ผบ.ทบ.กำชับหน่วยอย่าลดความเข้มข้นในมาตรการป้อง COVID-19 เดินต่อทุกภารกิจช่วยประชาชนด้วยศักยภาพของหน่วยทหาร ส่วนทหารที่สมัครอยู่ต่อเร่งเพิ่มคุณสมบัติเปิดทางสู่ทหารอาชีพ ส่วนชายแดนมอบทุกกองทัพภาคติดตั้งระบบส่องสว่างเพื่อการตรวจการณ์เช้าวานนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก โดยได้กล่าวขอบคุณกำลังพลโดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ที่ได้ร่วมกันสนับสนุนรัฐบาลและปฏิบัติตามมาตรการของกองทัพบกในการแก้ไขสถานการณ์ไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด
ทำให้สามารถควบคุมและป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ติดตามสถานการณ์และดำรงความเข้มงวดในมาตรการต่างๆ ต่อไป โดยเฉพาะล่าสุดการปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรนของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ควบคู่ไปกับการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ก็ให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามศักยภาพของหน่วย
เช่น การจัดส่งอาหารและเครื่องใช้ให้ประชาชนที่บ้าน, รถครัวสนาม, ผลิตผลจากโครงการทหารพันธุ์ดี การเข้าซื้อพืชผลจากเกษตรกรมาประกอบเลี้ยง, การดูแลพื้นที่ควบคุมโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) การนำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิต การคัดกรองในพื้นที่ชายแดน
ผู้บัญชาการทหารบก ได้อธิบายให้เห็นถึงความสำคัญในภารกิจที่กองทัพบกดำเนินการต่อส่วนรวมอยู่ในขณะนี้ ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน การช่วยภัยแล้ง แจกน้ำ ขุดบ่อบาดาล สกัดกั้นยาเสพติดและสินค้าเกษตรเลี่ยงภาษี การลักลอบเข้าเมือง การบริจาคโลหิต สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ การตั้งด่านตรวจในรอยต่อจังหวัด
การสนับสนุนศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 การช่วยเหลือในเรื่องการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน
สิ่งที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นการใช้ขีดความสามารถของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และหน่วยทหารใน “ปฏิบัติการทางทหารที่นอกเหนือจากการทําสงคราม” ซึ่งถือเป็นภารกิจตามบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก
จึงขอให้ทุกหน่วยได้เสียสละทุ่มเทดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะในห้วงต่อจากนี้ที่อาจเกิดความผันผวนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และมิติอื่นๆ จากผลกระทบของไวรัส COVID-19 จำเป็นที่ผู้บังคับหน่วยและกำลังพลจะต้องศึกษาและเตรียมรับสภาวการณ์เปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และต้องเคร่งครัดในมาตรการที่มีอยู่โดยเฉพาะเรื่องการมีวินัย
รวมทั้งการบริหารจัดการหน่วยดูแลกำลังพล ครอบครัวและประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการบริหารภายในหน่วยทหารในช่วงนี้ให้เน้นเรื่องการดูแลยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงหน่วยและสภาพแวดล้อมตามบริบทในปัจจุบัน จัดการเรียนการสอนภายในหน่วย การพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล ระบบสุขาภิบาล
สำหรับทหารกองประจำการที่สมัครใจอยู่ต่ออีก 1 ปี นั้น ผู้บัญชาการทหารบกให้หน่วยเตรียมดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยมอบให้ กรมยุทธศึกษาทหารบก กรมกำลังพลทหารบก กรมยุทธการทหารบกร่วมกันดำเนินการส่งเสริมให้มีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นด้วยการเรียนในระบบ กศน. พร้อมพัฒนาศักยภาพให้มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดในการเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ หรือข้าราชการทหารต่อไป ตามนโยบายที่กองทัพบกได้ให้โอกาสกับทหารกองประจำการที่สมัครใจอยู่ต่อ
นอกจากนี้ ให้หน่วยพิจารณาจัดโครงการนำทหารกองประจำการกลับไปเยี่ยมครอบครัว ณ ภูมิลำเนา ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการ COVID-19 รวมถึงการดูแลช่วยเหลือครอบครัวทหารกองประจำการตามความเดือดร้อน เพื่อเป็นกำลังใจ และแทนความห่วงใยจากกองทัพบก
สำหรับกองกำลังชายแดนของกองทัพบกที่ยังคงปฏิบัติภารกิจ เฝ้าตรวจ ป้องกันชายแดน จัดระเบียบพื้นที่ แก้ไขปัญหาความมั่นคงและประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านตามพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมาย มีขั้นตอนการปฏิบัติที่รัดกุม เหมาะสม ให้เจ้าหน้าที่มีความรู้ มีความระมัดระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
โดยเฉพาะในเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติด เน้นการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และสำนักงาน ป.ป.ส. และจากการที่ ผู้บัญชาการทหารบกตรวจเยี่ยมกองทัพภาคที่ 4 พร้อมให้ดำเนินการติดตั้งระบบไฟส่องสว่างตามแนวเขตแดนไทย- มาเลเซีย ทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบให้ทุกกองทัพภาคพิจารณาดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวในทุกพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันพื้นที่และเป็นประโยชน์ในการตรวจการณ์ ต่อไป