รายงานตัวด่วน!!!!! ฝ่าฝืนโทษหนัก คนไทยที่เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 3 เม.ย.63

คนไทยที่เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวานนี้ (3เม.ย.63) และไม่เข้ามาตรการกักตัว14 วันจำนวน 152 คน
ขอให้ไปรายงานตัว ณ สถานที่ ดังนี้

1.ผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ ให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์ EOC สุวรรณภูมิ
เบอร์ 0-2132-9950

2.ผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดให้ไปรายงานตัวที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ณ ศาลากลางทุกจังหวัด

ภายในเวลา 18.00น. วันนี้ (4 เม.ย.63) ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินการทางกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ขอให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ เพื่อกักกันในพื้นที่ที่รัฐจัดไว้ตามมาตรการของประเทศไทย เพราะกลุ่มนี้อาจจะมีความเสี่ยงในการทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปยังบุคคลในครอบครัวและคนใกล้ชิดได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวในครอบครัวและชุมชน

วันนี้ (4 เมษายน 2563) นายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่ผู้โดยสารเดินทางจากต่างประเทศไม่ยอมกักตัวตามมาตรการของประเทศไทย นั้น เบื้องต้นได้รับรายงานว่าในจำนวนนี้มีบางรายที่ตรวจพบว่ามีไข้ที่สนามบิน แต่ได้ออกจากสนามบินไปก่อน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะมีความเสี่ยงในการทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด-19 ไปยังบุคคลในครอบครัวได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวในครอบครัวและชุมชน เพราะหากในบางรายเชื้อยังอยู่ในช่วงระยะฟักตัวของโรค ก็ไม่มีอาการ ทำให้คิดว่าไม่ป่วย หรือบางรายมีอาการป่วยไม่มาก แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังบุคคลรอบข้างได้ โดยเฉพาะผู้ใกล้ชิดในครอบครัว จึงควรรีบมาตรวจและกักกันโรคเพื่อความปลอดภัย

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีรายชื่อทั้ง 158 คนแล้ว ขอให้ผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศกลุ่มดังกล่าวทุกคนเข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ โดยผู้ที่มีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้รายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 9 โทรศัพท์ 06-3234-4734 หรือ 0-2132-9950

ส่วนในต่างจังหวัดรายงานตัวที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนั้นๆ ภายในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ ตามแถลงการณ์ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีบางคนให้ความร่วมมือแล้ว (ยังเหลือ 152 คน) และขอความร่วมมือให้ชุมชนหรือผู้ที่รู้จักคนกลุ่มนี้ แจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบ เพื่อจะได้นำตัวเข้ามาสู่การกักกันในพื้นที่ที่รัฐจัดไว้ตามมาตรการของประเทศไทย ต่อไ

นายแพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ถูกประกาศเป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 เป็นลำดับที่ 14 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ดังนั้นการรายงานโรคจะเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแจ้งในกรณีที่มีโรคติดต่ออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดเกิดขึ้น พ.ศ.2560

นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งเร่งดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยด่วน รวมทั้งขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่น หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

Written By
More from pp
“โฆษกเพื่อไทย” ติง รัฐบาลเลิกโยนบาปประชาชน หลัง PM2.5 อยู่ในค่าอันตราย ชี้อยู่ในอำนาจหลายปี แต่ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ถนัดแต่จับคนคิดต่าง จนไม่สนใจคุณภาพชีวิตประชาชน
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 โดยบางพื้นที่ค่าฝุ่นทะลุ 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ...
Read More
0 replies on “รายงานตัวด่วน!!!!! ฝ่าฝืนโทษหนัก คนไทยที่เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 3 เม.ย.63”