พม. แถลงการณ์ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศร้ายแรง ส่งผลกระทบกลุ่มเปราะบาง-สวัสดิภาพทางสังคม-ความมั่นคงของมนุษย์

25 กรกฎาคม 2568 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ออกแถลงการณ์ในนามกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง เรื่อง ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง อันส่งผลกระทบต่อ กลุ่มเปราะบาง สวัสดิภาพทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ระบุว่า ในนามของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แห่งราชอาณาจักรไทย ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ความสลดหดหู่ และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอย่างไม่สั่นคลอน ต่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ต่อครอบครัวของพวกเขา และต่อผู้ได้รับผลกระทบทุกคน จากการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมและจงใจ โดยกัมพูชาต่อพื้นที่พลเรือนของไทย

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่แค่การละเมิดพรมแดน แต่มันคือการละเมิดความเป็นมนุษย์ เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม 2568 ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลถูกฝังลงบนผืนแผ่นดินไทย ไม่ได้แค่ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารของเราได้รับบาดเจ็บ แต่พรากขาของชายชาติทหารสองคนไป พร้อมกับชีวิตและอนาคตที่พวกเขาเคยมี

และยังไม่หยุดเพียงเท่านั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ความรุนแรงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่ไม่อาจให้อภัยได้ พลเรือนกลายเป็นเป้าหมาย โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ไม่มีความปรานี แม้แต่กับเด็กๆ ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล สถานที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของพวกเราทุกคน กลับกลายเป็นฉากแห่งความสยดสยอง

ผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คน รวมถึงเด็กชายอายุ 9 ขวบ 2 คน และเด็กหญิงอายุ 15 ปี 1 คน พวกเขาไม่ได้ตายในสนามรบ แต่ตายขณะมีชีวิตธรรมดาๆ ความฝันของพวกเขา อนาคตของพวกเขา ถูกทำลายภายในเวลาไม่กี่วินาที มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 30 คน แม่ต้องสูญเสียลูกชาย ปู่ย่าตายายต้องฝังหลาน พ่อยืนอยู่ข้างเตียงโรงพยาบาล มองดูคนที่เขารัก พยายามเอาชีวิตรอด หรือพยายามใช้ชีวิตที่ไม่มีแขนหรือขาอีกต่อไป

สิ่งที่ครอบครัวเหล่านี้ต้องสูญเสียไป ไม่อาจเยียวยาได้ด้วยถ้อยคำหรือด้วยความเงียบ นี่ไม่ใช่ “ความเสียหายข้างเคียง” แต่มันคือ อาชญากรรมต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เหตุโจมตีเหล่านี้ได้ทำลายความรู้สึกปลอดภัยของประชาชนธรรมดาและสร้างความหวาดกลัวในชุมชนที่เคยสงบสุข ความทุกข์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขในรายงาน มันไม่ใช่แค่สถิติ แต่คือเรื่องส่วนตัว เรื่องถาวร และไม่เป็นธรรม

เราขอประณามการกระทำเหล่านี้ ด้วยถ้อยคำที่หนักแน่นที่สุดและไม่ลดละ นี่คือ การรุกรานอธิปไตยของประเทศไทยโดยตรง และเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง กัมพูชาจะต้องรับผิดตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติม , อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิด , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก มาตรา 38 , อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของคนพิการ มาตรา 10 และ 11 และปฏิญญาทางการเมืองของการประชุม CSW ครั้งที่ 69 ที่เรียกร้องให้คุ้มครองผู้หญิงและเด็กในพื้นที่ขัดแย้ง

เราขอเรียกร้องต่อประชาคมระหว่างประเทศ อย่าเพิกเฉย อย่านิ่งเฉย เพราะเมื่อเผชิญหน้ากับความโหดร้ายทารุณเช่นนี้ ความเงียบ คือการสมรู้ร่วมคิด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แห่งราชอาณาจักรไทย ขอเรียกร้องให้กัมพูชา ยุติการรุกรานในทันที เคารพอธิปไตยของไทย และแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความเสียหายที่ไม่อาจย้อนคืน ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์ เพื่อสันติภาพ เพื่อความยุติธรรม เพื่อเด็กเหล่านั้น ที่จะไม่มีวันได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่

Written By
More from pp
จุรินทร์ นำ คืนโฉนดให้เกษตรกรภาคกลาง 26 จังหวัด ที่ถูกยึดที่ดินทำกิน โดยใช้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เข้าไปให้การช่วยเหลือ
วันที่ 10 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบโฉนดที่ดินคืนให้เกษตรกรและมอบเช็คชําระหนี้แทนเกษตรกรให้กับสหกรณ์ในจังหวัดภาคกลาง
Read More
0 replies on “พม. แถลงการณ์ประณามการโจมตีพลเรือนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศร้ายแรง ส่งผลกระทบกลุ่มเปราะบาง-สวัสดิภาพทางสังคม-ความมั่นคงของมนุษย์”