นายกรัฐมนตรีขอบคุณ ทุกส่วนราชการขานรับนโยบายปราบปรามยาเสพติด หลังเห็นผล “Seal Stop Safe” ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ยึดยาบ้ากว่า 76 ล้านเม็ด พร้อมเผาทำลายของกลางกว่า 27 ตัน ย้ำความร่วมมือทุกภาคส่วนขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ
10 เมษายน 2568 เวลา 13.45 น. ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแถลงผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน ในห้วง 2 เดือนแรก (1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2568) และการเผาทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ประจำปี 2568 (ครั้งที่ 2) โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีรับชมวีดิทัศน์ “สรุปผลการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน” พร้อมกล่าวว่าความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในช่วงที่ผ่านมาเป็นผลมาจากความร่วมมืออย่างบูรณาการของทุกภาคส่วน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ปัญหานี้ไม่สามารถแก้ไขได้โดยภาคส่วนหรือหน่วยงานใดเพียงลำพัง ทั้งนี้ ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างการลงพื้นที่หาเสียง พี่น้องประชาชนในหลายพื้นที่ พบว่า หนึ่งในปัญหาหลักที่ประชาชนพูดถึงและต้องการให้รัฐบาลแก้ไขอย่างจริงจังคือ “ปัญหายาเสพติด” ซึ่งเป็นปัญหาหนักหนาสาหัสในทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามรัฐบาลให้ความสำคัญและจริงจังกับการแก้ปัญหานี้ โดยตระหนักว่าทุกภาคส่วนมีบทบาทสำคัญในการร่วมกันทำให้ยาเสพติดลดลง แม้ประเทศไทยอาจไม่ใช่แหล่งผลิตหลัก แต่เป็น “ทางผ่าน” ที่ต้องมีการสกัดกั้นอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้ยาเสพติดหลุดรอดเข้าสู่ประเทศได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่าขณะนี้กองทัพได้ดำเนินการเกี่ยวกับ “Seal Stop Safe” ซึ่งได้ผลดีเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันดำเนินการอย่างทุ่มเท เมื่อประชาชนเห็นเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบ จะรู้สึกอุ่นใจ เพราะเราลงพื้นที่และทำงานกันอย่างจริงจัง นอกจากนี้ เมื่อสามารถลดปริมาณยาเสพติดได้แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการบำบัดรักษาผู้เสพ ปัจจุบันหลายพื้นที่มีการดำเนินการบำบัดอย่างเข้มข้น มีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วกว่า 300,000 คน ซึ่งช่วยลดโอกาสการกลับเข้าสู่วงจรยาเสพติดได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า ผู้เสพคือ “ผู้ป่วย” ที่ควรได้รับการรักษาและฟื้นฟู เพื่อให้สามารถกลับคืนสู่สังคม และกลายเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
“ช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาในหลายด้าน ทั้งในเรื่องอาชญากรรม โดยใช้มาตรการ “สามตัด” คือ ตัดน้ำ ตัดไฟ และตัดอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้ผลอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอชายแดน มีการปฏิบัติการร่วมกับตำรวจในพื้นที่ 76 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมถึงมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ สองเดือน จนมั่นใจว่าไม่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดอีก” นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การเผาทำลายของกลางยาเสพติดในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าของกลางจะไม่ได้กลับเข้าสู่ระบบหรือวนเวียนอยู่ในสังคมอีกต่อไป โดยทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่า ยาเสพติดจะถูกนำเข้าสู่ระบบการเผาทำลายอย่างแน่นอน
“ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างบูรณาการต่อไป หากมีปัญหาหรือความต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ขอให้พูดคุยประสานงานกัน เพราะปัญหายาเสพติดคือ “วาระแห่งชาติ” ที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนอุปกรณ์ หรือการดูแลเจ้าหน้าที่ทุกคน เพราะนี้คือเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของรัฐบาลว่า ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ของชาติ ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อทำให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศไทยอย่างถาวร” นายกรัฐมนตรีย้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการการแสดงผลการดำเนินงานปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดซึ่งประกอบด้วย บอร์ดการแก้ไขปัญหายาเสพติดเพื่อทำให้ประชาชนมีความสุข บอร์ดการแก้ไขปัญหา Call center บอร์ดการสกัดกั้นตามแนวชายแดน Seal บอร์ดการสกัดกั้นและปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด Stop บอร์ดการใช้กำลังภาคประชาชนในพื้นที่ชายแดน Safe บอร์ดการบูรณาการทุกภาคส่วน และ บอร์ดการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดสมัยที่ 68 (CND)
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับชมการสุ่มตัวอย่างยาเสพติดของกลางด้วยวิธี Color’s test รวมถึงการเผาทำลายยาเสพติด สำหรับผลการดำเนินการการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe มีผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน วัดผลที่สำคัญได้ ดังนี้ 1.จับกุมยาบ้า 76,556,800 เม็ด เพิ่มจากปี 2567 กว่า 20 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32 และ 2.จับกุมไอซ์ 7,527 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2567 กว่า 7 พันกิโลกรัม เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 1,700 ส่วนการทำลายยาเสพติดของกลางของสำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขให้ทำลายยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วจากสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติดสำนักงาน ป.ป.ส. ในวันนี้เป็นครั้งที่ 2 ของปี 2568 และนับเป็นครั้งที่ 3 ภายใต้รัฐบาลนี้ จำนวนคดีรวม 80 คดีน้ำหนักสุทธิยาเสพติดของกลางรวม 23,866.14 กิโลกรัม (23.87 ตัน) และ น้ำหนักยาเสพติดของกลางและสิ่งห่อหุ้มรวม 27,816.69 กิโลกรัม (27.82 ตัน)
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยังโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) กิโลเมตรที่ 20 อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 และการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568