17 มีนาคม 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดงาน “เชิดชูเกียรติผู้นำคนพิการที่สร้างแรงบันดาลใจ TOP 10” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติผู้นำคนพิการที่สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นตัวอย่างให้กับคนพิการและคนทั่วไปในสังคม ที่สามารถก้าวข้ามผ่านความพิการและปัญหาอุปสรรคที่ต้องเผชิญ สู่เส้นทางของความสำเร็จ
โดยมอบรางวัลเกียรติยศผู้นำคนพิการที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ผู้ผลักดันกฎหมายและสู้เพื่อสิทธิคนพิการไทย และมอบรางวัลผู้นำคนพิการที่สร้างแรงบันดาลใจ Top 10 จำนวน 10 คน
โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ บริเวณโถง ชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว
นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการประสานพลังกับทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อเปลี่ยนความท้าทายให้กลายเป็น “ความหวัง โอกาส และความเสมอภาคทางเศรษฐกิจและสังคม” สำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างเท่าเทียม โดยมีนโยบายเร่งด่วนในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่สำคัญ ได้แก่ คนพิการ , ผู้สูงอายุ , กลุ่มชาติพันธุ์ และบุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้โดยสะดวกตามที่กฎหมายบัญญัติ
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้มีความมั่นคงในชีวิต ด้วยการส่งเสริมให้เข้าถึงโอกาสและสิทธิสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม โดยเฉพาะ “กลุ่มเปราะบาง” รวมถึงได้รับการคุ้มครองทางสังคม สำหรับกลุ่มคนพิการ กระทรวง พม. โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ยึดหลักการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกมิติ ภายใต้ 3 แนวคิด คือ 1) การเสริมพลังคนพิการ (Empowerment) เพื่อความเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของตนเอง 2) เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human Dignity) เพื่อความเท่าเทียมกัน และ 3) สังคมที่ปราศจากอุปสรรคต่อคนพิการ (Barrier – Free) เพื่อการมีส่วนร่วมทางสังคมได้อย่างเต็มที่
นายวราวุธ กล่าวว่า ปี 2568 กระทรวง พม. โดย พก. ได้ขับเคลื่อนงานด้านคนพิการที่ต่อยอดขยายผลจาก “นโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ที่มุ่งเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณค่าคนพิการ ภายใต้ พันธกิจสำคัญ (Flagship projects) ด้านที่ 4 พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้คนพิการก้าวข้ามความพิการ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พึ่งตนเองได้ และร่วมรับผิดชอบสังคม โดยความพิการไม่เป็นข้อจำกัด ซึ่งวันนี้ มีการจัดงาน “เชิดชูเกียรติผู้นำคนพิการที่สร้างแรงบันดาลใจ TOP 10” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแบบอย่างของความสำเร็จว่า “คนพิการทำได้” ด้วยความสามารถและศักยภาพของคนพิการบนเส้นทางของการก้าวข้ามความพิการสู่ความสำเร็จ และมีส่วนร่วมตอบแทนสังคม ซึ่งจะสร้างความคิดและความเข้าใจใหม่ในการอยู่ร่วมกันของคนพิการ บุคคลทั่วไป และสังคมที่มีต่อคนพิการและความพิการ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนพิการและบุคคลทั่วไปร่วมกันสร้างสังคมแห่งโอกาส โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และตระหนักถึงพลังของคนพิการในการเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
นายวราวุธ กล่าวว่า รางวัลในวันนี้ที่คนพิการได้รับเป็นตัวแทนที่บอกว่าความพยายาม ความอดทน ความพิเศษที่พี่น้องคนพิการมีมากกว่าคนอื่น ล้วนแล้วแต่เป็นแรงผลักดันที่เป็นพลังสำคัญในการเป็นตัวอย่างให้กับคนอีกหลายคน อย่างเช่น วิดีโอของคนพิการทั้ง 10 ท่านนั้น ตนอยากนำไปเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ได้ชมตามที่ต่างๆ อาทิ โรงเรียน สถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้ได้เห็นว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานภาพใด ทุกคนล้วนแล้วแต่มีพลังอยู่ในตัวเอง ถ้าหากว่าไม่ยอมแพ้ ยังมีความมานะอดทน ไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้ และทั้ง 10 ท่านคือผู้แทนที่สื่อถึงความอดทน ความพยายาม การฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยอีกหลายล้านคน ดังนั้นรางวัลนี้จึงเป็นการเชิดชูเกียรติและเป็นกำลังใจให้ และแสดงให้คนไทยทั่วประเทศได้เห็นว่าคนพิการมีความพยายามและเป็นส่วนสำคัญของสังคมไทย และที่สำคัญอยากให้ทุกท่านเป็นแรงผลักดันหรือแรงกระตุ้นให้กับคนทั่วไป สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน การฝ่าฟันอุปสรรค และความอดทน ตนขอแสดงความยินดีกับทั้ง 10 ท่าน ซึ่งแต่ละท่านนั้นมีเรื่องราวมากมายที่อยากให้ประชาชนได้มีโอกาสศึกษาชีวิตของแต่ละท่าน เพื่อจะได้เข้าใจถึงคำว่าความสำเร็จและความอดทนนั้นคู่กันอย่างไร
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในที่ประชุมของสหประชาชาติ (UN) ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นการไปประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีสมัยที่ 69 (CSW 69) แต่ว่านอกเหนือจากการประชุมดังกล่าว ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารของสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP เกี่ยวกับโครงการพัฒนาของสหประชาชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา กระทรวง พม. ทำให้พี่น้องคนพิการเป็นพลังของสังคมไทยได้อย่างไรจนกระทั่ง UNDP ต้องศึกษาจากโมเดลของกระทรวง พม. แล้วขยายต่อยังประเทศอื่นๆ ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าการทำงานของกระทรวง พม. ไม่ได้ทำงานเพียงแค่ในระดับประเทศ แต่ทำงานในระดับนานาประเทศ จนได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้นานาอารยะประเทศ สามารถนำเอาแบบอย่างของกระทรวง พม. ไปประยุกต์ใช้เพื่อคนพิการทั่วโลก