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความความสุขอย่างแท้จริง แต่เมื่อในปัจจุบันเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้คนไม่มีความสุข แล้วใครบ้างที่จะช่วยเหลือเรื่องนี้ได้ดีที่สุด?

คำตอบที่ดีที่สุดน่าจะเป็น “ตัวเอง” เพราะทุกคนควรต้องต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองมากกว่าจะไปหวังพึ่งพิงคนอื่นเป็นหลัก แต่หากมองอีกมุมนึงว่า ถ้ามีใครหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ในตอนที่เรากำลังลำบากก็ดีเช่นกัน และสิ่งนี้จะถูกเรียกว่า “น้ำใจ”

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเลยว่าใครมีน้ำใจกับเราบ้าง คนใกล้ตัวที่เคยคบหากัน เราจะหันไปปรึกษาใครได้บ้าง หรือจะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วยบ้าง ก็ถือว่าเอาเหตุการณ์นี้เป็นตัวกรองที่ดีก็ว่าได้

แต่ต้องขอชื่นชมนะ ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์หนักๆ ขึ้น แต่พื้นฐานจิตใจคนไทยนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยน้ำใจอยู่แล้ว และการหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กันและกันก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนหล่อหลอมให้กลายเป็นกำลังใจให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้

“ตู้ปันสุข” เป็นกิจกรรมดีๆ อย่างนึงที่พิสูจน์ได้ว่าคนไทยชอบช่วยเหลือ จากเกิดไม่กี่ที่ ตอนนี้ก็ลามไปทั่วประเทศแล้ว แม้จะมีภาพที่ไม่ดีออกมาบ้างอย่างคนแห่ไปโกยของที่ตู้ปันสุข แต่อยากให้ดูถึงเจตนาคนทำมากกว่า ว่าอยากแบ่งปันขนาดไหน

นี่ยังไม่รวมกรณีการโอนเงินช่วยเหลือรายบุคคลหรือตามองค์กรต่างๆ ที่พอมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที ก็จะมีคนออกมาขอรับบริจาคกันตลอดเวลา ใจของคนให้ ก็อยากให้ด้วยใจที่อยากช่วยเหลือ แต่ใจของคนรับก็ต้องตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของความเดือดร้อนที่แท้จริง จริงหรือเปล่า?

ยังไม่หมดเรื่องน้ำใจ ไม่ใช่แค่คนทั่วไปที่จะมีน้ำใจให้กันเอง ถ้าไม่นับรวมกับหน่วยงานรัฐที่ได้รับงบประมาณมาจัดสรรดูแลประชาชนในประเทศแล้วนั้น การออกตัวรับภาระต่างๆ ของบางหน่วยงานก็ถือว่าเป็นน้ำใจที่ดีอย่างหนึ่ง

เพราะล่าสุด ปตท. มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาส่วนลดก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ให้กับผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 100 บาทต่อคนต่อเดือน ต่อไปอีก 3 เดือน จนถึงเดือน กันยายน 2563 เรื่องนี้ก็ต้องว่ากันด้วยน้ำใจ เพราะเงินที่เอาไปอุดหนุนไม่ใช่งบประมาณที่จัดสรรมาจากรัฐบาล

แต่เป็นงบประมาณของบริษัทที่จะต้องควักออกมาเพื่ออุดหนุนราคาแม้ต้นทุนจะสูงขึ้นก็ตาม รวมถึงเรื่องที่ยืดเวลาให้ส่วนลดราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติเหลวสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) สำหรับรถโดยสารสาธารณะ เหลือเพียง10.62 บาทต่อกิโลกรัม จากราคาขายปลีกในปัจจุบัน 15.31 บาทต่อกิโลกรัม ต่อไปอีก 1 เดือน จนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 ส่วนนี้ก็เหมือนกัน

เพราะเห็นว่า ปตท. ต้องรับภาระในส่วนนี้ไปกว่า 600 ล้านบาท ถึงใครจะมองว่าเป็นเรื่องที่ควรทำเพราะ ปตท. มีรัฐบาลถือหุ้นหลักอยู่ และการที่รัฐวิสาหกิจรายหนึ่งจะมีแผนเยียวยาประชาชนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เลวร้าย ก็เป็นเรื่องที่สมควรที่สุด

ถือว่าเป็นการลดค่าครองชีพของประชาชนคนไทยที่ตอนนี้กำลังลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก ซึ่งมองอีกนัยหนึ่งก็ถือว่าเป็นการสนับสนุนกำลังใจของคนที่ต้องหาเช้ากินค่ำกันต่อไป ซึ่งกลุ่มคนพวกนี้เองที่เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากวิกฤตครั้งนี้ เพราะตัวเองก็ไม่ได้มีทุนทรัพย์มากพอที่จะสำรองใช้จ่ายไปได้อย่างยาวนาน

แสดงให้เห็นว่าการหยิบยื่นความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้คนในประเทศนั้นมีความสุข…

อีกเรื่องที่อยากจะชื่นชม นอกจากการรับภาระค่าก๊าซไปแล้ว ยังให้การสนับสนุนพื้นที่ให้กับพ่อค้าแม่ขาย ที่ปัจจุบันขายของกันไม่ได้ โดนปิดตลาด หรือยอดขายลดลงต่อเนื่อง

โดยทำโครงการ “ชุมชนยิ้มได้” ใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ออนไลน์ของ ปตท. พวกเฟซบุ๊ก แฟนเพจ PTT News และ We Love PTT หรือกลุ่มไลน์ PTT Group LINE Official เป็นพื้นที่เสนอขายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ

ซึ่งในส่วนนี้ก็เห็นประโยชน์ตรงที่ว่า แม่ค้าพ่อค้าบางคนไม่เคยใช้ช่องทางออนไลน์ในการขายของเลย แต่พอมันหมดหนทางแล้วมีโอกาสที่ ปตท. เสนอเข้ามา ก็ถือว่าเป็นการขยายตลาดอย่างหนึ่ง แถมดีไม่ดีในอนาคตอาจจะรุ่งกว่าขายหน้าร้านก็เป็นได้ เพราะมันเป็นสังคมที่กว้างกว่า และคนส่วนใหญ่เข้าถึงได้

Written By
More from pp
“สุดารัตน์” พร้อมหนุนสตรีให้มีบทบาททางการเมืองมากขึ้น ภูมิใจพา ส.ส.หญิงไทยสร้างไทย เข้าสภาได้ถึงครึ่งหนึ่ง ขอยึดประโยชน์ประเทศชาติ ประชาชนเป็นอันดับแรก
24 มิถุนายน 2566 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่าจากการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา มีส.ส.หญิง ที่ผ่านการเลือกตั้งเข้าสภา 95 คน คิดเป็นร้อยละ...
Read More
0 replies on “ยื่นน้ำใจ เยียวยา สร้างรอยยิ้ม ไวรัสโควิด-19 ไวรัสตัวร้ายที่คอยกัดกินกำลังใจของคนทั่วโลกอย่างมหาศาล…”