Sea (ประเทศไทย) ผนึกดิจิทัลแพลตฟอร์มในเครือ มอบเงินสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ ซื้อเครื่องมือแพทย์-อุปกรณ์ป้องกัน สู้วิกฤต COVID-19

นางสาวมณีรัตน์ อนุโลมสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sea (ประเทศไทย) เป็นตัวแทน Sea (ประเทศไทย) และบริษัทในเครือ ได้แก่ การีนา (ประเทศไทย) ช้อปปี้ (ประเทศไทย) และซีมันนี่ (ประเทศไทย) ร่วมมอบเงินสนับสนุนจำนวน ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อนำไปใช้ในการจัดหาเครื่องมือทางการแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันเชื้อสำหรับหน่วยแพทย์ โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา   คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และประธานกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นผู้รับมอบ ณ สำนักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อเร็ว ๆ นี้

Sea (ประเทศไทย) ในฐานะกลุ่มบริษัทที่ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตแพลตฟอร์มที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทย จะมุ่งสนับสนุนภาค SMEs และผู้บริโภคให้สามารถดำเนินธุรกิจและชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างจริงจัง

สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือทีมแพทย์และผู้ป่วย COVID-19 สามารถร่วมสมทบทุนโครงการป้องกันและช่วยเหลือสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ผ่านช้อปปี้ได้ ตั้งแต่วันนี้  31 พฤษภาคมนี้ (ใบเสร็จสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้)      

Written By
More from pp
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ผู้นำนวัตกรรมพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตสู่ชีวิตปัจจุบัน
ปัจจุบันโลกของเรากำลังก้าวสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากผลกระทบของภาวะเรือนกระจกอันเป็นผลมาจากการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง โดยก้าวสำคัญในการแก้ไขปัญหาได้แก่ “ความตกลงปารีส” ในการประชุมสมัชชาภาคีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (COP21) ซึ่งเป็นกรอบการทำงานระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายแก้ไขภาวะโลกร้อน ความตกลงปารีสซึ่งมีผลบังคับใช้ในปี 2559 กำหนดเป้าหมายระยะยาวในการจำกัดการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยให้ต่ำกว่า...
Read More
0 replies on “Sea (ประเทศไทย) ผนึกดิจิทัลแพลตฟอร์มในเครือ มอบเงินสนับสนุนมูลนิธิรามาธิบดีฯ ซื้อเครื่องมือแพทย์-อุปกรณ์ป้องกัน สู้วิกฤต COVID-19”