ได้เวลา “นับถอยหลัง” #เปลวสีเงิน

เปลว สีเงิน

ไอ้ “ฮวยเซ็ง” เอ้ยยยย!

คงนึกว่าคนทั้งโลก รวมทั้ง ยูเอ็น, คณะผู้สังเกตการณ์ ไม่เว้นกระทั่ง “ประธานาธิบดีทรัมป์”

ล้วน “โง่” ตามไม่ทันเล่ห์พวกมึงยังงั้นละซีท่า!?

จะบอกให้ ไอ้ที่ยิงถล่มไทยที่ “บ้านหนองหญ้าแก้ว” วันก่อนแล้วเล่น “ละครตบตา” ฟ้องโลกว่า

“ไทยยิงก่อน” ถูกชาวบ้านเจ็บ ๓ ตาย ๑ แล้วรีบเผา (โลงเปล่า) ทันที-ทันใด พร้อมกับไป “ฟ้องยูเอ็น” ตามฟอร์ม ว่า “ไทยรุกราน” นั้น

เขารู้กันทั้งโลกแล้วแหละ ว่าพวกมึง “ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” เป็นพวก “ไอ้เด็กเลี้ยงแกะ”

ตอนนี้ ไม่มีใครเขาเชื่อเขมร ๒ พ่อลูกนี้แล้วหละ!

นอกจากไม่เชื่อ เขายังรังเกียจความเป็นประเทศ “ศูนย์กลางอาชญากรรมทางไซเบอร์” ในภูมิภาค จนอยากตัด “ประเทศเขมร” ออกจากสมาชิกประชาคมโลกด้วยซ้ำ

ผมดูนักวิพากษ์หน้าช้ำๆ ทางหน้าจอโทรทัศน์ เขาก็รักชาตินะแต่ชอบด้อยค่าประเทศตัวเองจัง

เอะอะก็ว่า ไทยตามไม่ทันเล่ห์เขมร ของเขาฉับไว เกิดเรื่องปุ๊บ ออกข่าวก่อนปั๊บ พาคณะผู้สังเกตการณ์ไปดูจนเจ็บ-คนตาย

ทำหนังสือ “ฟ้องยูเอ็น” ปานว่า “ทำเตรียมไว้ล่วงหน้า” เสร็จสรรพแบบมืออาชีพ

ฝ่ายเราแต้มคูไม่ทันเค้า พูดจา-ชี้แจงความจริงทีหลังเค้า คำชี้แจงก็เลยกลายเป็น “คำแก้ตัว” ไป ประมาณนั้น!

ผมก็ว่านะ….

ถ้า “ประชาคมโลก” มีแต่คนโง่กว่าเขมร จนเขมรพูดอะไรก็เชื่อไปหมด แบบนั้น ก็ช่วยไม่ได้

ก็ต้องปล่อยให้ประชาคมโลกเป็น “บัวเต่าถุย” ไปตามเวร-ตามกรรม ส่วนเรื่องเขมร เราจัดการเองได้!

ในกรณีนี้ ใครที่ว่าไทย “ทันโลก-ทันเกม” สู้เขมรไม่ได้ ทำงานเชิงรุกไม่เป็น นั้น

ผมขอบอกว่า สังคมไทยทุกวันนี้ ยังมีคน “ไม่ยึดอัตตา-จิตไม่ริษยา” ยังมีอยู่มาก มองเห็นศักยภาพการทำงานของไทยด้วยกัน และพร้อมที่จะให้กำลังใจกัน อย่างเช่นจากโพสต์นี้

………………………………………………

Thailand FACT Today

ขอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศ

น่าชื่นชมอย่างยิ่งต่อความรวดเร็วและความเด็ดขาดของ กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ที่สามารถแสดงบทบาทเชิงรุกและตอบสนองต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ได้อย่างทันท่วงทีและรอบด้าน

เพียงไม่ถึง 48 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด กระทรวงการต่างประเทศได้ เชิญเอกอัครราชทูตและผู้แทนจาก 59 ประเทศ

รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศรวม 71 หน่วยงานเข้ารับฟังการบรรยายสรุปข้อเท็จจริง แบบเห็นหน้า เห็นตัว และเปิดให้สอบถามทุกประเด็น

จริงๆ งานนี้ จะเริ่มใน 24 ชั่วโมง แรกหลังเกิดเหตุ แต่ มันเร็วเกินกว่าที่นานาชาติจะตัดสินใจตอบรับ

เลยรอให้เวลาล่วงไปสักพัก เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการสื่อสาร

เพื่อให้ประชาคมโลกเข้าใจจุดยืนของประเทศไทยอย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา

นอกจากนั้นเรายังได้เรียกร้องให้กัมพูชา

1.ขอโทษ

2.ลงโทษผู้กระทำผิด

3.ป้องกันเหตุซ้ำ

ถือเป็นการ “สื่อสารทางการทูตเชิงรุก” ที่ไม่ปล่อยให้ข้อเท็จจริงถูกบิดเบือน

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ดำเนินการในทุกมิติ ส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการถึงรัฐบาลกัมพูชา

ประสานญี่ปุ่นในฐานะประธานภาคีอนุสัญญาออตตาวา

และแจ้ง “สหรัฐอเมริกา–มาเลเซีย” ในฐานะประเทศสักขีพยานของ Joint Declaration

เพื่อให้ทุกฝ่ายรับรู้ถึงการ“ละเมิดอธิปไตยของไทย” พร้อมเตรียมส่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ” เดินทางไป ร่วมประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ณ นครเจนีวา ด้วยตนเอง

เพื่อยืนยัน “จุดยืนของไทย” บนเวทีโลก

นับเป็นการเคลื่อนไหวที่ รวดเร็ว รอบคอบ และหนักแน่น แสดงถึงการทำงานแบบ “ทีมประเทศไทย”

ที่ไม่เพียงปกป้องผลประโยชน์ของชาติ แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาคมโลกว่า “ไทยยึดมั่นในหลักสันติวิธีและความจริงใจทางการทูต”

แน่นอนว่าเราคงคาดหวังคำขอโทษหรือการยอมรับผิดจากทางกัมพูชาไม่ได้ แต่นี่คือความรวดเร็วในการสื่อสาร เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชา ชิงนำ “เล่นบทเหยื่อ”

ในยุคที่โลกหมุนเร็ว การที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยสามารถตอบสนองได้ในระดับ “วันต่อวัน” เช่นนี้

คือภาพสะท้อนของการบริหารงานแบบ “มืออาชีพ” ภายใต้แนวทางของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับทั้ง ศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติ

ควบคู่ไปกับการ “โต้ตอบอย่างเป็นสากล” บนพื้นฐานของความรอบคอบ เหมาะสม สูงที่สุด

………………………………………..

ยังมีอีกนะ “นักรบไทยทางข่าวสาร” แทนที่จะนั่งวิจารณ์ อวดรู้นั่น-ตำหนินี่ เขากลับทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประเทศ ด้วยข้อมูลจริงไปหักล้างข้อเท็จฝ่ายเขมร

………………………………………..

Bangkok I Love You

เปิดโปงความจริง! เขมรยิงประชาชนตัวเอง “ป้ายสีไทย” อ้างทหารไทยใช้ปืน RPD ยิงประชาชนแต่หลักฐานชี้ชัด “เขมรใช้เอง!”

หลังเกิดเหตุที่เขมรอ้างว่าทหารไทยใช้อาวุธปืน RPD ยิงใส่ประชาชนเขมรในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว ล่าสุด มีการตรวจสอบข้อมูลด้านยุทโธปกรณ์อย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่าข้อกล่าวหาของเขมร “ผิดเต็ม ๆ”

และมีเจตนา “ป้ายสีไทย” อย่างชัดเจน โดยมีข้อมูลดังนี้

1.เขมรอ้างไทยใช้ปืน RPD กระสุน 7.62×39 มม.ยิงประชาชนในเขตหมู่บ้านเปรยจันทร์

ข้อเท็จจริงคือ ไทย “ไม่ใช้” และไม่ประจำการปืนชนิดนี้ เพราะกองทัพไทย ใช้ระบบอาวุธมาตรฐาน NATO ได้แก่

5.56×45 มม.

7.62×51 มม.

แต่ปืน RPD คือ ยุทโธปกรณ์ยุคโซเวียต ใช้กระสุน 7.62×39 มม. ซึ่งไม่ใช่มาตรฐานของกองทัพไทย

และไม่ได้อยู่ในบัญชีประจำการของไทยเลย!

จึงเป็นไปไม่ได้ 100% ที่ไทยจะใช้อาวุธชนิดนี้ยิงประชาชนเขมร

2.ภาพหลักฐานชัดเจน RPD คืออาวุธที่ “กองทัพเขมรใช้เป็นประจำ”

จากภาพที่แพร่ในโซเชียลและสื่อกัมพูชาเอง แสดงให้เห็นว่า ทหารเขมรถือปืน RPD กลุ่มติดอาวุธเขมรใช้ RPD ในการฝึกและลาดตระเวน

ปืน RPD แบบเดียวกับภาพเหตุการณ์ถูกใช้งานในหลายหน่วยของเขมร

นี่คือ หลักฐานเชิงภาพ ว่าปืนที่เขมรกล่าวหาว่าไทยใช้นั้น เป็นอาวุธประจำการของเขมรเอง

3.“ฉากละคร” ชาวเขมรถูกแต่งเอฟเฟกต์แผลเพื่อป้ายสีไทย

ในภาพที่แนบมา พบพิรุธหลายอย่าง เช่น

ผู้บาดเจ็บสวมชุดเดิม ขับรถเข้าฉากเองอย่างสบาย ไม่สอดคล้องอาการบาดเจ็บ

แผลถูกแต่งให้มีลักษณะคล้ายเครื่องสำอางเอฟเฟกต์ มีการตั้งกลุ่มช่างภาพ เตรียมถ่ายทำเหมือน “จัดฉากมาก่อน”

แผลเล็กน้อยแต่กลับติด “สายน้ำเกลือ” ราวกับสร้างภาพเหตุฉุกเฉิน

พฤติกรรมทั้งหมดนี้ชี้ว่า “มีการจัดฉาก” เพื่อสร้างสถานการณ์กล่าวหาไทยต่อเวทีโลก

เมื่อรวมหลักฐานทั้งหมด สามารถสรุปได้อย่างมีน้ำหนักว่า:

  1. ปืนที่ถูกกล่าวหา “ไม่ใช่ของไทย” และไทยไม่มีประจำการ
  2. ปืน RPD เป็นอาวุธของกองทัพกัมพูชา
  3. ภาพเหตุการณ์มีลักษณะ “จัดฉาก–สร้างเรื่อง” ใส่ร้ายไทย
  4. ฝ่ายเขมรอาจยิงประชาชนของตนเองเพื่อสร้างเหตุทางการเมืองและบิดเบือนข้อเท็จจริง

การบิดเบือนข้อมูลในสื่อ

เพื่อทำให้ไทย “เสื่อมเสียชื่อเสียง” ในสายตานานาชาติ

ประเทศไทยยืนยันในความบริสุทธิ์

และขอให้สื่อโลกตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ไม่ตกเป็นเหยื่อการบิดเบือนใด ๆ

………………………………………….

ข้อความนี้ของคุณ Bangkok I Love You มี ๓ ภาษา คือทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน

เสียดาย เนื้อที่ตรงนี้ไม่พอรองรับ แต่ท่านหาอ่านได้ในเฟซบุ๊ก “เปลว สีเงิน”

นี่ก็แสดงว่า ทั้งรัฐ-ทั้งราษฎร์ รวดเร็ว-ฉับไว รวมใจยามชาติมีภัย ไม่อวดรู้-อวดเก่ง ตามหน้าจอเหมือนพวกขาประจำ ที่ชอบเอาตีนราน้ำ

ตรงข้าม อะไรที่ “เพื่อชาติ” ทำได้…ทำทันที โดยไม่เกี่ยงว่า หน้าที่ข้า-หน้าที่เอ็ง”!

งานนี้ ขอบอกว่า “ไอ้ฮวยเซ็ง” ถือไพ่ “แต้มบอด” แต่ทำเป็นเก๋า เกลักไก่

เหอะ…ปล่อยให้ซ่าซักพัก เดี๋ยวไก่มันก็ถูกหักปีกไขว้

แล้ว “เชือดคอ” เอาเลือดล้างตีน!!!

เปลว สีเงิน

๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

Line Open Chat *เพิ่มช่องทางการรับข่าวสาร จากเว็บไซต์ *อ่านคอลัมน์ เปลว สีเงิน ก่อนใคร *ส่งตรงถึงมือทุกคืน *เปิดกว้างเพื่อแฟนคอลัมน์พูดคุยแบบกันเอง ทุกเรื่องราว ข่าวสารบ้านเมือง สังคม ฯลฯ

 

Written By
More from plew
ณ ประตู “มณีนพรัตน์” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๒” กษัตริย์ผู้ครองราชย์มา ๗๐ ปี ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต เมื่อ ๙ กย.๖๕...
Read More
0 replies on “ได้เวลา “นับถอยหลัง” #เปลวสีเงิน”