ผักกาดหอม
ยื่นแล้วครับ…
พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแพทองธารแล้ว
เห็นว่าเกมพลิก จากเดิมจะยื่นซักฟอก ๑๐ คน ไปๆ มาๆ เหลือแค่ “แพทองธาร ชินวัตร” คนเดียว
นายกรัฐมนตรีถูกซักฟอกเต็มๆ
เป็นมิติใหม่การเมืองไทยครับ ฝ่ายค้านเจาะจงที่จะเชือดนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
ไปดูเนื้อหาในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกันก่อนว่าฝ่ายค้านเขียนไว้อย่างไรบ้าง
“…อาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พวกข้าพเจ้าซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ผู้มีรายนามท้ายญัตตินี้
ขอเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยพวกข้าพเจ้าเห็นว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป
เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง
ทั้งขาดภาวะผู้นำ
ขาดวุฒิภาวะ
ขาดความรู้ ความสามารถ
และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชน
ส่งผลให้ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ
จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัวและพวกพ้อง เป็นตัวตั้งอยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหก หลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน
เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย
บริหารบ้านเมืองผิดพลาด
ล้มเหลวอย่างร้ายแรงทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา
เจตนา ตลอดจนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน
แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น
นอกจากนี้ยังสมัครใจยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการ อันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง
ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ
จากพฤติการณ์ดังกล่าว หากปล่อยให้บุคคลดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ยากจะแก้ไขเยียวยาได้
จึงกราบเรียนมาเพื่อบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุผลและรายละเอียดต่างๆ จะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป…”
นับเป็นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ให้เหตุผลอย่างสุภาพเรียบร้อย ไม่ดุดัน เหมือนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา
แต่ก็มีเนื้อหาบาดลึก ขุดระบอบทักษิณขึ้นมาประจานอีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบระบอบทักษิณ เพราะไปล่มหัวจมท้ายเป็นรัฐบาลด้วยกัน
ก็หวังพึ่งพรรคประชาชน จะทำการบ้าน สามารถเปิดโปงระบอบทักษิณ นำไปสู่การส่งหลักฐานให้ ป.ป.ช.เชือดเป็นลำดับถัดไป เหมือนที่ฝ่ายค้านยุคพรรคประชาธิปัตย์ลากไส้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และลิ่วล้อ จนนายกฯ หนี รัฐมนตรีติดคุก
สงสัยมั้ยครับว่าทำไมฝ่ายค้านยื่นซักฟอก “แพทองธาร” เพียงคนเดียว ไม่มีรัฐมนตรีกระทรวงอื่นๆ พ่วงมาด้วย
พรรคส้มเริ่มเล่นการเมืองเป็นแล้วครับ
ในทางการเมืองถือว่าโหดครับ!
ปกติซักฟอกรัฐบาลจะใช้เวลา ๒-๓ วัน แต่นั่นมีรัฐมนตรีคนอื่นๆ ถูกซักฟอกร่วมด้วย
แต่ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ใช้เวลา ๒-๓ วัน “อุ๊งอิ๊ง” ไม่ช้ำหมดหรือ
ถูกประจาน ถูกแฉ ถูกด่า อยู่คนเดียวนะครับ
เป็นหุ่นเชิด โกหก หลอกลวง ล้มเหลว ปล่อยโกง ไร้ภาวะผู้นำ
แน่นอนครับ หากนับเวลาแล้ว เวลาที่ใช้ไปกับการประท้วงน่าจะมากกว่าเวลาการอภิปราย เพราะเวทีนี้ไม่เอ่ยชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ได้ เพราะในญัตติระบุเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นคนเชิดนายกฯ
องครักษ์พิทักษ์นาย พรึ่บ!
นี่ว่ากันตามเนื้อหาในญัตตินะครับ การอภิปรายจะทำให้ “อุ๊งอิ๊ง” เลือดท่วมตัวแน่นอน
ถึงเวลาอภิปรายจริง ยังไม่รู้ครับ เพราะพรรคส้มยังไม่เคยแสดงฝีมือการซักฟอกถึงขนาดจับรัฐมนตรีเข้าคุกได้
แต่ก็ให้กำลังใจล่วงหน้า ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มตัวและเป็นมืออาชีพ
ไม่เป็นนั่งร้านให้ใคร!
การซักฟอกนายกฯ เพียงคนเดียว ฝ่ายค้านย่อมหวังผลครับ
นี่คือเกมการเมือง หวังใช้พรรคร่วมรัฐบาลเล่นงานพรรคเพื่อไทย
ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย อยู่ในสภาวะ ปากปราศรัยใจเชือดคอ ต่างฝ่ายต่างซ่อนมีดไว้ข้างหลัง
เมื่อยังมีผลประโยชน์ร่วมกัน ก็ยังไม่แตกคอครับ
ต่อให้ฝ่ายค้านเสี้ยมจนเจ็บคอ ก็ยากที่ ๒ พรรคนี้จะจ้วงแทงกันเอง
จะมีบ้างบรรดาหางแถวกระทบกระทั่งกันไปมา แต่ระดับแกนนำยังนิ่ง
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เกิดความไม่ลงตัวขึ้นมา ก็เตรียมตัวครับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะหลอน “อุ๊งอิ๊ง” ไปตลอดชีวิต
และนี่คือเป้าหมายหลักของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคส้ม
“ทักษิณ” อยู่ในช่วงสร้างบารมีครั้งใหม่ และดูเหมือนจะไปได้ดี มีนักการเมือง รัฐมนตรี เดินตามหลังมากมาย
เป็นภาพที่ผู้คนเห็นกันทั้งประเทศ
ขณะเดียวกัน “ทักษิณ” พยายามสลายการเมืองสีน้ำเงิน เป้าหมายหลักอยู่ที่วุฒิสภา
ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ พรรคภูมิใจไทยรู้ดีว่า “ทักษิณ” กำลังจะทำอะไร
ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก “อุ๊งอิ๊ง” เพียงคนเดียว ก็เหมือนฝ่ายค้านยื่นดาบให้พรรคภูมิใจ
รัฐบาลมี ๓๒๓ เสียง
พรรคภูมิใจไทยมี ๖๙ เสียง
ในแง่คณิตศาสตร์ แม้พรรคภูมิใจไทยงดออกเสียงในการโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลก็ยังมีคะแนนสนับสนุน ๒๕๒ เสียง ถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง
แต่ในแง่การเมือง หากเล่นกันถึงขั้นนี้ มีทางออกเดียว
ไปทั้งยวง
