5 กุมภาพันธ์ 2568 ณ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2, นายวรวิทย์ พิมพ์นิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, พล.ต.ต.ศักดิ์ชาย สาดมะเริง ผบก.ภ.จว.นครพนม, พ.ต.อ.คณิต กลิ่นศรีสุข รอง ผบก.ตชด.ภาค 2, พ.อ.ศิวดล ยาคล้าย ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 (ร.3) กกล.สุรศักดิ์มนตรี, นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน, นายเจนรบ ชัยวิวัฒมงคล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนปราบปราม ด่านศุลกากร นครพนม, พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด.23, พ.ต.อ.แสวง คนคล่อง ผกก.สภ.ท่าอุเทน ,พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พฐ.นพ., พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 , พร้อมด้วย พ.ต.ท.จิรวัฒน์ รางสาตร์ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 และชุดปราบปรามยาเสพติดฯ แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 985 มัด รวมยาบ้าประมาณ 1,970,000 เม็ด
ตามนโยบายการป้องกัน สกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน “Seal Stop Safe” ของรัฐบาล และนโยบายเน้นหนักด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผบ.ตร.,พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด.,พล.ต.ต.กิติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2
เมื่อวันที่ 4 ก.พ.68 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ร้อย ตชด. 236 ได้รับประสานจาก จนท.การข่าวทหาร และสายลับ (ปกปิดนาม) ว่าจะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติดข้ามสะพานมิตรภาพไทย- ลาวที่ 3 โดยการใช้รถบรรทุกหินปูนทราย โดยจะนำยาบ้าจำนวนมากมาส่งให้แก่กลุ่มขบวนการ ฝั่งไทย และจะนำยามาพักเก็บไว้ยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านยางนกเหาะ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ประชุมวางแผนในการสืบสวนติดตามพฤติกรรมกลุ่มขบวนการดังกล่าว
จนกระทั่งวันที่ 4 ก.พ.68 เวลาประมาณ 18.35 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเห็นรถพ่วง 18 ล้อ เลี้ยวเข้ามายังซอยบริเวณของรีสอร์ท จากนั้นมี นายอุดม (ทราบชื่อภายหลัง) ซึ่งอยู่ในรีสอร์ท ได้ใส่ถุงมือเดินเข้าไปยังบริเวณช่องเก็บสัมภาระใต้พ่วง และมีวัตถุต้องสงสัยเป็นกระสอบสีดำหล่นลงพื้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบผู้ขับรถพ่วงเป็นชาวลาว ชื่อนายจอร์นนี ส่วน นายอุดม มีอาการตกใจอย่างชัดเจน และมีท่าทีจะหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวไว้ และตรวจค้นพบกระสอบห่อด้วยพลาสติกสีดำจำนวน 5 กระสอบ จากการตรวจสอบ พบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 985 มัด ประมาณ 1,970,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมบุคคลทั้งสอง พร้อมทั้งแจ้ง ขอกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดกระแทกกระจายในกลุ่มประชาชน กระทบต่อความมั่นคงของรัฐ” เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุมทั้งสองพร้อมของกลาง ทั้งหมดมาดำเนินการที่ กองร้อย ตชด.236 เพื่อทำบันทึกจับกุมขยายผลและจะได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาล ได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน “Seal Stop Safe” ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ที่มีนโยบายเร่งด่วนในการป้องกันปราบปรามการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าประเทศตามแนวชายแดนทั่วประเทศ โดยกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ก็ได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง เพื่อสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดที่เข้ามาทางชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงและได้มีการเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติ มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลการจับกุมก็เป็นที่น่าพอใจ สำหรับการจับกุมและประสานการปฏิบัติครั้งนี้ ก็เป็นการร่วมบูรณาการกันของทุกภาคส่วน ในการแลกเปลี่ยนข่าวสาร และร่วมกันวางแผนการจนสามารถจับกุมและตรวจยึดยาเสพติด จำนวนกว่า 2 ล้านเม็ด ซึ่งจะเห็นได้ว่ารูปแบบการขนส่งของผู้ค้ายานั้น ได้มีการซุกซ่อน และปรับเปลี่ยนไป เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้ทางตำรวจตระเวนชายแดน ก็จะทำงานกันอย่างหนัก เข้มแข็ง และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อสกัดกั้น และป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ายาเสพติด สู่พื้นที่ตอนในประเทศต่อไป
