เปลว สีเงิน
เมื่อวาน “ว่างเว้น” คุยไปวัน
กลับจากงานฉลอง “หลวงพ่อทวดเต็มองค์” ที่วัดทรายขาว สงขลา มาถึงโรงพิมพ์ตอนบ่าย
ตั้งใจจะโทรไปบอก “คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ที่รักใคร่ผูกพันฉันท์ญาติซึ่งครบรอบวันเกิดพอดีเมื่อวาน ให้ร่วมอนุโมทนาบุญด้วย
แต่แบตสังขารผมอ่อนเต็มที ก็เลยไม่ได้โทร แผ่สองสลึงไปซะก่อน ก็บอกให้ท่านอนุโมทนาเอาวันนี้ละกัน!
การเมืองจาก Safe Zone นับแต่กลางเดือนกุมภา.นี้ไปจนถึงกลางปี จะเข้าสู่ Dead Zone แล้วหละ
ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่บอกให้ “หูไว-ตาไว” ไว้เท่านั้น
๑๓-๑๔ กุมภา.วันวาเลนไทน์ “หัวใจสีชมพู” ของคนมีรัก แต่จะเป็นวาเลนไทน์ของคนอกหัก ที่ไม่รักประเทศ คิดใช้รัฐสภาเปลี่ยนชาติ
เพราะเพื่อไทย-แกนนำรัฐบาลกับพรรคประชาชน-แกนนำฝ่ายค้าน เขา “ประสานประโยชน์” กัน
ใช้ฤกษ์วาเลนไทน์ ลงมือปฎิบัติการ “ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปราบโกง” ทิ้ง
สู่การตั้งสสร.เขียนใหม่ เป็นรัฐธรรมนูญฉบับ “เปลี่ยนชาติ-แปลงประเทศ” โดยใช้ “รัฐสภา” เป็นตราประทับรับรอง ปฎิบัติการนี้ เป็นความชอบธรรม
การณ์จะบรรลุได้ ขั้นแรก ….
ก็ต้อง “ถอดสลัก” ที่คณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกงที่เขียนไว้ในมาตรา ๒๕๖ ตั้งแต่(๑)ถึง(๘)เสียก่อน
โดยเฉพาะ(๓)..(๖)หลักเกณฑ์สำคัญ ในด่าน “รับหลักการ” คือ
(๓)การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่หนึ่ง “ขั้นรับหลักการ”ใ ห้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย
และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
ซึ่งในจํานวนนี้ ………
ต้องมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
และ(๖)การออกเสียงลงคะแนนในวาระที่สามขั้นสุดท้าย ให้ใช้วิธีเรียกชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย
และต้องมีคะแนนเสียงเห็นชอบด้วยในการที่จะให้ออกใช้เป็นรัฐธรรมนูญมากกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
โดยในจํานวนนี้ต้องมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองที่สมาชิกมิได้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบด้วย
ไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบของทุกพรรคการเมืองดังกล่าวรวมกัน และมีสมาชิกวุฒิสภาเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
นั่นคือ การไปสู่ขั้น “ฉีกรัฐธรรมนูญ” ทิ้ง แล้วตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับได้
ก็ต้องถอดสลัก(๓)และ(๖)ในมาตรา ๒๕๖ คือ “ตัดสวิตช์สว.” ออกไปจากวงจร ตั้งแต่ขั้นพิจารณาร่างแก้ไขในขั้น “รับหลักการ” วาระแรกและวาระสามนี้เลย
จะได้ไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางการฉีกรัฐธรรมตั้งสรร.เขียนใหม่ตั้งแต่ต้น
เพื่อไทย-ประชาชนรู้ …….
ถ้าเขาไม่กำจัดสว.ออกไปให้พ้นวงจรแก้รัฐธรรมนูญแต่แรก พิธีกรรมแก้มาตรา ๒๕๖ สู่การฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่
“ล้มแน่นอน”
เพราะ “สว.สีน้ำเงิน” ไม่เอาด้วยกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๒๕๖ ของเพื่อไทยและประชาชนอยู่แล้ว
ฉะนั้น ๑๓-๑๔ กพ.ที่จะถึงนี้
ลืมได้ แต่พลาดไม่ได้ ควรต้องติดตามปฐมบทความยุ่งยาก-วุ่นวายของการเมืองไทย ที่เข้าสู่ “เดต โซน”
เพื่อไทยกับพรรคประชาชนมั่นใจ “ล้านเปอร์เซ็นต์” ผ่านแดนแรก ทะลุถึงด่านสุดท้าย
ฉีกฉบับปัจจุบันทิ้ง ตั้งสสร.เขียนใหม่ได้สำเร็จแน่นอน
เฉพาะเพื่อไทย+พรรคประชาชน ก็ ๓๐๐ เสียงอยู่แล้ว จากพรรคร่วมอีกเป็นร้อย ………
แบบนี้ ต่อให้อีกร้อยสีน้ำเงิน หรือจะมาสู้แดงผสมส้มร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๒๕๖ ยังไงๆ ก็ผ่านด่าน “รับหลักการ” สบาย เห็นๆ
แต่จะสบายหรือจะนั่งถ่ายยังต้องถ่างขาเพราะถูกสว.สีน้ำเงินเตะผ่าหมาก อีก ๒ วันก็รู้
ประธานรัฐสภา “นายวัน มูหะมัด นอร์มะทา” เปิดเวทีรัฐสภา นำร่างแก้ไขและเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๕๖ ของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน เข้าถกในที่ประชุมแล้ว
ต้องเข้าใจด้วย ทั้งสองร่าง คือ “ร่างแก้ไขมาตรา ๒๕๖”
ประเด็นแรก เสนอตัดเงื่อนไขที่ว่า “ต้องมีสว.อย่างน้อย ๑ ใน ๓ คือ ๖๗ คน ให้ความเห็นชอบ” ทิ้งไป
ประเด็นที่สอง เพิ่มหมวด ๑๕/๑ ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ผ่าน สสร.ที่มาจากการเลือกตั้ง ๒๐๐ คน
โดยแก้มาตรา ๒๕๖ ตัดเงื่อนไข ว่าด้วยต้องมี สว.๑ ใน ๓ คืออย่างน้อย ๖๗ คนเห็นชอบด้วยทิ้งไป
หมายความว่า ขบวนการฉีกรัฐธรรมนูญเพื่อเขียนใหม่ทั้งฉบับนี้ เพื่อไทยและพรรคประชาชน “ปิดทาง” ไม่ให้สว.เข้าไปมีสิทธิ-มีเสียงใดๆ ทั้งสิ้น
ฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านรวมหัว “ก่อกบฎรัฐสภา” ปล้นอำนาจสว.เบ็ดเสร็จ ประมาณนั้น
หมวดเพิ่มเติม ๑๕/๑ในรัฐธรรมนูญที่เสนอร่างเข้ามา ฉบับเพื่อไทย ยังกระมิด-กระเมี้ยน การเขียนฉบับใหม่บอกไม่แตะหมวด ๑ หมวด ๒ พระมหากษัตริย์
นี่เป็นการเปิด “ช่องลอด” ตามประสาการเมืองเรื่องเล่ห์
อย่าลืมว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ….
มาตรา ๑๕๖(๑๕)บอกไว้เลย ให้ทำในที่ประชุมร่วมรัฐสภา
ฉะนั้น ตั้งสสร.เขียนใหม่นั้น มันขัดมาตรา ๑๕๖(๑๕)อยู่แล้ว
สมมติตั้งสสร.เขียนใหม่ทั้งฉบับได้ การยกเว้นหมวด ๑ หมวด ๒ โดยคงไว้ จะเรียกว่า “เขียนใหม่ทั้งฉบับ” ได้อย่างไร?
มันเป็นการ “ขัดกันเอง” อยู่ในตัวเห็นชัด
เพราะถ้าคงไว้แม้หนึ่งมาตรา ก็ไม่ถือว่าร่างใหม่ทั้งฉบับแล้ว เป็นแค่การ “แก้ไขเพิ่มเติม” ซึ่งต้องทำโดย “รัฐสภา” เท่านั้น ไม่ใช่ สสร.
รายละเอียด “เปิดประตู” ไปสู่การ “ฆ่าทิ้ง” รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ มีอีกมาก เอามาพูดก็รกสมองเปล่าๆ
ฉะนั้น ว่ากันไปทีละเปลาะ เปลาะแรกที่ต้องดู ในขั้นรับหลักการ ๑๓-๑๔ กุมภา.นี้
ว่าที่ประชุมรัฐสภา สว.จะโหวตรับหรือไม่ ถ้ามีเสียง สว.ไม่ถึง ๖๗ เสียงโหวตรับ
ทั้ง ๒ ร่าง ก็ตกไป เพื่อไทย+ประชาชน ก็…ชักแหงกๆ!
การเหี้ยนกระหือรือแก้เพื่อล้มรัฐธรรมนูญของเพื่อไทย+พรรคประชาชน ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมือนแก้ผ้ายืนกลางแดด
เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ประเด็นกเป็นอุปสรรคการเข้าสู่อำนาจเพื่อสถาปนา “อำนาจเบ็ดเสร็จ” ที่มีเป้าหมายซ่อนเร้นของคนทั้ง ๒ พรรค
ประเด็นที่สอง ตัวการทั้ง ๒ พรรค มีชนักกฎหมายปักคาหลัง ทั้งทางกติกาการเมืองและทางกฎหมายอาญา เป็นบุคคลต้องห้ามในตำแหน่งทางการเมือง
การล้างโทษ-ลบเงื่อนไขจะเกิดได้….
ก็ต้องใช้วิธี “กบฎทางรัฐสถา” ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เหมือน “มัดตราสัง” นี้ ทิ้งเท่านั้น!
เขาหมายมั่น ต้องแก้-เขียนใหม่ให้เสร็จภายใน ๖ เดือนหรือไม่เกิน ๑ ปี เพื่อให้ทันเลือกตั้งทั่วไป ปี ๒๕๗๐
ทั้งที่ “พรบ.ประชามติ” ที่ต้องทำตามมาตรา ๒๕๖(๘)ยังถูกแขวนไว้ ๖ เดือน เพราะถูกสว.ตีตก!
ประเด็น ต้องทำประชามติ ๒ ครั้ง หรือ ๓ ครั้ง ก็ยังมีปัญหา
ตามนัยที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจนัยในประเด็นนี้ไว้ ด้วยคำว่า
“หาก” รัฐสภาต้องการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอํานาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อน ว่า
ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่?
ซึ่งคนละเงื่อนไขกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๕๖(๘)ที่ใช้คำว่า…ถ้าผลการออกเสียงประชามติ “เห็นชอบด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม”
สิ่งที่ต้องแยกแยะให้ชัด คือ
คำว่า “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” กับคำว่า “ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม” มันคนละเรื่อง-คนละขั้นตอนกัน
ฉะนั้น จะตีขลุมเป็น “ทำประชามติ” รวบขั้นตอนเดียวกันไปเลยว่า ๒ ครั้ง ไม่น่าใช่!
แต่ทั้งหมดนี้ ผมอยากให้ดูไปทีละขั้นตอนดีกว่า ไม่งั้น..งง จากสนุก จะกลายเป็นสันสน-ปวดกบาล พาลไม่สนใจไปเลย
ฉะนั้น เอาเป็นว่า ๑๓-๑๔ กุมภา.ดูขั้นตอนโหวตรับขั้นหลักการนี้ก่อน ว่า
๒ ร่างสู่การ “เปลี่ยนชาติ-แปลงประเทศ” ของเพื่อไทย+ประชาชน จะผ่านด่าน “สว.สีน้ำเงิน” นี้ไปได้หรือไม่?
ถ้าผ่านได้ “สึนามิ” ภาคประชาชน “ถล่มแน่!”
เปลว สีเงิน
๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
![](https://plewseengern.com/wp-content/uploads/2024/09/plew-300x245.jpg)