เปลว สีเงิน
ขึ้นชื่อ “ทหารไทย” ไม่เคยกลัว “ทหารเขมร”
แต่ตอนนี้….กลัวแทบคลุมโปง!
เพราะพอตะวันลับฟ้า ความมืดเหมือนหมึกดำสาดคลุมป่า หมาไทยหรือหมาเขมรแยกสำเนียงไม่ออก
จะประสานเสียงหอนโหยหวนรับกันเป็นทอดๆ ฉีกความเงียบสงัดของป่า คละเคล้ากลิ่นเหม็นรุนแรงที่โชยคละคลุ้งจนแสบจมูก-ขมคอ ตลอดคืน
ปรื๊อออออ!!!!!
จะไม่กลัวยังไหว ก็อ่านที่ “คุณคณานันท์ ทวีโชค” โพสต์นี่ซี……………………………..
คณานันท์ ทวีโภค
- ด่วน !!!!!
ได้รับประสานจากทหารชายแดน
ตอนนี้ต้องการหน้ากากอนามัย (มากกว่าผ้าอนามัย)
ศwทหารเขมรเหม็นเน่ามาก (ตุยกันเยอะแล้วไม่มีใครเก็บ) ส่งกลิ่นเน่า จนทหารไทยกินข้าวบ่ได้
ข้าวบ่แซ่บเลยยยย
🖤🖤🖤
สีอะไรก็ได้ แต่สีดำก็จะดีที่สุด พรางสายตาได้
🖤🖤🖤
#ยาหม่องหลวงพ่อ, ยาดมหงษ์ไทย ก็พอบรรเทาได้บ้างครับ
ที่อยู่จัดส่งตามนี้ค่ะ (เขียนแบบนี้ได้เลย)
#ส่งให้ทหารชายแดน (หน้ากากอนามัย)
จ่าอ๊อฟ ทหารม้า nco.948
0821320786
มณฑลทหารบกที่ 25 (ค่ายวีรวัฒน์โยธิน)
ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์ 32000
#ไทยนี้รักสงบเเต่ถึงรบไม่ขลาด
………………………………………….
รบน่ะ….ไม่ขลาดหรอก
แต่ขอให้มาเป็นตัวเป็นๆ เถอะ
แต่นี่ มาเป็น “ผีทหารเขมร” เป็นสิบ-เป็นร้อยศพ นอนเน่าอืด เกลื่อนกลาด กองทัพเขมรไม่ยอมเก็บไปประกอบพิธีให้สมเกียรตินักรบ
ช่างบัดซบผู้นำจริงๆ
ถือเป็นโชคร้ายที่ไปเกิดเป็น “ทหารเขมร” และมีผู้นำอย่าง “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต”
พูดถึงการอยู่กับศพกลางป่ามืดๆ ค่ำๆ เป็นผมละก็ ไม่แค่คลุมโปงหรอก เจอแบบนี้ จับไข้หัวโกร๋นไปแล้ว!
ก็คิดดูซี อยู่ในป่ามืดตึ๊ดตื๋อ หมาเห็นผีถึงหอนหรืออย่างไรก็ไม่รู้หละ รู้แต่ว่า ขนาดหมามันยังเหม็นจนต้องร้องครางด้วยเสียงสอง
แล้วทหารซึ่งเป็นคน จะทนกลิ่นศพทั้งวัน-ทั้งคืนได้ไงไหว!
ฉะนั้นก็ ……
พวกเราก็ช่วยกันจัดไป ทั้งหน้ากากอนามัย ทั้งยาดม แถมผ้ายันต์กันผีส่งไปด้วยก็ดี จะได้อุ่นใจหน่อย
ช่วงนี้ “๔-๗ สิงหา.” จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-เขมร ที่มาเลย์
ดูไป-ดูมา ถ้าจะเป็นงานใหญ่ซะแล้วละ…วิ!
ใหญ่-ไม่ใหญ่ ก็ดูจากข่าวนี่ละกัน
๓ ส.ค. “สำนักข่าวเบอร์นามา” แชร์เพจเฟซบุ๊ก Khalen Nordin ของ “ดาโต๊ะ ซรี ฮาจิ โมฮาเม็ด คาเล็ด บิน นอร์ดิน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย
พร้อมภาพการประชุม “ไตรภาคี” ผ่านวิดีโอทางไกลกับ “รักษาการรัฐมนตรีกลาโหมไทย” และ “รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา”
โดยระบุว่า…..
“บ่ายวันนี้ ผมจัดการประชุมไตรภาคีผ่าน video conference กับ “พลเอก เตีย เซรย ฮา” รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประเทศกัมพูชา
และ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” รักษาการรัฐมนตรีกลาโหม ประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมี “พลเอก Tan Sri Hj Mohd Nizam Hj Jaffar” ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย
และ “Mohd Yani Daud” รองปลัดกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย เข้าร่วมด้วย
การประชุมครั้งนี้ เป็นขั้นตอนสําคัญในการเตรียมการสู่กัมพูชา – ประเทศไทย (GBC) กําหนดการประชุมในวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๘ ที่กัวลาลัมเปอร์
ด้วยจิตวิญญาณของอาเซียน มาเลเซียมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ที่จะสนับสนุนกระบวนการที่นําอาเซียนไปสู่ความสงบเรียบร้อย สอดคล้องกับค่านิยมของภูมิภาคที่มีร่วมกันของเรา
การประชุมในวันที่ ๗ สิงหาคม จะรวมถึงผู้สังเกตการณ์จากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และสาธารณรัฐประชาชนจีน (PRC) ก่อน GBC ตัวแทนจากทั้งสองประเทศ จะประชุมเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ ๔ ถึง ๖ สิงหาคม
การอภิปรายนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกฝ่ายที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพและพูดคุยอย่างสร้างสรรค์
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งนี้จะเป็นส่วนร่วมในการรักษาความสงบสุขและความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน
มาเลเซียพร้อมที่จะอํานวยความสะดวกและสนับสนุนทุกขั้นตอนของกระบวนการอันสงบสุขนี้”
เห็นมั้ยครับ….
จาก “ทวิภาคี” คือเป็นเรื่องที่ “ไทยกับเขมร” จะถกกันเอง แตกดอก-ออกช่อเป็น “ไตรภาคี” ไปแล้ว!
และยังมีทั้ง “มาเลเซีย-สหรัฐอเมริกา-สาธารณรัฐประชาชนจีน” เข้าร่วมสังเกตการณ์
มันซ่อนเงื่อน-ซ่อนปม ชวนฉงนอยู่นะ วิ….ว่างั้นมั้ย?
ลองฟัง “พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์” ตัวแทนรัฐบาลและตัวแทนกองทัพบ้าง ว่าท่านจะว่าไงกับการประชุม GBC รอบนี้
ท่านบอกเมื่อวาน (๓ ส.ค.)ว่า …..
กรอบที่จะไปเจรจา รวมทั้งรายละเอียดที่จะไปหารือในวงประชุม GBC กับเขมร วันที่ ๗ สิงหา.นั้น
“ไม่ขอพูด”!
แต่บอกได้ว่า ทั้งหมดเสนอเรื่องต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แล้ว และสมช.ได้อนุมัติเรียบร้อยแล้ว
มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นแหละครับ แต่ท่านไม่ได้บอกว่าในคณะเจรจามีใครไปบ้างนอกจากตัวท่าน
ผมดูรูปแบบแล้ว มาเลย์ เหมือนนายสนาม ไทย-เขมร เป็นนักมวย ส่วนสหรัฐฯ และจีน นอกจากเป็นผู้สังเกตการณ์แล้ว
ยัง “วางเดิมพัน” เป็นการถือหางกันอยู่ในเชิงด้วย!
เค้าลางแห่งความยุ่งยาก-ซับซ้อนในความเป็นเจ้าอ่าวไทยมันเริ่มเป็นรูปร่างจริงจังขึ้นมาแล้ว
ปัญหาชายแดน “ไทย-เขมร” มันเป็นเพียง “ฉากอาศัย” ที่สหรัฐ-จีนเข้ามาคุมเชิงซึ่งกันและกันทางยุทธศาสตร์และการพาณิชย์เป็นหลักใหญ่
ประเด็นสำคัญสำหรับไทย การจะได้หรือจะเสียขึ้นอยู่กับรู้จักคำว่า “รู้เขา-รู้เรา แสร้งเขลาในเรื่องฉลาด” มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น!
ไทยกำลังเข้าสู่ “จุดเปลี่ยน” ครั้งใหญ่ในรอบศตวรรษ
ซึ่งน่าหวาดเสียว
เพราะประเทศอยู่ในช่วงที่มี “รัฐบาลที่ล้มเหลว” เป็นผู้บริหาร
แต่โชคดีนิด ที่คู่ขัดแย้งคือเขมร เป็นอาชญากรสงคราม ทั้งไม่ใช่คู่มือที่จะปะทะกับไทย
ที่โชคดีมาก คือ ในขณะที่รัฐบาลล้มเหลว…..
ไทยมี “กองทัพเปี่ยมวิสัยทัศน์”
พัฒนาล้ำหน้าด้วยอาวุธและยุทธการเทคโนโลยี ทั้งมีกำลังพลที่ชาญฉลาดและเข้มแข็ง
ก็หวังว่า ไทยที่ถูกใช้เป็นตัวเดินบนกระดานหมากรุกโลก โดยมีสหรัฐ-จีนเป็นผู้เดิน
“พลเอกณัฐพล” คงไม่ทำให้เสียชื่อ “กองทัพ” และไม่ทำให้คนไทยทั้ง ๖๐-๗๐ ล้านคน ต้องผิดหวัง
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ที่ไทยได้ภาษีทรัมป์ ๑๙% นั้น เบื้องหลังรัฐบาล “เอาอะไรไปแลก” โดยไม่บอกให้คนไทยรู้?!
กับเขมร ไม่แปลกใจ
กับไทย มันน่าฉงน และยิ่งฉงนใหญ่ กับความกระตือรือล้นของทรัมป์ ที่สอดเข้ามาเป็น “มิสเตอร์สันติภาพ”
กับเรื่องยิบย่อยของไทย-เขมร เมื่อเทียบกับปัญหาโลกขณะนี้?
ฉะน้น มันน่าระแวง ในเมื่อพจนานุกรมการเมืองของสหรัฐฯ คำว่า Give เดี่ยวๆ ไม่มี
เท่าที่เห็น จะต้องมีคำว่า Take เป็น Give and Take คู่กันตลอด!
เมื่อเอาอก-เอาใจ และสนใจไทย เข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ปัญหาชายแดนไทย-เขมร
ไทยในฐานะ “เจ็บหลายครั้ง แต่ไม่เคยจำสักครา”
ครั้งนี้ ก็คอยจับตาดูว่า สหรัฐฯ หวังจะ Take อะไรกับเรา?
เอาเถอะ จากทวิภาคี แตกตาเป็นไตรภาคี และแตกหน่อเป็นจตุภาคี เล็งญานแล้ว ไทยเราจะได้ประโยชน์ บนฐาน “ความชอบธรรม” ในเรื่องดินแดน
เขมรจะถูกยื่นเงื่อนไขที่ไม่สามารถปฎิเสธได้ ฐานที่ทำป่าเถื่อนกับไทยในเรื่องดินแดนอันมิใช่ของตน!
เนี่ย…ในความเป็นเด็กเลี้ยงแกะของเขมร
ประชาคมโลกเขารู้หมดแล้ว ขณะนี้ สหประชาชาติ สหรัฐฯ และ มาเลเซีย เรียกร้องให้มีการสอบสวน กรณีเขมรยิงจรวด BM-21 ใส่พลเรือนที่ศรีสะเกษ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ตายและบาดเจ็บจำนวนมาก
ทั้งยิงถล่มโรงพยาบาล โรงเรียน ชุมชน ปั้มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ พังเสียหาย ไฟลุกไหม้ เข้าข่าย “เขมรก่ออาชญากรรมสงคราม”
เรื่องจะไปถึง “คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSCR) และไปถึง “ศาลอาญาระหว่างประเทศ” (ICC) แน่
เตรียมตัวไว้เหอะ ทั้งพ่อ-ทั้งลูก ตระกูลฮุน นั่นแหละ!
UN-สหรัฐ-มาเลย์ เขาให้เขมรเปิดทางให้ “คณะกรรมการอิสระ” เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่และเก็บข้อมูลในเขมรแล้ว
เพราะตลอดมา เขมรไม่ยอมให้สื่อและคณะทูตได้ตรวจสอบเลย นอกจากที่อยากให้เห็นแล้วพาไปดูเท่านั้น
พี่น้องไทย รักกันให้เหนียวแน่นเข้าไว้นะ
เรื่องหยุมหยิมเล็กน้อย ก็มองข้ามกันไปซะบ้าง เพราะเรื่องใหญ่กำลังทยอยเกิดกับบ้านเมืองเรา
“เตรียมตัว” และ “เตรียมปรับใจ”
พบกับความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ “ดีกว่า” กันไว้เถอะ.
เปลว สีเงิน
๔ สิงหาคม ๒๕๖๘
