17 มิ.ย. 63 เวลา 10.00 น. ที่บริเวณโถงชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) สะพานขาว ถนนกรุงเกษม กรุงเทพมหานคร นางพัชรี อาระยะกุล รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แถลงข่าวในประเด็นการจ่ายเงินตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง
ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ตามที่กระทรวง พม. เสนอ
นางพัชรี กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวครอบคลุมการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง จำนวนรวมทั้งสิ้น 6,781,881 ราย ซึ่งประกอบด้วย 3 กลุ่ม ดังนี้
- เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 1,394,756 ราย
- ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จำนวน 4,056,596 ราย และ
- คนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 1,330,529 ราย
ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิการช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) โดยส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อยและอยู่ในครอบครัวที่ประสบภาวะทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะว่างงานของสมาชิกครอบครัวที่เป็นกำลังแรงงาน
นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเป็นกลุ่มที่อยู่ในฐานข้อมูลของกระทรวง พม. ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2563 ซึ่งได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนอยู่แล้ว ทำให้กลุ่มเป้าหมายทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ต้องลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิช่วยเหลือเยียวยาตามมาตรการนี้ ทั้งนี้ กระทรวง พม. ได้นำข้อมูลกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการมาตรวจสอบความซ้ำซ้อนกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม) ตามความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า ส่วนการจ่ายเงินให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นไว้แล้ว ซึ่งจะต้องยืนยันในรายละเอียดอีกครั้ง หากเริ่มจ่ายได้ทันในเดือนมิถุนายน จะจ่าย 2 รอบ รวมทั้งหมดจำนวน 3,000 บาทต่อราย โดยจ่ายเงินรอบแรกในเดือนมิถุนายน 2563 จำนวน 2,000 บาท (ของเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน) และจ่ายรอบที่สองในเดือนกรกฎาคม 2563 จำนวน 1,000 บาท รวมเป็นวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 20,345,643,000 บาท
ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอนปกติของการจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นไปด้วยความรวดเร็ว โดยการจ่ายเงินแบ่งเป็น 2 ช่องทาง ได้แก่ 1) กรมบัญชีกลางโอนเงินช่วยเหลือเยียวยาโดยตรงไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มเป้าหมายที่เคยได้รับเงินอุดหนุนรายเดือนผ่านบัญชีธนาคารอยู่เดิม และ 2) กรมบัญชีกลางโอนเงินไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะนำจ่ายเป็นเงินสดให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่รับเงินอุดหนุนรายเดือนเป็นเงินสดอยู่เดิม
นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีหากเกิดปัญหาในการจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยา กระทรวง พม. จะดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาให้ถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัด หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน พม. โทร. 1300 บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง