เปลว สีเงิน
“อุ้งอิ๊ง”กับ”เก้าอี้นายกฯ”
ไม่ต้องรอถึงวันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีคำวินิจฉัย ผมก็ชื่อว่า คนส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว
โดยเฉพาะกับคนในแวดวงการเมืองด้วยกัน
ไม่งั้น เกมชิง “เก้าอี้นายกฯ” ต่อจาก “นางสาวลูกสอง” ไม่เข้มข้น-จริงจัง อย่างที่เห็นๆ กันอยู่หรอก!
พรรคเพื่อไทยเองก็แถอะ ถึงปากไม่พูดว่า “นายกฯ หลุดแน่” แต่มือล้างก้นแคนดิเดตนายกฯ อันดับ ๓ ของพรรค “นายชัยเกษม นิติสิริ” เตรียมท่ารอแล้ว
ถึงขั้นเปิดตัวนายชัยเกษมในท่าสวิงกอล์ฟให้เห็นว่าฟิตปั๋งและเปิดบ้านให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ช่อง ๓๖ วันก่อน บอกว่าพร้อมมาก
เป็นการ “เบรกข่าว” ที่ว่า เขาเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่พร้อมจะเป็นนายกฯ ไปในตัว
ในซีกฝ่ายค้าน “พรรคประชาชน” ก็บอกว่าจะโหวตหนุน “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยขึ้นแข่งกับนายชัยเกษม
เห็นทางเจ้าตัว คือนายอนุทิน ปฎิเสธว่า ครั้งนี้ …ไม่
แต่ครั้งหน้า…เอาแน่!
ก็นั่นแหละ จะไม่หรือจะใช่ ยังตัดสินกันไม่ได้ตอนนี้ จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง
คือมีผลออกมาชัดว่า ศาลฯ มีคำวินิจฉัยให้แพทองธารพ้นจากตำแหน่งนายกฯ นั่นแหละ เกมชิงเก้าอี้ถึงจะเป็นจริง-เป็นจัง
ถึงนายอนุทินจะไม่….
แต่ตามกติกาต้องเสนอชื่อเพื่อโหวตในสภาว่าจะเลือกใครเป็นนายกฯ ซึ่งก็มีนายชัยเกษม นายอนุทิน พลเอกประวิทย์ พลเอกประยุทธ์ นายพีระพันธ์ เป็นผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อ
พูดกันตาม “หน้าเสื่อ” ที่จะถูกเสนอเข้าชิง ก็มีนายชัยเกษมกับนายอนุทินเป็นตัวยืน
แต่ผมเกรงว่า ถึงวันนั้น นายกฯ จะมาจาก “หลังเสื่อ” น่ะซี แล้วท่านจะ อุ๊ยยย..ว๊ายยย ตายกรี๊ดดดกัน!
พูดกันตามปริมาณ ฝ่ายรัฐบาลยังได้เปรียบ เพราะเสียงยังมากกว่า ถ้าฝ่ายค้านต้องการเป็นรัฐบาลจริงๆ ก็ต้องไปดึงพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนามาร่วม
ก็เป็นไปได้ยาก…..
สรุปแล้ว ไม่ว่าฝ่ายไหนได้เป็นรัฐบาล ได้ประโยชน์ส่วนตัวชั่วครู่ แต่เสียประโยชน์ส่วนรวมชาติระยะยาว เพราะจะเป็นรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” ด้วยกันทั้งคู่
ที่รัฐบาลเพื่อไทย กลายเป็นสิ่งปฎิกูลสังคมวันนี้ ส่วนหนึ่ง เพราะโลภ ชิงกระทรวงมหาดไทยไปจากพรรคภูมิใจไทย ที่นายอนุทินเป็นเจ้ากระทรวงอยู่
แล้วส่งคนเข้าไปเป็นแทน หวังแก้ “พรบ.การพนัน” ได้สะดวก
เพื่อทำ “พนันออนไลน์” ควบคู่ไปกับ “กาสิโนคอมเพล็กซ์”
เพื่อไทย จากที่เป็นรัฐบาลเสียงแน่นปึ๊ก
ทรุดฮวบ เป็นเสียงปริ่มน้ำทันที
และที่เคยได้บารมีพรรคภูมิใจไทยเป็นเครื่องรับประกันกับสังคมว่า ตราบใดที่มีภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล ตราบนั้น เรื่อง “ล่มชาติ-ล้มสถาบัน” ไม่มีแน่
เมื่อบีบภูมิใจไทยออกไป เพื่อไทยก็เหมือนลายลอกให้เห็นเนื้อแท้ จากที่ชาวบ้านไว้เนื้อเชื่อใจ กลายเป็นระแวงสงสัย “เรื่องแดง-เรื่องส้ม” ทันที!
ยิ่งครม.ที่ปรับ ตำแหน่งรัฐมนตรีมันกลายเป็นของชำร่วย ของสมนาคุณพวกพ้องที่เป็นกะพรวนตีนนายบ้าง คนรู้ใจนายบ้าง
ทั้งรัฐบาลก็อยู่ในภาวะ “ไร้หัว-ไร้หาง” ที่จะเป็นตัวนำทิศทางประเทศช่วงวิกฤตทุกด้านได้
รัฐบาลเลยกลายเป็น “ส่วนเกิน” ของสังคมไปทันที!
ใครมาเป็นนายกฯ มาเป็นรัฐบาลตอนนี้ พูดกันตรงๆ “โชคร้าย” ไม่ใช่ “โชคดี” อย่างที่เข้าใจ
เว้นแต่ว่า เข้ามาแล้วฉวยโอกาสสวาปามก่อนที่จะถูกประชาสังคมลากไปกระทืบกลางถนน
ผมฟังที่นายชัยเกษมเขาให้สัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์ถาม
“หากได้เป็นนายกฯ จะไปดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมาร่วมรัฐบาลเป็นไปได้หรือไม่?”
นายชัยเกษมตอบว่า….
“ต้องคุยกัน เพราะไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คุยกันแล้ว เห็นว่าถ้าทำอย่างไรเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่ากัน
ทุกคนก็ยอมรับได้ ต้องถึงเวลานั้น ถึงจะพอเดาสถานการณ์ได้”
ทั้งคำถามและคำตอบเป็นตรรกะอยู่ในฐานดียวกันที่น่าคิด
จากคำตอบนายชัยเกษม ก็ปลดเปลื้องความสังสัยไปได้ข้อหนึ่งว่า
นายชัยเกษม “มีมันสมอง” มากกว่าแพทองธารหลายร้อยลิตร
ถ้าได้เป็นนายกฯ คุณสมบัติข้อเดียว ที่นายชัยเกษมด้อยกว่าแพทองธารขาด คือเป็นแค่ “เนติบริกร” ไม่ได้เป็น “ลูกทักษิณ”
ในแง่คิด ถ้าต้องการเป็นรัฐบาลมีเสถียรภาพ ได้คนคุณภาพมาร่วมบริหาร ทั้งได้สีน้ำเงินหุ้มแดง เป็นเครื่องประกัน “เรื่องชาติ-เรื่องแผ่นดิน”
ที่นายชัยเกษมไม่ปฎิเสธการดึงภูมิใจไทยกลับมาร่วมรัฐบาลกันใหม่นั้น ถือเป็น “วิสัยทัศน์ผู้บริหาร” อันหาได้ยาก จากคนพรรคเพื่อไทย
แต่นั่นแหละ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องสมมติ ซึ่งยากเป็นไปได้
ประการแรก นายอนุทินเขาจะกลับมาให้โง่เรอะ?
ประการที่สอง นายกฯ เพื่อไทยตัวจริงชื่อทักษิณ ชัยเกษมทำอะไรได้ด้วยความคิดตัวเองเรอะ?
ประการที่สาม…สุดท้าย…..
ถ้าพรรคภูมิใจไทย-นายอนุทินกลับมาร่วม นั่นก็หมายความว่า รัฐบาลนี้ มีนายกฯ ชื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล”
ไม่ได้ชื่อ “ชัยเกษม นิติสิริ”!!!
ในการเมืองเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย“สีน้ำเงิน”อนาคตสดใสกว่าพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนนี้“ไข่แม้ว”ถูกเขมรกำไว้ บีบก็ตาย-คายก็รอด จึงไม่กล้าแอะ เพราะกลัวถูกแฉ
มีภาษิตอยู่คำ “ม้าดีย่อมไม่กลับไปกินหญ้าเก่า”
พรรคภูมิใจไทยตอนนี้ ก็ประมาณนั้น เรื่องอะไร จะต้องย้อนกลับไปกินหญ้าใต้ตีนที่ถูกเหยียบจนช้ำ
มิสู้ตะบึงไปข้างหน้าดีกว่าหรือ เพราะมีทุ่งหญ้าเขียวขจีกว้างใหญ่ระบัดใบรออยู่
พูดถึงการโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ในสภา ถ้าแพทองธารต้องหลุดตำแหน่ง
เอากันจริงๆ มี ๒ แคนดิเดตเท่านั้น ที่จะชิงกัน
คือพลเอกประยุทธ์ กับนายอนุทิน ส่วนนายชัยเกษมนั้น เสนอได้ แต่ที่จะได้นั้น…ยาก!
เว้นแต่พลเอกประยุทธ์ ท่านไปเป็น “องคมนตรี” แล้ว สละสิทธิ์ ไม่ลงแข่งขัน คนที่มีสิทธิ์ลงชิงกับนายอนุทิน ก็มีนายพีระพันธ์ กับ พลเอกประวิตร
เพียงแต่พลเอกประวิตร พรรคพลังประชารัฐ จะมี สส.ถึงตามเกณฑ์ คือร้อยละ ๕ จากจำนวนเต็ม เพื่อเสนอชื่อหรือไม่เท่านั้น?!
ทำไมผมจึงว่านายชัยเกษมลงชิงก็จะไม่ชนะ?
ก็นี่ไง….
………………………………….
พรรคเพื่อไทย
ปัญหาการใช้กฎหมายอาญาดำเนินคดีเพื่อจำกัดความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างอย่างล้นเกิน
ไม่ว่าจะเป็นประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาตรา 116 พระราชบัญญัติการกระทำอันเป็นความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ
หรือความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
สร้างผลกระทบให้ประชาชนเสียหายจากกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนสงสัยว่า
ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวโดยมิชอบด้วยหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
ซึ่งทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในหลักกฎหมายและหลักความยุติธรรมของประเทศ
ตามที่ภาคประชาชนได้เรียกร้องและเสนอร่างแก้ไขข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคที่มีเสียงสมาชิกมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมนำข้อเสนอดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุมรัฐสภา
เพื่อตรวจสอบระบบการทำงานของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ ศาล และราชทัณฑ์
ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่หรือใช้ดุลยพินิจไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่
และตรวจสอบการสั่งการโดยรัฐบาล รวมถึงการแก้ไขกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เพื่อให้นักโทษทางความคิดได้รับการปล่อยตัว และไม่ให้เกิดนักโทษทางความคิดเพิ่มขึ้นอีก
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของประเทศไทย
ชัยเกษม นิติสิริ
ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์
และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย
๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๔
………………………………………
ช่วงสามนิ้วจลาจลเมืองล่มชาติ-ล้มสถาบัน “แดง-ส้ม” ปลุกกระแส “ล้มมาตรา ๑๑๒” เอาใจกลุ่มคนที่เรียกตัวเองเป็น “คนรุ่นใหม่”
และนี่ เป็นแถลงการณ์ “ล้มล้างมาตรา ๑๑๒” ของนายชัยเกษม นิติสิริ ที่ประกาศ “พร้อมเป็นนายกฯ” ต่อจากแพทองธาร
แล้วคิดหรือว่า….
เมื่อเสนอชื่อนายชัยเกษมแล้วสส.ทั้งฝ่ายค้าน-ฝ่ายรัฐบาล จะโหวตให้คน “ล้มมาตรา ๑๑๒” เป็นนายกฯ?
เว้นแต่ว่า “ส้ม” คือพรรคประชาชนโหวตให้ “แดง” พรรคเพื่อไทยร่วมเป็น “รัฐบาลแดง-ส้ม” แค่ ๒ พรรคนี้จับมือกันก็ตั้งรัฐบาลได้เหลือเฟือ
จะออกพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอย ก็ลื่นปรื๊ด
จเปิดบ่อนกาสิโน ทำพนันออนไลน์ ก็ลื่นปรื๊ด
จะแก้เพื่อฉีกรัฐธรรมแล้วตั้งสสร.เขียนใหม่ให้ทักษิณ, ธนาธร, พิธา, พรรณิการ์ และใครๆ กลับเข้าการเมืองใหม่ ก็ลื่นปรื๊ด
องค์กรอิสระทั้งหลาย ศาลรัฐธรรมนูญ, ป.ป.ช., ก.ก.ต, ก็ร่างกฎหมายให้มาอยู่ใต้อำนาจการเมือง ก็ลื่นปรื๊ด
นี่…ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เพราะประชาธิปไตยอยู่ที่ “เสียงมาก” ไม่ได้อยู่ที่ความ “ชอบธรรม”!
การเมืองเรื่องรัฐบาลในช่วงเดือน-สองเดือนนี้ ก็ต้องระวัง จะเหมือนไฮโลที่แทงครบทุกหน้า รวมทั้งสูง-ทั้งต่ำ
แต่พอเปิดถ้วย…
โอ…เจ้าคุณอาชว์ช่วย กล้วยทอด ดันออก สี่ หก เอี่ยว
๑๑ แต้ม “ทั้งสูง-ทั้งต่ำ” ถูกกินเรียบ
แล้วอย่ามาว่าผมไม่ส่งซิกล่วงหน้าไม่ได้นะ…เออ!
เปลว สีเงิน
๘ กรกฎาคม ๒๕๖๘
