“พิชิต” เรียกร้อง นายกฯ แพทองธาร ต้องลาออก รับผิดชอบคลิปเสียงหลุดลามปะทะชายแดน มองเป็นเรื่องอัปยศอ้างต้นเหตุสงคราม เกิดจากนโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซัดรัฐบาลคือจุดอ่อนของประเทศ

2 สิงหาคม 2568 – ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมแสดงพลังห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า การชุมนุมในวันนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากครั้งก่อน แต่ข้อเรียกร้องเดิมคือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบต่อกรณีคลิปเสียงหลุด เพราะผลของคลิปหลุดทำให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบ ทหารได้รับการบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

นายพิชิต กล่าวว่า น.ส.แพทองธารพูดว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา ทำให้กัมพูชาได้ใจ มีความฮึกเหิมจนทำให้เกิดการสู้รบ น.ส.แพทองธารจะปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ ต้องลาออกจากตำแหน่งทันที พร้อมส่งเสียงไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล โดยตั้งคำถามว่าจะต้องประคองรัฐบาลชุดนี้ต่อไปหรือ ควรเห็นใจทหารแนวหน้าประชาชนที่เสียชีวิต เด็กน้อยที่ต้องถูกระเบิดในร้านสะดวกซื้อ พรรคร่วมรัฐบาลจะประคองระบอบชินวัตรไปถึงไหน จึงขอให้แสดงจุดยืนโดยการลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยทันที

นายพิชิต กล่าวว่า พวกเราต้องการสื่อสารไปถึงรัฐบาลกัมพูชา ขอประณามการกระทำโดยเฉพาะทหารกัมพูชาที่ยิงปืนใหญ่ไปสู่เป้าหมายพลเรือน ซึ่งผิดขั้นตอนการรบ เป็นการทำลายประชาชน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นอาชญากรสงคราม ส่วนรัฐบาลไทยที่ไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้ไทยเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เหตุใดถึงไม่ยื่นเงื่อนไขให้กัมพูชามาเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของไทยเสียก่อน ทหารไทยทำงานลำบาก เนื่องจากกัมพูชาผิดอนุสัญญาออตาวาวางระเบิดทุ่นระเบิดเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลกลับเจรจาให้หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งที่ควรยื่นเงื่อนไขให้กัมพูชาต้องมาถอนทุ่นระเบิดออกไปให้หมด ฉะนั้น การกระทำของรัฐบาลเป็นการปกป้องประเทศไทย หรือปกป้องผลประโยชน์ของใครกันแน่

เมื่อถามว่ารัฐบาลมีความเห็นว่าการจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมากดดันรัฐบาล นายพิชิต กล่าวว่า ความรับผิดชอบจะต้องมีตลอดเวลา เราพูดมาก่อนการจะมีสงคราม เราไม่ได้ขัดขวางการสู้รบของทหารตามแนวชายแดน แต่ต้องการมาสื่อสารและบริจาคสิ่งของเพื่อส่งไปชายแดน ซึ่งเราต้องจัดการไส้ศึกของเราด้วยเช่นกัน การที่น.ส.แพทองธาร พูดกับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสมือนให้กำลังใจกัมพูชา เหมือนเป็นไส้ศึก

จุดอ่อนทางความมั่นคงคือรัฐบาล กัมพูชาถือไพ่เหนือกว่า มีคลิปเสียงที่สามารถข่มขู่รัฐบาลไทยได้ ดังนั้นจุดอ่อนของความมั่นคงของประเทศเป็นรัฐบาล ไม่ใช่กองทัพและประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้จะต้องกำจัดจุดอ่อน ด้วยการที่นางสาวแพทองธารต้องลาออก

ส่วนที่น.ส.แพทองธารระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากสองตระกูล แต่เป็นเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น นายพิชิต กล่าวว่า เราไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นรูปธรรมในกัมพูชา ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตยังไม่ตัด การอ้างถึงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคลิปหลุดที่ถามถึงความต้องการของสมเด็จฮุนเซนแสดงว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวในตอนนั้นยังดีอยู่ ไม่ได้ทะเลาะกัน

“ผมว่าเป็นข้ออ้างเอาสงครามมาเป็นนโยบายของตนเอง แปลกประหลาดมาก สู้รบกันแทนที่รัฐบาลจะรับผิดชอบกลับไปเคลมว่าเป็นผลงานปราบคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล กลายเป็นว่าน.ส.แพทองธารยืนอยู่บนซากศพของทหารและประชาชน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง ภูมิใจขนาดไหนที่กล้ายืนบนเลือดของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิต”

นายพิชิต กล่าวต่อว่า น.ส.แพทองธารต้องออกมาขอโทษ ไม่ใช่เกิดการสู้รบแล้วอ้างว่าเป็นผลงานเด่นของรัฐบาล นี่คือความอัปยศที่สุดที่น.ส.แพทองธาร ทำต่อประชาชนคนไทย อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในวันนี้คาดว่าประชาชนจะเดินทางเข้ามาเต็มพื้นที่เหมือนการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา โดยไฮไลต์สำคัญคือการปราศรัยและจะมีการประกาศทิศทางโดยนายจตุพร พรหมพันธ์ุ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เราหารือกันอยู่ว่าจากนี้ไปจะต้องมีการขยับชุมนุมที่ใกล้ทำเนียบรัฐบาล หรือการพักค้าง

ขณะที่การประชุมเคลื่อนไหวในวันที่ 4 ส.ค.68 ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) นายพิชิต กล่าวว่า เราไม่เห็นด้วยกับการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี บินไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขที่ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ทหารไทยรบได้เปรียบและกัมพูชาวางทุ่นระเบิด แต่ไทยกลับไปเจรจาหยุดยิงเท่ากับยอมรับว่าทุ่นระเบิดนั้นถูกกฎหมาย เราเห็นด้วยการเจรจาทวิภาคี แต่ไทยจะต้องเป็นผู้นำและเจ้าภาพในการเชิญกัมพูชามาพูดคุย เราไม่เห็นด้วยที่จะให้ประเทศอื่นเป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะไทยต้องแสดงศักยภาพในเรื่องนี้

ส่วนที่น.ส.แพทองธารระบุว่า เรื่องปัญหาคนในประเทศให้รอก่อน ขอเคลียร์ กับคนนอกประเทศก่อนนั้น นายพิชิต กล่าวว่า ปัญหาภายในประเทศก็รุนแรงเช่นกัน เพราะการสู้รบครั้งนี้เกิดจากคลิปเสียง การสู้กับข้าศึกภายนอกประเทศเป็นหน้าที่ของทหารไทย แต่การจัดการไส้ศึกภายในก็เป็นหน้าที่ของประชาชน

Written By
More from pp
ครม.เห็นชอบ ร่างข้อตกลงการรับทุน (Grant Agreement) โครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package
ครม.เห็นชอบ ร่างข้อตกลงการรับทุน (Grant Agreement) โครงการความร่วมมือ Phuket Smart City Technical Assistant Package ระหว่าง...
Read More
0 replies on ““พิชิต” เรียกร้อง นายกฯ แพทองธาร ต้องลาออก รับผิดชอบคลิปเสียงหลุดลามปะทะชายแดน มองเป็นเรื่องอัปยศอ้างต้นเหตุสงคราม เกิดจากนโยบายปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซัดรัฐบาลคือจุดอ่อนของประเทศ”