เปลว สีเงิน
“นาฬิการัฐบาล” กับ “นาฬิกากรรม” กำลังเดินแข่งกัน
นาฬิการัฐบาล….
นายกฯ Gen Y ขะมักเขม้น ดัน “กฎหมายกาสิโน” กับกฎหมาย “แก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญตั้งสสร.เขียนใหม่” เข้าสภา
รีบเร่งให้ทันก่อน “ปิดสมัยประชุม” ๑๐ เมษา.!
ส่วน “นาฬิกากรรม”….
“ไม่รีบ-ไม่เร่ง” เข็มกระดิกไปตามแรงโน้มถ่วงของกรรมดีและระยำกรรมของ “แต่ละมนุษย์” ผู้สุดประสริฐ
ตามกฎ “ใครทำอะไรเช่นใดไว้ จักต้องได้รับผลของการกระทำเช่นนั้น”
แล้ว “เวลาไหน” เป็นจุดชี้ขาดว่า “ใครถึงก่อน”?
ก็ไม่น่าเกิน “เดือนพฤษภา.” ไปหรอกน่า
ถ้าฟ้าไม่ผ่า แผ่นดินก็ไหว
ถ้าทั้งไม่ผ่า ทั้งไม่ไหว ก็ยกประเทศให้โจรมันไป ต้องคิดอะไรมาก ก็รัฐบาลเราเลือกมากะมือ-กะตีนกันเองมิใช่หรือ?
เมื่อวาน (๓ มี.ค.๖๘) ในขณะที่นายกฯ “ลูกสาว” หลบงานหลวงแต่ใช้เงินหลวงยกคณะ “ลับ-ลวง-พราง” เดินทางไปงานภูเขาทองที่เยอรมนี
อยู่ทางนี้ “พ่อนายกฯ” โชว์คลิป “ตาเลี้ยงหลาน” เย้ยสังคมว่าพวกมึงไม่มีน้ำยา เป็นพวก “หมาเห่าเรือบิน” ด้วยอิจฉากันทั้งนั้น
กฎธรรมชาตินี้ดีอย่าง
ลวงให้มนุษย์หลงว่า “โลกมีพรุ่งนี้” แล้วทุกคนต่างกระหายรอ “วันพรุ่งนี้”
มันจึงทำให้ค่าว่า “พรุ่งนี้” มีเสน่ห์ลึกลับ ดึงดูดให้ทุกคนมุ่งหวัง จนทำให้คำว่า “พรุ่งนี้” เป็น “ความหวัง” ของมวลมนุษย์
แต่ “วันพรุ่งนี้” ไม่เคยมีมาถึงใครเลย!?
ลืมตาขึ้นมาวันไหน ก็มีแต่ “วันนี้” ตลอด ผมเฝ้ารอ “วันพรุ่งนี้” มา ๘๐ ปีแล้ว ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสวันพรุ่งนี้ซักที
ฉะนั้น ร้อนรนไปไย….
พระอาทิตย์ขึ้นทิศตะวันออกแล้วลับโลกทางทิศตะวันตก เป็นอย่างนี้มา ๔,๖๐๐ ล้านปีแล้ว ฉันใด
กังฉิน-กินชาติ ลงท้าย ต้องวิบัติ-วอดวาย, ตงฉิน-ไม่กินชาติ รวยสะอาด พรสะพรั่งทั้ง ๔ ประการ ก็จะเป็นฉันนั้น
และมันเป็นเช่นนี้มา ๔,๖๐๐ ล้านปีแล้วเช่นกัน!
ดังนั้น ไปเถอะนะ..แม่ไป ไปเที่ยวตามใจของเจ้า กรรมจะคอยเป็นเงา จะเที่ยวคอยเฝ้า-คอยมอง
หวังว่าการ “ทวนตะวัน” พลัดที่นาคาที่อยู่ ไปให้ “ลับโลก” ที่เยอรมนีตะวันตกครั้งนี้ ตกนั้น จะช่วยตัดเคราะห์-สะเดาะกรรม
กลับมา จะไม่ตกเก้าอี้…
ผ่านปลายมีนา.ยังสามารถฟันผ่าพ้นเดือนพฤษภา.กระทั่งพ้นปี ๖๘ ไปได้ ก็เอาใจช่วยนะ!
ช่วงนี้ ทุกเรื่องร้อน มีเงื่นไขเวลากำกับทั้งนั้น
โดยเฉพาะเรื่อง ชั้น ๑๔ ของคนเหนือคุก เหนืออำนาจบริหาร, อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการของศาลฎีกาฯ
ตามคำร้องของ “นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์” ที่ยื่นขอให้ศาลฯ ไต่สวนและออกหมายจับ “ทักษิณ ชินวัตร” มาขังตามหมายของศาลฯ
เพราะที่ผ่านมา “นายทักษิณ” ไม่ได้ถูกจำคุกตามคำพิพากษา ถูกส่งตัวไปพักรักษาที่รพ.ตำรวจโดยมิชอบ
นอกจากนี้ ในเรื่องเดียวกัน
ที่ป.ป.ช.การไต่สวนการป่วยทิพย์ของทักษิณ ที่ชั้น ๑๔ ก็ใกล้ถึงจุด “ชี้มูลความผิด”
รวมทั้งที่ “แพทยสภา” ตั้งอนุฯ สอบข้อเท็จจริงการป่วยทิพย์ พิจารณาจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจและรพ.ราชทัณฑ์
ทั้งหลาย-ทั้งปวง จะมีผลบรรจบกัน “ปลายมีนา-ต้นเมษา.” นั่นหมายถึงว่า
ทั้งเรื่องในสภา-ชุมนุมหน้าทำเนียบ และเรื่องป่วยทิพย์ จะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน
และจะเป็นคีมเหล็ก บีบทั้งตัวนายกฯ-ทั้งตัวพ่อนายกฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน!
“รัฐบาลพ่อสั่ง” ก็ดูเหมือนจะรู้ชะตากรรม ก็สู้สุดฤทธิ์ เป็นการสู้ “แข่งกับเวลากรรม”
ในเวลาที่เหลือประมาณ ๒ เดือนครึ่ง ในรัฐบาล ต้องเล่นเกมกับพรรคร่วม ใครจะ “หักเหลี่ยมโหด” ใครได้ก่อน กับพรรคภูมิใจไทย ที่โยงใยไปถึงสว.สีน้ำเงิน
แต่ยังไม่กล้าแตกหักหรอก เชื่อเถอะ แค่ใช้บริการ DSI เรื่องฮั้วสว.เขย่าขย่ม “ภูมิใจไทย” ในทางต่อรอง
เพราะแตกหักตอนนี้ ทั้งขี้-ทั้งตด “อด” เลย การตบ-จูบกับภูมิใจไทย หวังพึ่งพาการเอออวย จากครม.สู่สภา ยังจำเป็น!
เรื่อง “แก้เพื่อฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่” เป็นเรื่องใหญ่-เรื่องยาก ฉะนั้น ผลักเป็นเรื่องรอง รอไว้ก่อน
“พรบ.ตั้งบ่อนพนันบั่นทอนอนาคตชาติ” เป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องหัวใจถึงกระเพาะ ชนิดจำเป็นและเร่งด่วน
ฉะนั้น ต้องเอาให้ผ่าน ครม.ส่งเข้าวาระในสภาคาไว้ก่อน ให้ทันสมัยประชุม
ไม่งั้น เกิดอุบัติเหตุปุบปับทางการเมือง ทุกอย่างก็จะคว้าน้ำเหลว ยิ่งถ้ามัดจำค่าใบอนุญาตกันไว้ล่วงหน้า ใครจะเชื่อล่ะว่า แล้วจะเปิดได้
มันก็ “ฉิบหาย” เลย!
ดังนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือภูมิใจไทย ขั้นต้นต้องให้ผ่านชั้นครม.ส่งเข้าสภาให้ได้ แล้วจากนั้น ค่อยว่ากันไปตามหน้างาน
ดูแล้ว ทุกอย่าง “จุลกฐิน” เพื่อไทยทั้งนั้น
การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา พ่อก็ต้องเลี้ยงหลานโชว์ไป ต่อสายต่อรองกับธนาธรไป
เพราะอุ๊งอิ๊งคือ “กล่องดวงใจ” ของพ่อ
ปล่อยให้รุมทึ้ง “ฉีกหน้า-แหกอก” นายกฯ กลางสภา นั่นไม่ต่างอะไรกับ “คนใต้ตีนแดง” กำแหงปัสสาวะรดหัวใจพ่อโดยตรง!
แล้วยังเรื่องป่วยทิพย์ของตัวเอง
ที่จริง ตัวเองสบายในกรณีป่วยทิพย์ คนที่ไม่สบายคือพวกหมอและคนราชทัณฑ์
แต่ที่นายชาญชัยไปร้องศาลฎีกาฯ ขอให้พิจารณานำตัวกลับคุก เพราะยังไม่ได้รับโทษคุกตามคำพิพากษาศาล
ตรงนี้แหละ ทักษิณกำลัง “สุขกาย” แต่ใจกำลัง “หมกไหม้-ไส้ขม”!
ทำไป-ทำมา “ทั้งพ่อ-ทั้งลูก” ชะตาผูกพันกันโดยแท้
ส่วนผลจะออกมาอย่างไร
ทุกอย่างตามเงื่อนไข “นาฬิการัฐบาล-นาฬิกากรรม” ต่างเดินไป เส้นชัยใครจะถึงก่อน “มีนา-พฤษภา.” มีคำตอบแน่
เรื่อง “กาสิโน “นี่ ฟังนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังเมื่อวาน เฉไฉมาแต่แรกว่า เปิดเพื่อดึงดูดนักเล่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สุดท้าย เพื่อไทยก็แก้ผ้าล่อนจ้อน เปิดกาสิโนหวังลูกบ่อนจากคนไทยโดยตรง
ฟังที่นายจุลพันธุ์พูดชัดๆ ก็ได้
“การปรับปรุงพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่จะเข้าครม.ได้หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา ในส่วนของเงื่อนไขเดิม
ที่กำหนดให้คนไทยที่จะเข้าไปเล่นในกาสิโน ต้องมีเงินในบัญชี ๕๐ ล้านบาท
ว่าเรื่องนี้ ได้มีการแก้ไข โดยเอาเงื่อนไขนี้ออก เปลี่ยนเป็นกำหนดว่า คนไทยที่จะเข้าเล่นในกาสิโนได้ ต้องมีการยื่นแบบชำระภาษีย้อนหลัง ๓ ปี
ส่วนเรื่องการเก็บค่าเข้าเล่นในกาสิโนยังเก็บ ๕,๐๐๐ บาท ตามเงื่อนไขเดิม
กระทรวงการคลังไปดูข้อมูลแล้วพบว่า บัญชีที่มีเงินเกิน ๕๐ ล้านบาทในไทย มีเพียง ๑๐,๐๐๐บัญชี
ถ้าไปกำหนดแบบนั้น ก็เท่ากับว่า ผลักให้คนที่ต้องการเล่นกาสิโนไปเล่นในที่อื่น
เช่น ประเทศเพื่อนบ้าน หรือยังเล่นพนันผิดกฎหมาย จึงแก้ไขตรงนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังและกฤษฎีกาได้เห็นร่วมกัน”
เห็นมั้ย…..
เปิดเพื่อดึงดูดนักเล่น-นักท่องเที่ยวต่างชาติซะที่ไหน ก็หวังให้คนไทยเข้าไปเล่น โดยอ้างข้างๆ คูๆ ไม่งั้นไปเล่นบ่อนต่างประเทศหรือเล่นพนันผิดกฎหมาย
นึกว่าจะเป็นนักการเมืองที่ดีได้ซักคน เอาเข้าจริง ก็สายพันธุ์ทักษิณตั้งแต่หัวยันตีน!
“กาสิโน” ในต่างประเทศ อย่างเกาหลี เวียดนาม เขาห้ามคนของเขาเข้าไปในบ่อนเด็ดขาดและจริงจัง
แต่ของไทย เปิดหวังให้คนไทยเข้าไปเล่น บอกตรงๆ นี่คือการกัดกร่อนบ่อนเซาะสู่การทำลายอนาคตชาติล่มจมแน่ ล้านเปอร์เซนต์!
อังกฤษ เอาฝิ่นเข้าไปมอมเมาคนจีน จนเสียประเทศมาแล้ว และนี่ รัฐบาลเพื่อไทยกำลังเอาบ่อนพนันมามอมเมาคนไทย
ไม่วอดวายล่มจมตอนนี้แล้วจะไปวอดวายลมจมตอนไหน!?
คนไทยต้องตื่นรู้ ด้วย “รู้ทันทักษิณ”
เปิดบ่อนได้ ก็ตามมาด้วยพนันออนไลน์ แบบนี้ก็ยกประเทศให้ “ทักษิณ-เพื่อไทย” มันไปเลยซะเลย ก็สิ้นเรื่อง!
เปลว สีเงิน
๔ มีนาคม ๒๕๖๘
