ผักกาดหอม
สงสัย….
รัฐบาลจะพังเพราะร่างกฎหมายกาสิโน
กาสิโนจะเป็นหัวเชื้อ สร้างความไม่พอใจลุกลามไปยังปัญหาอื่นๆ
เพราะสถานการณ์ประเทศไทยตอนนี้ สาหัสกับภาวะเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นในรัฐบาล และการค้าโลกที่จะกระทบไทยในอนาคตอันใกล้
ที่ดรามากันอยู่ในตอนนี้คือ ประเทศไทยเพิ่งประสบภัยแผ่นดินไหวหยกๆ
ยังค้นหาผู้ที่คาดว่าจะรอดชีวิต และศพผู้ใช้แรงงานที่น่าเวทนา
สังคมไทยยังอยู่ในภาวะเจ็บปวด และตื่นตระหนก แต่รัฐบาลกลับลัดคิว ยัดร่างกฎหมายกาสิโนเข้าสภา ราวกับว่า ต้องจบเรื่อง “ใบอนุญาต” เปิดกาสิโนให้ได้ในเร็ววัน
เขานินทากันทั่วเมืองแล้วนะครับ ใบอนุญาต ราคาไม่ใช่น้อยๆ หากจะหาประโยชน์นี่คือขุมทรัพย์ขุมใหม่ของนักการเมือง
เท็จจริงประการใด กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แต่ ณ วันนี้ ร่างกฎหมายกาสิโนที่ยังเต็มไปด้วยคำถามนั้น เป็น “เรื่องด่วน” เพิ่มเติมในวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่พิจารณากันในวันนี้ (๓ เมษายน)
ก็ครบวงจรตามชื่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจริงๆ
เร่งรัด ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ราวกับมีใครสั่งมา!
และใครคนนั้น ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่มีจิตใจที่อำมหิต โลภมาก หาประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน
ร่างกฎหมายฉบับนี้เสนอโดยคณะรัฐมนตรีนะครับ ฉะนั้นพรรคร่วมรัฐบาลหน้าไหน จะเอาหล่อมาปฏิเสธทีหลังว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้
เพราะพวกคุณทุกคนคือรัฐบาลที่ไฟเขียวให้ประเทศไทยมีกาสิโนมอมเมาประชาชน
หากจะปฏิเสธ ควรทำเสียแต่ตอนนี้ อย่าเพลิดเพลินอยู่กับเก้าอี้รัฐมนตรี จนไม่สนใจว่าอนาคตสังคมไทยจะหายนะเพราะรัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนเล่นการพนัน
แต่…ก็คงเกาะเก้าอี้กันต่อไปนั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าแก่ต่อสู้กับระบอบทักษิณมาอย่างยาวนานอย่างพรรคประชาธิปัตย์
พรรคมรดกลุง รวมไทยสร้างชาติ วันนี้กำลังร่วมกันสร้างชาติกับระบอบทักษิณด้วยเงินบาป
และอย่าไปคาดหวังกับ พรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคนี้คือรัฐบาลทุกสมัย
ครับ…พิรุธในร่างกฎหมายฉบับนี้ ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีการตั้งคำถามกันเยอะ
ใช่วิธีการหาเงินของรัฐบาลเพื่อนำไปพัฒนาประเทศจริงหรือ
หรือแค่วิธีการหาเงินของพรรคการเมือง
ย้อนกลับไปที่คำให้สัมภาษณ์ของ นายกฯ แพทองโพย ก่อนหน้านี้ จะเห็นตัวเลขที่น่าสนใจครับ
“…เอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับ กาสิโน เพราะมีกาสิโนอยู่ไม่เกิน ๑๐% ขณะที่ ๙๐% จะเป็นเรื่อง ฮอลล์คอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ความจุ ๕๐,๐๐๐ คน indoor Stadium ขนาดใหญ่ สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร ที่จะสร้างรายได้กว่า ๑๑๙,๐๐๐-๒๓๘,๐๐๐ ล้านบาท
คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น ๕-๑๐% ต่อปี…”
“…รัฐจะมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท ถึง ๓๙,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี
และจะเก็บภาษีจากธุรกิจอื่น ประมาณ ๘,๐๐๐ ถึง ๓๕,๐๐๐ ล้านบาทต่อปี
โดยภาษีเฉพาะกาสิโนขั้นต่ำ ๓,๒๖๔ ล้านบาทต่อปี…”
ตัวเลขนี้น่าตกใจนะครับ ไม่ทราบอ้างอิงจากอะไร
นายกฯ แพทองโพย อ่านอย่างละเอียดก่อนแถลงข่าวด้วยตัวเอง หรือว่าตามโพย
รัฐบาลหวังภาษีกาสิโนขั้นต่ำเพียง ๓,๒๖๔ ล้านบาทต่อปีเท่านั้นเองหรือ
รายได้น้อยขนาดนี้จะเสี่ยงทำกาสิโนทำไม
อย่าไปเพ้อเจ้อครับว่า สวนน้ำ โรงแรม ฮอลล์คอนเสิร์ตที่ไม่มีกาสิโน จะสามารถสร้างรายได้ ร่วมๆ ๒.๓ แสนล้านบาทต่อปี
เพราะรู้ๆ กันอยู่ครับว่า เอนเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ทั่วโลก ภาษีเข้ารัฐมาจาก กาสิโน
ขณะนี้มีประเด็นงอกมา ก็เรื่องภาษีเข้ารัฐนี่แหละครับ เกิดคำถามกับรัฐบาลว่า ทำไมไม่ระบุให้ชัดเจนในร่าง พ.ร.บ.กาสิโน
หรือจะเก็บไว้ฮั้วกันระหว่างพรรครัฐบาลกับนายทุนกาสิโน!
ยังไม่ได้บอกว่าโกงนะครับ แต่เพราะมันไม่ชัดว่าจะเก็บกี่เปอร์เซ็นต์ และการที่นายกฯ แพทองโพยออกมาบอกว่าเก็บภาษีกาสิโนได้ปีละ ๓ พันล้าน มันทำให้คนเขาสงสัย
เมื่อเทียบกับการเก็บภาษีกาสิโนประเทศอื่นๆ แล้ว ยิ่งต้องสงสัยว่าเอื้อประโยชน์ให้ใคร
สหรัฐฯ เก็บภาษีจากกาสิโนได้ ๑๐% ปีที่แล้วเก็บรายได้เข้ารัฐ ๓ แสนล้านบาท
มาเก๊า เก็บภาษีกาสิโน ๓๕% นับว่าโหดมาก มีรายได้เข้ารัฐร่วม ๘ แสนล้านบาท
สิงคโปร์ เก็บภาษีกาสิโน ๑๗% รายได้เข้ารัฐ ๑.๓๕ แสนล้านบาท
ฟิลิปปินส์ เก็บภาษีกาสิโน ๕% แต่ฟิลิปปินส์ยังเก็บภาษีจากพนันออนไลน์อีก ๓๐% รวมเก็บภาษีเข้ารัฐ ๑.๖ แสนล้านบาท
สำหรับร่างกฎหมายกาสิโนของไทย ไม่ต้องไปหาครับว่าเก็บกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะไม่มีการระบุไว้
แต่ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการนโยบาย
ร่างกฎหมาย มาตรา ๑๑ ให้คณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๕) เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี
คณะกรรมการนโยบายเป็นใคร?
คือคณะกรรมการที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
มีกรรมการโดยตำแหน่ง ๙ คน
กรรมการประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ๖ คน
อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ที่เหลือเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖ คน
เห็นสัดส่วนแบบนี้ไม่ต้องถามนะครับว่า เมื่อกรรมการนโยบายมีมติเสนอ ครม.แล้ว ครม.จะว่าไง
กรรมการชุดนี้ยังมีอำนาจในการออกใบอนุญาตด้วย
ที่จริงก็กำหนดทุกอย่างที่เกี่ยวกับกาสิโน
คำถามคือ เมื่อนายกฯ แพทองโพยบอกว่า รายได้จากภาษีกาสิโนขั้นต่ำคือกว่า ๓ พันล้าน
ขณะที่ประเทศอื่นๆ เก็บได้หลักแสนล้าน แล้วจะมีกาสิโนไปทำไม
อย่าให้เขานินทานะครับว่า ที่เร่งรีบกันเพราะต้องเร่งออกใบอนุญาต
อย่าให้เขาด่าว่าจัญไร
