เปลว สีเงิน
“บ่วงเวร-บ่วงกรรม” บีบกระชับเข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ถ้าผมเป็นทักษิณนะ
ไม่เพียงธาตุไฟแตกซ่าน เครียด กระสับกระส่าย ถึงขั้นต้องยกเท้าขึ้นก่ายหน้าผากเท่านั้น
หลับตา-ลืมตา จะเห็นแต่ภาพ “คุณยายเนื่อม ชำนาญชาติศักดา” กำลังยกโฉนดที่ดิน ๙๒๔ ไร่ ที่ปทุมธานี “ขึ้นจบเหนือหัว”
เปล่งวาจา “ถวายเป็นที่ธรณีสงฆ์” ก่อนมรณกรรม
แต่ อนิจจัง..อนิจจา ที่ดินถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา กลับกลายเป็น “สนามกอล์ฟอัลไพน์” ของครอบครัวทักษิณไปซะนี่!
ตอนนี้ “กรรม” กำลังทำหน้าที่จัดสรร เพื่อนำแผ่นดินผืนนั้นกลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนที่จะมีใครถูก “ธรณีสูบ”
นั่นก็กระทงหนึ่งของกรรมที่ผู้กระทำจะถูก “กรรมชำระ”
แต่อีกกระทง ประหนึ่ง “เด็ดดอกไม้แต่สะเทือนถึงดวงดาว”
“ดอกไม้” ดอกนี้ คือ ดอกทักษิณ
“ดวงดาว” ดวงนี้ คือ ดวงแพทย์รพ.ตำรวจ และแพทย์รพ.ราชทัณฑ์!
นักโทษชายทักษิณ “ป่วยสาหัสขั้นอันตรายถึงชีวิต” จริงหรือไม่ เรือนจำถึงต้องส่งตัวด่วนไปนอนชั้น ๑๔ รพ.ตำรวจ
และแพทย์รพ.ตำรวจได้ตรวจรักษากันอย่างไร ๖ เดือนก็ยังไม่หาย แต่พอได้พักโทษเท่านั้นแหละ
เหมือนปล่อยช้างคืนป่า ปล่อยหมาคืนทุ่ง “ทุกโรค” หายเกลี้ยง เส้นเอ็นที่ว่าเปื่อยยุ่ย ต่อติด-ฟิตปั๋ง-ปราดเปรียว เป็นที่มหัศจรรย์ยิ่ง!
ร้อนถึง “แพทยสภา” ต้องตั้ง “อนุกรรมการสอบสวน” ค้นหาความจริงว่า นักโทษรายนี้ป่วยจริงหรือแสร้งป่วยหนีนอนคุก?
ต้องเข้าใจให้ชัดนะครับ “คณะอนุกรรมการ” ที่มี “ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี” เป็นประธานสอบนั้น
เขาสอบแพทย์ที่รักษา ว่าตรวจ-รักษา-วินิจฉัยโรค ที่ว่าทักษิณป่วยสาหัสปางตาย ๖ เดือนยังรักษาไม่หายนั้น จริง-ไม่จริง อย่างใดบ้าง?
ส่วนที่ทักษิณ “ป่วยทิพย์” หรือ “ป่วยการเมืองนั้น” ไม่ได้อยู่ในข่ายอำนาจแพทยสภาที่จะตรวจสอบ
โน่น…เป็นหน้าที่ป.ป.ช.ซึ่งตอนนี้ “ทั้งคณะ” กำลังทำหน้าที่ “สุวานเลขา” ขะมักเขม้นตรวจสอบบัญชีกรรมอยู่
ดูท่า เรื่องนี้ ไม่ต้องเหงือกแห้งรอถึง ๒-๓ ปีหรอก
ป.ป.ช.จะสร้างประวัติศาสตร์ ภายใน “เมษา-พฤษา.” นี้ น่าชี้ได้ว่า ข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่มีมูล!
ประมินแล้ว ผมว่าผลสอบทางแพทยสภากับทางป.ป.ช.น่าจะออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
เห็นได้จากที่ “ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี” ให้ความกระจ่างทางผลสอบที่คืบหน้า เมื่อ ๒๐ มกรา.นี้ โดยท่านบอกว่า…..
ทาง “รพ.ตำรวจ” ส่งเอกสารตามที่ขอไปมาให้ไม่ถึง ๑๐๐ หน้า แต่ก็ถือว่าได้มาพอสมควร สามารถดำเนินการต่อไปได้
ส่วนที่เหลือ ก็จะขอเพิ่มตามกติกากฎหมาย และก็จะเชิญบุคคลซัก ๒ คน มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
คือให้มายืนยันเอกสารต่างๆ ตามที่คณะกรรมการสอบบอกว่ามีมูล ส่วน ๒ ท่านนั้นเป็นใคร ท่านไม่บอก เพียงแต่บอกว่า
“คิดว่าหากผู้ที่ได้รับการเชิญมาให้ข้อมูลแล้วยินดีให้ความร่วมมือ มาตามที่เราขอไป ก็เป็นไปได้ เดือนมีนา.ไม่รู้ว่าจะเสร็จหรือไม่ แต่เราอยากดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว
หากเขามาตามเวลาที่เราวางไว้ ได้ข้อมูล ก็คงสรุปกันได้ แต่หากไม่ได้ มีนา.ก็ต้องเป็นเดือนเมษา.”
ที่ต้องถึงเดือนเมษา.อาจารย์หมอบอกว่า
“ต้องเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภาก่อน แพทยสภาเพิ่งจะเลือกกรรมการชุดใหม่ ยังโชคดีที่ผมได้กลับเข้าไปอีกครั้ง ก็จะมาทำต่อจากนี้”
สำหรับเอกสารที่ขอไป คุณหมอเพียงแย้มๆ
“มีเวชระเบียน มีเอกสารต่างๆ เอกสารเอกซเรย์ เอกสารที่ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ ก็ขอไปเยอะ แต่ไม่ถึงร้อยหน้า บางอย่างได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ยืนยันซึ่งกันและกัน แต่ก็เพียงพอที่จะยืนยัน”
ในรอยต่อเปลี่ยนผ่าน “คณะกรรมการแพทยสภาชุดใหม่ ๓๕ ท่าน” ที่เพิ่งเลือกตั้งเสร็จกันไปหมาดๆ จะมีผลกระทบต่อการทำงานของ “คณะกรรมการสอบสวน” ชุดนี้หรือไม่?
คุณหมออมรบอกว่า…..
“ชื่ออนุกรรมการยังอยู่ แต่หลังจากกรรมการแพทยสภาชุดใหม่เรียบร้อย จะประชุมกันที่ ๖ กุมภา.
ก็อยู่ที่ว่า กรรมการชุดใหม่จะปรับเปลี่ยนตัวอนุกรรมการอย่างไรหรือไม่
ส่วน “อนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจฯ” ก็จะนำรายชื่อเข้าคณะกรรมการแพทยสภา เพื่อพิจารณายืนยันว่า จะใช้ชุดเดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเนื้อหา ขั้นตอนที่อนุฯทำมานั้นยังเหมือนเดิม”
สำหรับแพทยสภาชุดใหม่ที่เพิ่งโหวตเลือกกันไป เรียงคะแนนจากมากสุดลงไปถึงอันดับที่ ๓๕ มาเป็นกรรมการแพทยสภา อันดับ ๑-๑๐ มีดังนี้
-ศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา
-ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.อำนาจ กุสลานันท์
-นพ.อิทธพร คณะเจริญ
-ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี
-นพ. นิธิพัฒน์ เจียรกุล
-ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์
-พญ.ชัญวลี ศรีสุโข
-ศาสตราจารย์ นิจศรี ชาญณรงค์
-รศ.พญ.ประสพศรี อึ้งถาวร
-ศาสตราจารย์ นพ.กัมมันต์ พันธุมจินดา
คุณหมออมร ประธานอนุฯสอบเรื่องนี้ ได้รับโหวตให้เป็นกรรมการแพทยสภา ด้วยคะแนนมาเป็นอันดับ ๓
“แพทยสภา” จะมีรัฐมนตรีสาธารณสุขเป็น “นายกสภาพิเศษแพทยสภา”
คือในการประชุมแพทยสภา “รัฐมนตรีสาธารณสุข” จะนั่งหัวโต๊ะ
ในสมัยนี้ก็ “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” ทองแดงขวา-ซ้ายของทักษิณ ซึ่งคู่กับนายสุริยะจะนั่งในตำแหน่งนี้
และชี้ขาดผลสอบว่าแพทย์ “รักษาจริง-รักษาปลอม” กับนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ที่กล่าวหากันว่า “ป่วยหนีคุก”!
ผมถึงว่า…..
ในโลกนี้ ใครจะทำหน้าที่จัดสรรได้ “แสบสัน” ลงตัวเป๊ะๆ ยิ่งกว่าจับวาง ไม่มีอะไรเกิน “กรรม”
ชะตากรรมทักษิณ ไหนจะต้องตกอยู่ในมือลูกสาวที่มีอำนาจนายกฯ ไหนจะต้องตกอยู่ในมือลูกน้องที่มีอำนาจในบทบาท “นายกสภาพิเศษแพทยสภา”
“ทักษิณ” จะต้องตักษัยด้วยน้ำมือลูกสาวหรือด้วยน้ำมือลูกน้องหรือไม่?
แหม..มัน “เร้าใจ” ยิ่งกว่าละครโทรทัศน์เรื่อง “ไฟสุมทรวง” ซะอีก!
นักข่าวถามคุณหมออมร “รัฐมนตรีสาธารณสุขเป็น “นายกสภาพิเศษแพทยสภา” กังวลอะไรหรือไม่?”
“ประธานอนุสอบสอบสวน” ตอบชิลๆ
“ตามขั้นตอน “ถ้ามีมูล” ก็ต้องไปผ่านท่าน หากไม่มีมูล เรื่องก็จบ แต่ผมคิดว่า “นายสมศักดิ์ ท่านไม่พลิกอะไร”
และที่ผ่านๆมา รมว.คนก่อนๆ ที่อยู่ในฐานะ “นายกสภาพิเศษฯ” ก็ไม่เคยทำอะไรเช่นนี้ มติเป็นอย่างไร ก็เป็นไปตามนั้นทั้งหมด”
แล้วคุณหมออมรก็ฟันขาด ๒ ท่อนว่า…
“กรณีนี้ แม้ถูกมองว่าเป็น “เคสพิเศษ” ผมถือว่าเป็นเคสที่เราต้องทำงานอย่างรอบคอบ รัดกุม ตรวจสอบได้ แต่ไม่ได้ให้แทรกแซง”
“ยืนยันว่า อนุกรรมการฯ มีความเป็นกลาง การประชุมทุกอย่างเป็นความลับ จึงไม่บอกมาก เพื่อป้องกันการแทรกแซง
ทำให้ตอนนี้ ไม่มีการแทรกแซงจากฝ่ายใด ทุกคนให้ความเป็นอิสระ “คณะอนุฯ” เต็มที่ เราไม่อยู่ฝ่ายใด เราดูแต่เอกสาร ดูแต่ข้อมูล เราต้องเป็นกลาง”
“ตามกฎหมาย “นายกสภาพิเศษฯ” สามารถพลิกมติของกรรมการแพทยสภาได้หรือไม่?” นักข่าวถาม
อาจารย์หมอบอกว่า “ตามเกณฑ์เขียนไว้ อ่านเสร็จแล้ว อาจจะบอกว่า “ไม่เห็นด้วย” แล้วส่งกลับมาให้กรรมการแพทยสภาพิจารณาใหม่ ….
ก็ต้องมาดูว่า ที่ส่งกลับมานั้น มีเหตุผลหรือไม่?
ถ้าฟังขึ้น ก็พิจารณาใหม่ แต่หากเหตุผลสู้เราไม่ได้ เราก็ยืนยันมติของเราไป”
แซ่บมาก…คุณหมอ และท่านตบบั้นท้ายเบาๆ อีกว่า
“ผมขอย้ำ เรื่องการรักษาคนไข้ ถือเป็นความลับที่ห้ามเปิดเผย แต่กรณีที่หน่วยงานเกี่ยวข้อง อย่างเช่น แพทยสภาเรียกเอกสารไปนั้น
หน่วยงานที่ได้รับการร้องขอ จะต้องส่งมาให้ เพราะเราถือว่า เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ไม่แน่ว่า เมื่อพิจารณาแล้ว คุณอาจจะทำถูกต้องก็ได้ ส่วนถ้าไม่ส่งเอกสารมาให้ อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความผิดหรือไม่ ต้องไปดูเหตุผลว่า เป็นเพราะอะไร
เพราะกฎหมายละเอียด แต่ไม่เป็นไร ที่ได้รับมาตอนนี้ เราน่าจะดำเนินการไปได้ หากปลอมเวชระเบียน ถือว่าโทษหนัก”
คือบทลงโทษของแพทยสภานั้น มีตั้งแต่ ตักเตือน, ภาคทัณฑ์, เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
นี่แหละครับ…..
ที่ชอบพูดกันว่า “หมอไม่รับเย็บ” เป็นยังไง ก็เป็นอย่างที่ “ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี” ประธานอนุสอบฯ “ตอบจามเศียร”
หนาวบ้างมั้ยจ๊ะ..ทักษิณ?
ที่ศาลฎีกา “นายชาญชัย และทนายนกเขา” ก็ไปยื่นร้องไว้ ๒๗ มกรา.นี้ก็รู้เรื่อง ที่ป.ป.ช.ก็เคี่ยวข้นกำลังเข้าด้าย-เข้าเข็ม
และที่แพทยสภา เห็นรายชื่อ ๓๕ คณะกรรมการชุดใหม่ ทั้งฟัง “ประธานอนุฯ สอบ” ตอบผ่ากะโหลก
มันเหมือนมีกังหันไฟนรกหมุนอยู่บนหัวบ้างมั้ยจ๊ะ?
“กาสิโน-พนันออนไลน์” จัญไรครบวงจร
“เส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย” กลับคืนคุกครบวงจร
อย่างไหนเอ่ย…จะมาถึงก่อนกัน!?
เปลว สีเงิน
๒๔ มกราคม ๒๕๖๘