เปลว สีเงิน
ประเทศไทยยุค “นายกฯไทย-ใจเขมร” ได้ข้อสรุปแล้วว่า
เรื่องความมั่นคงประเทศ
-เป็นหน้าที่ของทหาร
เรื่องบั่นทอนความมั่นคง
-เป็นหน้าที่ของรัฐบาลนายกฯ ตระกูลชิน
และเรื่องขับไล่ “นายกฯ ขายชาติ”
-เป็นหน้าที่ของประชาชนผู้พิทักษ์เกียรติภูมิประเทศ
ฉะนั้น วันนี้ เราจึงเห็นฝ่าย “กองทัพ” ขยับมาตรการจากที่เบาขึ้นไประดับปานกลาง
“ขึงพืด” เขมร!
ปิดทุกด่านตลอดแนวชายแดน รวม ๖ ด่าน ใน ๗ จังหวัด
กองทัพภาคที่ ๑ ปิดด่าน สระแก้ว
กองทัพภาคที่ ๒ ปิดด่าน บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี
และกองทัพเรือ ปิดด่าน จันทบุรี ตราด
ตามแผน Seal-Stop-Safe เฟสแรก ใน ๓ เดือนของฝ่ายกองทัพ เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยง “บ่อนกาสิโน” ร้อยกว่าแห่งในเขมร
ซึ่งเป็นแหล่งที่แก๊งสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งค้ามนุษย์ แก๊งค้ายาเสพติด แก๊งฟอกเงิน ใช้เป็นฐานปฎิบัติการ
จนเขมรได้ชื่อว่าเป็น “ศูนย์กลางอาชญากรรมไซเบอร์” ของโลก มีสถาบันการเงินของ “คนตระกูลฮุน” เป็นคนจัดการ
เมื่อกองทัพเปรี้ยงออกไป ปรากฏว่า “สองพ่อลูกตระกูลฮุน”
ตลอดวันวาน หยุด “ปากแจ๋ว” ทันที!
ขณะเดียวกัน ทางด้าน “นายกฯ ตระกูลชิน” ก็ทำหน้าที่เพื่อชาติ เอาเก้าอี้รัฐมนตรีที่ภูมิใจไทยทิ้งไว้ ๘ ตัว เป็นอุนจิ ทาจมูกพรรคร่วม
ทุกพรรคร่วมบอก ห้อมมมม…หอม ชื่นใจ
ต่อให้เอาประเทศชาติมาแลกก็ไม่ยอม พากันเลียจมูกแล้วรุมตอมรอบๆ ชายกระโปรง “นายกฯไทย-ใจเขมร” ไม่ยอมห่างไปไหน!
มาดูทางด้านประชาชนบ้าง นอกจากแต่ละจังหวัดออกมาทำหน้าที่พิทักษ์ศักดิ์ศรีประเทศ ตะโกนไล่ให้นายกฯ อุ๊งอิ๊งลาออกไปแล้ว
“กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” เขาก็ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลาง “ปกป้องอธิปไตย” นัดแสดงเจตนารมณ์พร้อมกันที่ “อนุสาวรียชัยสมรภูมิ” ตั้งแต่บ่ายวันเสาร์ที่ ๒๘ มิถุนา.
เป็นงานใหญ่นะ…วิ ขอบอก!
เพราะเห็นคุณปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประกาศว่า คนรักบ้าน-รักเมือง แต่ไม่ยอมประกาศตัวตน ทยอยส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในงานวันที่ ๒๘ มิย.รวมแล้วกว่า ๗ ล้านบาท
ฉะนั้น วันที่ ๒๘ มิ.ย.นี้ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แคบแน่ เผลอๆ จะทะลักล้นไปถึงทำเนียบโน่น!
พูดถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ….
ต้องขอย้ำ เป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อยู่ที่สนามเป้า คนละแห่งกับ “อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย” ที่ราชดำเนิน
ฉะนั้น อย่าสับสน ไปกันให้ถูกที่ เดี๋ยวจะหลง แล้วเกิดน้ำโห ต้องมาทะเลาะกันเองทีหลัง
ได้ข่าวว่า จะมีพี่น้องจากต่างจังหวัดเป็นหมู่คณะเดินทางเข้ามาร่วม “รวมพลังแผ่นดิน” จำนวนมาก!
มีคนถามว่า อุ๊งอิ๊งเขาไม่รู้สึกว่าเขาทำอะไรผิดที่ต้องแสดงความรับผิดชอบเลยหรือ เห็นลอยหน้ารื่นรับเสียงคนทั้งเมืองที่ก่นด่าว่า “นายกฯขายชาติ”?
ก็ไม่นะ เพราะเมื่อวาน (๒๔ มิ.ย.)นักข่าวถามเธอที่ทำเนียบว่า
“มีการประเมินถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องนายกฯ และอาจมีการสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปเสียงการสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน หรือไม่?”
นายกฯหญิงตระกูลชิน เธอเชิดหน้าตอบ
“เราก็มีการประเมินเรื่องนี้ หากต้องสนับสนุนข้อมูลใดๆ ก็พร้อมที่จะชี้แจง
อย่างกรณีที่มีคลิปเสียงออกมา ก็ขอยืนยันว่า ความจริงแล้ว ผู้นำแต่ละประเทศก็ใช้เจรจากันอยู่แล้ว
และเห็นได้ชัดว่า ในคลิปเสียงดิฉันก็ไม่ได้อะไร และไม่ได้ทำให้ประเทศไทยเสียอะไร”
งั้นก็ลองนำคลิปเสียงท่อนที่ “นายกฯ อุ๊งอิ๊ง” พูดกับฮุนเซนมารีเพลย์อีกที แล้วพิจารณากันซิว่า มันมีหรือไม่มีอะไร และมันไม่ทำให้ประเทศไทยเสียจริงมั้ย?
ผมจะนำท่อนที่อุ๊งอิ๊งโทรพูดกับฮุนเซนผ่านล่ามชื่อ “ฮวด” มาให้ดู ดังนี้
…………………
อุ๊งอิ๊ง: โอเคค่ะ วันนี้ ได้คุยกับพี่อ้วน เรื่องชายแดน ก็เข้าใจตรงกันว่า ทั้งท่านฮุนเซน และอุ๊งอิ๊ง อยากให้ทั้งสองประเทศสงบสุขค่ะ
ไม่อยากให้อังเคิลไปฟัง เอ้อ…คนที่เป็น “ฝั่งตรงข้ามกับเรา” เพราะว่าไปฟัง “ฝั่งตรงข้ามกับเรา” อย่างแม่ทัพภาค ๒ นี่ค่ะ เป็นคน “ฝั่งตรงข้ามกับเรา” หมดเลย
ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้นเสร็จอะ ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจหรือโกรธ ที่จริงแล้ว ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ
เพราะตอนเนี้ย….ทางนั้น ทำอะไรออกมาก็อยากดูเท่ เขาก็จะพูดอะไรออกมาที่มันไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ
แต่ว่าที่จริง ที่เราต้องการคือความสงบสุขเหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนนั่นค่ะ
ให้ท่านฮุน เซน เห็นใจหลานหน่อย ตอนเนี้ย คนในประเทศไทยเขาไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว
เอ้อ…จริงๆ แล้ว ถ้าท่านอยากได้อะไร ก็ให้ท่านบอกมาได้เลยค่ะ จะจัดการให้”
นี่ท่อนละนะ เอาอีกซักท่อน จากบทสนทนาอุ๊งอิ๊งกับอังเคิลฮุน
อุ๊งอิ๊ง: คือตอนนี้อ่า…พี่ฮวด ทางรัฐบาลโดนโจมตีหนักมาก เพราะตอนที่ท่านสมเด็จและพี่ฮุน มาเนต ออกมาบอกว่าจะตัดน้ำ ตัดไฟอะไรนี่ค่ะ
จริงๆ แล้วเขาเพียงรายงานตามขั้นตอนว่า ถ้ามีเหตุการณ์ต่อไปประเทศไทยจะทำยังไงๆ คือเขาอธิบายขั้นตอนให้ฟัง ไม่ได้บอกว่าจะทำจริงๆ
แล้วถ้าจะให้มันโอเคทั้งสองฝ่าย เหมือนเราต้องพูดพร้อมกันว่า เราตกลงร่วมกันแล้ว รัฐบาลคุยร่วมกันแล้ว ว่าจะเปิดทุกอย่างให้กลับเป็นปกติ
เหมือนกับว่าอุ๊งอิ๊งกับพี่ฮุนมาเนต ก็ได้คุยร่วมกันแล้ว ก็ทั้งสองฝ่ายอยากให้เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติ แบบเนี้ย
ล่าม: น้องอุ๊งอิ๊งอยากให้ท่านนายกฯ โพสต์ใช่มั้ย?
อุ๊งอิ๊ง: ใช่ ท่านฮุนเซน ก็ได้ แต่ว่าเหมือนตกลงร่วมกัน เพราะว่าตอนนี้อุ๊งอิ๊งโดนหนักมากเลย
ล่าม: จริงๆ เนี่ย ท่านเป็นคนที่อยากได้เสถียรภาพมาก แต่ว่าทหารมาปิดด่านก่อน กดดันก่อน ฉะนั้น ต้องเคลียร์ทหารให้พร้อมมั้ยก่อนจะเปิดด่าน?
อุ๊งอิ๊ง: พร้อมค่ะ
ล่าม: ทางนี้ตามหมดเลย
อุ๊งอิ๊ง: พร้อมค่ะ ทางนี้เปิดให้อยู่แล้วค่ะพี่ฮวด แต่ว่ามันต้องบอกว่าเป็นการตกลงร่วมกัน เพราะไม่อย่างนั้น อิ๊งน่ะ โอ๊ย..ยอม..ยอม..คืออิ๊งก็จะโดนว่า
และมีอยู่ตอน ฮุนเซนตอบคำเว้าวอนอุ๊งอิ๊งที่ให้ร่วมเล่นละครสมยอมตบตาประชาชนได้เหมือนอาตบหน้าหลาน ด้วยประโยคว่า
“ผมเข้าใจ ผมเห็นใจ แต่ไม่อาจเอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกเปลี่ยนกับความนับถือกันได้หรอก เพราะนี่คือหน้าตาของประเทศกัมพูชา
เรื่องอะไรที่จะให้ประเทศกัมพูชาไปเจรจาเรื่องการขอให้เปิดด่าน เมื่อตัวเองปิดเอง ก็ต้องเปิดเองสิ”
เป็นไงครับ….
อ่านแล้วแต่ละท่านเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย กับอุ๊งอิ๊ง ที่ว่า มันไม่มีอะไรและประเทศไม่เสียอย่างนั้นหรือไม่?
ทีนี้ มาดูด้าน “ศาลรัฐธรรมนูญ” บ้าง กรณี “คลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน”
ซึ่ง “นายมงคล สุระสัจจะ” ประธานวุฒิฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลฯ วินิจฉัยสถานะความเป็นนายกฯ ของน.ส.แพทองธาร
ว่าสิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๑๖๐(๔) และ(๕) หรือไม่?
นักข่าวไปถามท่าน “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ว่า วันที่ ๑ กรกฏา.จะมีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่?
ท่านประธานศาลรัฐธรรมนูญตอบว่า……..
“มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพิจารณาเรื่องคลิปเสียงในวันที่ ๑ กรกฏา.นี้ แต่ต้องให้คณะตุลาการตรวจเอกสารครบถ้วนก่อน
หากมีการพิจารณา ก็จะออกได้ ๒ ทาง
คือ “รับ” หรือ “ไม่รับ” เรื่อง
แต่ย้ำว่า ต้องรอตรวจเอกสารก่อน และต้องเข้าองค์คณะด้วย ซึ่งทุกครั้งที่เราประชุม จะต้องมีองค์คณะครบ ๙ คน”
“ถ้าศาลฯ รับไว้พิจารณา นายกฯ จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่? นักข่าวถาม
ท่านนครินทร์ตอบว่า “ก็ไม่จำเป็นจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เสมอไป ศาลจะดูว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่
ที่ผ่านมา ก็มีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณา แต่ไม่ได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่”
ช่วงนี้ “ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” คงนอนไม่หลับทั้งคู่ เพราะกงกรรมไล่ทับใกล้เข้ามาทุกขณะ
ฮุนเซนยังรู้เลย เมื่อวาน โพสต์เย้ยลูกเพื่อนว่า อีก ๓ เดือน ประเทศไทยจะมีนายกฯ คนใหม่
แถมรู้ซะด้วยว่าเป็นใคร?
นี่ถ้าผมเป็นทักษิณนะ โทรไปหาฮุนเซนแล้ว
ท้าเลย…แน่จริง มาขึ้นเวที ONE ลุมพินี ต่อยกันมั้ยล่ะ?!
เปลว สีเงิน
๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๘
