วันนี้ (19 เม.ย. 63) เวลา 10.00 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off โครงการ พม. “เราไม่ทิ้งกัน” ตามแนวคิด “สำรวจให้พบ จบที่ชุมชน” ที่ชุมชนรุ่งมณีพัฒนา เขตวังทองหลาง กทม. เป็นชุมชนแรกในความดูแลของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. มีความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงออกมาตรการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายและประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วยการขับเคลื่อนโครงการ พม. “เราไม่ทิ้งกัน” ตามแนวคิด “สำรวจให้พบ จบที่ชุมชน” ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็วที่สุด ในชุมชนนำร่อง 286 ชุมชน ของ กทม. ภายใต้การดูแลของ พอช. จำนวน 195 ชุมชน และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จำนวน 91 ชุมชน ซึ่งในวันนี้ได้ลงพื้นที่ชุมชนรุ่งมณีพัฒนาเป็นชุมชนแรก ถือเป็นชุมชนนำร่องที่จัดทำโครงการ “ชุมชนปลอดภัยห่างไกลโควิด-19 ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ที่ส่งเสริมการทำเกษตรเพื่อสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และการดูแลผู้ด้อยโอกาสในชุมชน โดยจะมีการจัดตั้งศูนย์ชุมชนสู้ภัย Covid-19 เป็นแห่งแรก เพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดตั้งครัวกลาง เพื่อช่วยเหลือชาวชุมชนที่เดือดร้อนด้านอาหาร และส่งเสริมการปลูกผัก และการจัดตั้งคลังชุมชน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือต่างๆ การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด การให้ความรู้ในการป้องกันโรคโควิด-19 และการให้คำปรึกษากรณีผู้ที่ไม่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 5,000 บาท
นายจุติ กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ชุมชนในวันนี้ ยังได้พูดคุยผ่านการสื่อสารออนไลน์ ร่วมกับแกนนำ 19 ชุมชน เกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวชุมชนได้รับทราบและเข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งข้อมูลของตนเองและครอบครัวกับผู้ประสานงานชุมชน เพื่อนำไปจัดทำแผนฟื้นฟูชุมชนต่อไป สำหรับชุมชนในความดูแลของ พอช. จะได้รับมาตรการพักชำระหนี้สำหรับองค์กรชุมชนที่ใช้สินเชื่อจาก พอช. โดยไม่ต้องชำระเงินต้น ดอกเบี้ย และไม่คิดดอกเบี้ยในระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ซึ่งองค์กรผู้ใช้สินเชื่อประมาณ 500 องค์กร มีสมาชิกประมาณ 50,000 ครัวเรือน และส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยตามโครงการ “บ้านมั่นคง”