สันต์ สะตอแมน
“ช็อกตาตั้ง” ครับ!
เปล่า..ไม่ได้ช็อกที่ทัพเซปักตะกร้อ “ทีมเดี่ยวชายไทย” พลาดท่าแพ้ให้กับเวียดนาม 1-2 เซต ชวดเข้าชิงชนะเลิศเซปักตะกร้อ ทีมเดี่ยวชาย กีฬาซีเกมส์ 2025 นั่นหรอก!
เพราะ “กีฬา” แพ้-ชนะเป็นของธรรมดา ผ่านมา 32 ปียังไม่เคยแพ้ใคร รู้จักพ่ายเสียบ้างจะเป็นไรไป..ปีหน้า-ฟ้าใหม่ค่อยกลับมาทวงแชมป์คืนให้ได้ก็แล้วกัน!
แต่..ช็อกในที่นี้ของผม ก็ข่าวที่ “ผู้จัดการออนไลน์” นำเสนอ.. “รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานไทยพีบีเอส องค์กรสื่อสาธารณะได้ทําหนังสือร้องเรียน
ไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการนโยบายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (กนย.)
กรณีผู้บริหารระดับสูงได้ทุจริตประพฤติมิชอบโดยการเบิกรถยานพาหนะขององค์กร (รถหลวง) ไปใช้ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ดํารงตําแหน่ง
นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ตําแหน่ง ผู้อํานวยการสํานักข่าว ได้กระทําการทุจริตโดยการใช้รถยนต์ของทางราชการ หรือรถหลวงและน้ำมันรถหลวง
ไปในงานภารกิจส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยการใช้ตําแหน่งหน้าที่ของตนเองในการอนุมัติใช้รถหลวง รวมถึงยังมีการใช้อํานาจในทางมิชอบ
เอื้อประโยชน์ในการอนุมัติรถหลวงให้บุคคลอื่นใช้ ทั้งในภารกิจส่วนตัวและภารกิจที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับงานข่าวจํานวนหลายต่อหลายครั้ง
โดยไม่มีผลการปฏิบัติงานที่เป็นรูปธรรมว่าเกิดประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร เช่น การใช้รถหลวงไปในภารกิจส่วนตัวเมื่อวันที่หมายงาน 02/10/2568 เวลา 11:52 น.
เพื่อไปรับส่งสนามบิน บน.6 ในการไปงานอบรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ นอกจากนี้ยังมีการอ้างไปพบแหล่งข่าวหลายต่อหลายครั้ง
โดยเฉพาะการไปพบพร้อมกับนายเทพชัย หย่อง ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ โดยไม่มีผลการปฏิบัติงานหรือรายงานกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างใดว่า เกิดประโยชน์ใดต่อสาธารณะ
ยิ่งไปกว่านั้นนายก่อเขตที่มีตําแหน่งผู้อํานวยการสํานักข่าวที่มีค่าตอบแทน “Car Allowance” อยู่แล้วจํานวน 27,000 บาทต่อเดือน เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่
แต่กลับยังใช้รถหลวงไปในภารกิจส่วนตัว
ในส่วนของนายเทพชัย หย่อง ยังพบพฤติกรรมว่า มีการนํารถหลวงไปรับส่งแขกในรายการของตัวเองทั้งๆ ที่มีค่าตอบแทนให้กับแขกของรายการอยู่แล้ว
ด้วยในวันที่หมายงาน 28/02/2567 เวลา 17:00 น. เลขที่หมายงาน N-67-02-0962 “ขอรถรับส่งแขกคุณเทพชัยแขกรายการฯ”
นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงอีกหนึ่งรายคือ นางสาวจิตติมา บ้านสร้าง รองผู้อํานวยการสํานักข่าว ด้านบริหาร ที่ได้รับตําแหน่งดังกล่าว ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
พบพฤติกรรมยังเบิกใช้รถหลวงไปใช้ในงานส่วนตัว รับส่งสนามบินอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกันทั้งๆ ที่มีค่ารถประจําตําแหน่งเช่นเดียวกันเดือนละ 15,000 บาท
ร้อง กนย.แต่ไม่ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทําแค่ให้ชี้แจงกลับ”
เนี่ย..จะไม่ช็อกได้อย่างไร ในเมื่อองค์กรที่ว่านี้ มีหน้าที่เป็นสื่อสาธารณะด้านวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ที่ได้เงินอุดหนุนจากภาครัฐปีละ 2,000 กว่าล้านบาท
แต่..แทนที่จะเป็นองค์กรที่ยึดมั่นในจริยธรรมและความโปร่งใส ภายในกลับมีพฤติกรรมให้เห็นถึงการใช้อำนาจในทางมิชอบและการใช้ทรัพยากรขององค์กรเพื่อประโยชน์ส่วนตน
กรณีนี้ จึงใคร่ขอชื่นชมพนักงานไทยพีบีเอสที่ไม่ยอมปิดปาก-ปิดตาตัวเอง ยังพอมีความกล้าหาญทำหนังสือร้องเรียน..
ทำให้มีข่าวเล็ดลอดออกมาให้สังคมได้รับรู้ว่า ภายในองค์กรสื่อสาธารณะแห่งนี้ ทั้งมีการทุจริต ทั้งมีการใช้อำนาจในทางมิชอบ!
ซึ่งแม้การร้องเรียนจะยังไม่ได้รับการตอบสนอง ยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง แต่พลันมีข่าวออกมาสู่สาธารณะอย่างนี้..
ไม่วันนี้-พรุ่งนี้น่าจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง..เชื่ออย่างงั้น!
เอ้า..แล้วนั่นก็คง “เชื่อ” ด้วยผลงานที่ประจักษ์ นักแสดง-พิธีกรหนุ่ม คุณน็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์ จึงได้โพสต์..
“ถ้านักการเมืองทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองกันจริงจัง แบบมืออาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยจะดีขนาดไหนน้อวววววว…
เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคไหนนำเสนอ รมต. มืออาชีพแบบนี้ เอาคะแนนผมไปเลยจ้ะ”
ซึ่งก็น่าจะมาจากข่าวความสำเร็จของ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เดินทางไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย
และสามารถปิดดีลความร่วมมือกับบริษัท ARASCO ผู้นำด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ส่งผลให้มีการสั่งนำเข้ามันสำปะหลังอัดเม็ดจากประเทศไทยเพิ่มทันที 30,000 ตัน
และตั้งเป้าขยายปริมาณการนำเข้าในปีหน้าสูงถึง 100,000 ตัน..นั่นกระมัง?
งั้น..บอกเสียตามตรงดีไหม..พรรคภูมิใจไทยไงล่ะ!.
สันต์ สะตอแมน

