21 พ.ค.63 เวลา 09.30 น. ณ บริเวณป่าดอยสุเทพ บ้านศาลา (ห้วยตึงเฒ่า) หมู่ที่ 3 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีร่วมกิจกรรมฟื้นฟูสภาพป่าจากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าดอยสุเทพ โดยมีตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้ากิจกรรมดังกล่าว โดยกำหนดให้พื้นที่ห้วยตึงเฒ่าเป็นพื้นที่นำร่องในการปลูกป่าจำนวนกว่า 210 ไร่ ถือเป็นการทำงานร่วมกับแบบบูรณาการระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เตรียมกล้าไม้ จำนวน 152 ล้านกล้า เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนทั่วประเทศนำไปปลูกในพื้นที่ของตัวเองด้วย
โอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาลได้มีนโยบายในการปลูกฟื้นฟูสภาพป่าในประเทศไทย เพื่อให้เป็นไปตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 เพื่อให้มีต้นไม้ยืนต้นในประเทศเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกป่าและปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวและสนับสนุนให้ประชาชนได้มีการปลูกไม้ยืนต้นในพื้นที่ของตนเอง
เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายในการปลูกต้นไม้มีค่าซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในอนาคตและเป็นสมบัติให้กับครอบครัวได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีเจตนารมณ์สำคัญ คือ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้ทุกคนมีความรักหวงแหนทรัพยากรป่าไม้และให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจของทุกคนและที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสียหายจากสถานการณ์ไฟป่าในปีนี้
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงทะเบียนปลูกต้นไม้ในโครงการและกิจกรรมปลูกต้นไม้และปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยการร่วมลงทะเบียนปลูกต้นไม้แห่งความจงรักภักดีภายใต้ชื่อ “รวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” สืบสานสู่ 100 ล้านต้น ผ่านเว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th อีกช่องทางหนึ่งด้วย
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีได้ปลูกต้นตะเคียนทองเพื่อฟื้นฟูสภาพป่า จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการประชุมถอดบทเรียนสถานการณ์ไฟป่าภายใต้หัวข้อหลัก “การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างยั่งยืน”