สันต์ สะตอแมน
บ่อนก็จะเอา..
น้ำเมาก็จะเอา..ก๊าซใต้ท้องทะเลก็จะเอา คงเหลือแต่ “ซ่อง” กระมัง ที่รัฐบาลแพทองธารเมิน-ไม่สน!
แต่ไม่แน่นะ เพราะจะเข้าปีที่ 3 แล้ว ที่รัฐบาลโดยแกนนำพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเอียงหูไปทางไหนก็ได้ยินแต่เสียงบ่น-ด่า..
เศรษฐกิจมีแต่ทรุดกับทรุด ไม่เห็นรัฐบาลคิด-ทำห่าอะไรนอกจากนโยบาย “เพิ่มอบายมุข”!
ซึ่งหากเข็น “กาสิโน” กับ “ยกเลิกกฏหมายห้ามขายแอลกอฮอล์” ไม่สำเร็จ “ซ่อง” ก็อาจจำเป็นที่รัฐบาลจะนำขึ้นมาอยู่บนดิน เพื่อรีดภาษีจาก “กะหรี่” เอามากระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นไปได้!
เออ..แล้วนี่ วันที่ 21 กุมภา นี้ ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยคุณสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
นัยว่า มีวาระการพิจารณาเรื่องการยกเลิกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ ซึ่งถูกตีตกไปแล้วในการประชุมครั้งก่อนกลับเข้ามาอีก
นี่..จะเอากันให้ได้จริงๆ ใช่ไหม? ทำไม กิจการรถไฟไทยมันขาดทุนป่นปี้เสียจนต้องเอาเงินขายเหล้า-ขายเบียร์มาชดเชย-จุนเจือกระนั้นรึ?
สมอง ความรู้ ความสามารถและสามัญสำนึกที่ดีมันหายไปไหนกันหมด จึงคิดแต่จะรื้อ-โละสิ่งดีๆ-กฏระเบียบที่มันปกติดีอยู่แล้วให้สังคมต้องบ่น-ด่า
ก็รู้ทั้งรู้ ว่าที่มาของการออกฏหมาย “ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและสถานีรถไฟ” นั้น..
มันเกิดจากเหตุคนเมาก่อเหตุข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 ปี บนขบวนรถไฟ แล้วโยนศพออกจากหน้าต่างรถไฟเพื่ออำพรางคดี เมื่อปี 2557 โน้น!
แล้ว 10 ปีผ่านมา เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีให้ปรากฏอีกเลย ประชาชน-ผู้โดยสารทั้งที่ติด-ไม่ติดเหล้าก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร..
ทุกคนต่างมีความสุข-สะดวกสบายใจ กับการนั่ง-นอนบนรถไฟที่ไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ขาย!
แล้ว..เหี้..-ห่าอะไรมาดลใจให้การรถไฟฯถึงต้องการจะ “ยกเลิก” กฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟขึ้นมาล่ะโว้ยเฮ้ย?
ก็หวัง ตามที่คุณธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน (ขสย.) ได้กล่าว..
“รู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลที่มุ่งแต่ใช้นโยบายเพิ่มอบายมุข เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะนโยบายด้านเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่มีความพยายามจะยกเลิกเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลา 14.00-17.00 น. ยกเลิกการห้ามขายในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ให้ขายออนไลน์ได้
โดยให้เร่งไปศึกษาข้อมูลและจะให้มีผลก่อนสงกรานต์ปีนี้ หรือแม้แต่ความพยายามในการให้มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและสถานีรถไฟ
ซึ่งทราบว่า จะมีการเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่ 21 ก.พ.นี้
จึงอยากเรียกร้องให้คณะกรรมการฯ คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ หนักแน่นและกล้าหาญมากพอ
ที่จะปกป้องคุ้มครองสุขภาพของประชาชนตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย มากกว่าโอนอ่อนไปตามผลประโยชน์ทางธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เพราะท้ายที่สุดแล้วปัญหาทุกอย่างจะไหลมากองรวมอยู่ที่การบำบัดรักษาของฝ่ายสาธารณสุข คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียกว่า 1.7 แสนล้านบาท เข้าไปแล้วยังไม่พออีกหรือ”
ครับ..พ่อ-พอหรือยัง? แต่ลูกควรจะพอได้แล้ว ช่วยกระซิบ หรือออกคำสั่งให้คุณสมศักดิ์ใจแข็ง ไม่ยอมปลดล็อกมาตรการห้ามขายเหล้าบนรถไฟเด็ดขาด..
หรือจะให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำปี 2557อีก..
ก็เอาเลย!
