สันต์ สะตอแมน
ไม่รู้จะโทษใคร..
เพียงแต่จะขออนุญาตชี้แจงกับท่านผู้อ่านว่า บทความผมเมื่อวาน (ในเว็บไซต์) เนื้อหาได้หล่นหายไปย่อหน้าหนึ่ง ถ้าอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง-ไม่เข้าใจ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยละกัน!
ครับ..สมภารกินไก่วัด หรือจะ “แม่ชีกินไก่วัด” ก็ครือกัน แต่เรื่อง “ศีลธรรม” อาจแตกต่างกันไป ถ้า “ไก่” มีลูก-มีผัว-มีเมียอยู่กินกันอยู่..
นั่น..ผิดศีลข้อกาเมฯ เต็มๆ แต่หากเป็นไก่โสด ก็ยังพอกล้อมแกล้ม แม้จะผิดก็ไม่ถึงกับต้องปีน “ต้นงิ้ว”!
อย่างเรื่องของ “แม่ชีกินไก่วัด” ที่กำลังเป็นขี้ปากของชาวบ้านร้านตลาดอยู่ ณ ขณะนี้ ก็ไม่รู้ว่า แม่ชีแค่ลูบๆ คลำๆ ด้วยรัก-เอ็นดู หรือว่าถึงขั้นเชือดไก่กลืนลงท้องไปแล้ว
แต่ฟังเสียงชาวบ้านซุบซิบกัน “จะเหลือเรอะ” ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็บาป 2 เด้ง เพราะตัวเองก็มีผัวเป็นตัวเป็นตนอยู่..สรุปคือ เรื่องนี้เณรไม่เกี่ยวๆ กะเจี๋ยวยังเล็กอยู่.. จบ!
เอ้า..ส่วนนั้นจะจบ-ไม่จบยังไม่ชัด ก็เรื่องที่คุณเนวิน ชิดชอบ เจ้าของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้บอกแจ้งว่า..
“สัญญาโมโตจีพีเหลือเพียงแค่ปีเดียว คือ การเป็นเจ้าภาพสนามเปิดในฤดูกาล 2026 ก็หมดสัญญาแล้ว ต้องรอให้รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะต่อสัญญาออกไปหรือไม่”
ซึ่งถ้าต่อ คุณเนวินบอกว่า.. “ก็ยืดอายุออกไปได้อีกระยะหนึ่ง ถ้าไม่ต่อก็เป็นอันจบ”!
และต่อมา.. “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ทำนองว่า “ทุกโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่จะต้องดำเนินการต่อไป
แต่หากโครงการใดไม่เกิดประโยชน์ หรือขาดทุนก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ….
จะมองว่าเป็นการเมืองก็ได้ แต่ดิฉันขอมองแบบเรื่องธุรกิจและเงิน ว่าเงินเข้าประเทศมากน้อยแค่ไหน”
ก็ตามประสาลูกสาวนักธุรกิจที่มองเรื่องเงิน-ผลประโยชน์ กำไรเป็นสำคัญ แล้วท่านผู้อ่านล่ะ อยากให้ต่อหรือไม่อยากให้ต่อ?
สำหรับผม แม้จะไม่ได้นิยมชมชอบความเร็วของรถเครื่อง-มอเตอร์ไซค์ ชนิดยอมควักเงินซื้อตั๋วเข้าไปดูขอบสนาม
แต่..เห็นความพยายามของคุณเนวินที่ได้ผลักดัน จ.บุรีรัมย์จนกลายเป็น “เมืองกีฬา” ที่สมบูรณ์แบบ ก็ อืมม..ถ้าจะต่อสัญญาไปอีกก็น่าจะดี!
ยิ่งฟัง (อ่าน) ที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาฯ บอก.. “โมโตจีพีในปีนี้ เป็นปีที่ทุบสถิติในแทบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ที่สูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 5,000 ล้าน จำนวนผู้ชมที่สูงขึ้นเกือบ 7% การสร้างงานที่สูงขึ้น 12%
และโดยเฉพาะการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 52,000 กว่าคน ที่สูงขึ้นประมาณ 38% สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มจัดงานมา” ด้วยแล้ว
เงิน 500 ล้านที่รัฐบาลซัพพอร์ต น่าจะคุ้มกว่าเงิน 5,000 ล้านที่ใช้เป็นงบ Soft power กับ 54 โครงการที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งนั่งเป็นประธานมาปีกว่า แต่ยังไม่มีอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันอยู่นะ!
อย่างโครงการสนับสนุนภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ งบ 545.2 ล้านบาท จนบัดป่านนี้ยังไม่รู้ว่ามีหนัง ละคร ซีรีส์ได้รับการสนับสนุนไปแล้วกี่เรื่อง?
และมีเรื่องไหนบ้างที่เป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ น่าจะได้แจ้งให้ทราบบ้าง อย่างนี้เป็นต้น!
ก็ไม่ได้จะคิดระแวงหรืออคติ แต่งบประมาณตั้ง 5,000 ล้านบาท ควรที่จะแจกแจงอย่างโปร่งใส ก็เหมือนกับที่นายกฯ แพทองธารได้แสดงความกังวล-เป็นห่วงกับเงิน 500 ล้าน..
และคิดหนัก จะต่อ-ไม่ต่อสัญญาโมโตจีพีดีอยู่ในตอนนี้นั่นไง!
หรือหากได้บทสรุป-ตกลงกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นายกฯ ที่ร่วมวงอยู่ด้วยก็ช่วยกรุณาพูดออกมาเสียตรงๆ..
ต่อรองทางการเมืองก็จะได้รู้ ต่อสัญญา แฟนๆ โมโตจีพีก็จะได้สบายใจ หรือ “ไม่ต่อ” ก็จะได้เตรียมใจ สิ้นฤดูกาล 2026 ก็จบกัน แค่นั้นเอง!
เพราะว่ากันตามจริง จะต่อ-ไม่ต่อ ประชาชนเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วย และที่ต่อ-ไม่ต่อ ก็เป็นเรื่องการเมือง-ผลประโยชน์ของตัวเอง-พวกพ้องที่ชาวบ้าน-ชาวช่องเขาก็รู้
ฉะนั้น..จะตกลงกันอย่างไรก็เรื่องของสู แค่ถ้าจะบอกให้ประชาชนรู้ ก็จะได้..
“หายหวังเหวิด” เท่านั้นเอง!
