แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำภารกิจ “ทีมประเทศไทย” เสมือนทัพหน้าของประเทศ ใช้ยุทธศาสตร์ “การทูตเชิงรุก” เพื่อแสวงหาโอกาสและศักยภาพในการชวนเชิญมาลงทุนในไทย พร้อมยืนยัน ไทยมีเสถียรภาพทางการเมืองสามารถสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั่วโลกได้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมสรุปผลการเยือนสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงต่างประเทศเอกอัครราชทูตประจำกรุงวอชิงตันดีซีและกงสุลใหญ่นครลอสแอนเจลิส และคณะทำงาน ทีมไทยแลนด์ โดยที่ประชุมสรุปผลภาพรวมภารกิจ เป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ถือว่าได้พบปะชุมชนคนไทย และได้มอบนโยบายกับทีมไทยแลนด์ อีกทั้งยังได้หารือกับภาคเอกชนสหรัฐในด้านอิเล็กทรอนิกส์และภาพยนตร์ ซึ่งต่างชื่นชมผลงานรัฐบาลที่ได้มอบสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้แก่นักลงทุนเพื่อจูงใจการลงทุนและการถ่ายทำภาพยนตร์ ในประเทศไทย
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าในวันแรกได้พบปะชุมชนชาวไทยในนครลอสแอนเจลิส ซึ่งมีคนจำนวนมากมาให้กำลังใจ พบปะพูดคุยกับพี่น้องคนไทย รวมทั้งได้มีโอกาสรับชมการแสดงของเยาวชนไทย ทั้งรำไทย โชว์ศิลปะมวยไทยจากเยาวชนไทยที่อยู่ในสหรัฐฯ ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ที่เมืองไทย
นอกจากนี้ ยังได้หารือกับเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ในภูมิภาคอเมริกา อาทิแคนาดา ชิลี เม็กซิโกฯโดยได้มอบนโยบายรัฐบาลรวมถึงรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากทีมไทยแลนด์ ซึ่งได้เน้นย้ำกับคณะเอกอัครราชทูตให้มี “การทูตเชิงรุก” มากยิ่งขึ้น ซึ่งทีมไทยแลนด์เปรียบเสมือน “ทัพหน้าของประเทศไทย” ในต่างประเทศที่จะช่วยแสวงหาโอกาสและศักยภาพในการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงถือโอกาสนี้ ให้ช่วยกันเชิญชวนคนไทยในต่างประเทศที่มีศักยภาพกลับมาทำงานเพื่อพัฒนาประเทศไทยด้วย โดยรัฐบาลกำลังเร่งพัฒนาเพื่อสร้างโอกาสให้กับประเทศไทย
.
ส่วนในวันที่สอง ได้หารือกับผู้บริหารภาคเอกชนสหรัฐ ด้านอิเล็กทรอนิกส์และฮาร์ดไดรฟ์ คือ บริษัท WD หรือเวสเทิร์นดิจิตอล ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่ประเทศไทยด้วย ในการหารือได้มีการผลักดันนโยบายพลังงานสะอาด ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือในเรื่องนี้เพื่อสร้างการจ้างงานให้คนไทยมากยิ่งขึ้น
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยังได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองเพื่อสร้างเครือข่าย (networking reception) กับนายชาร์ลส์ เอช. ริฟกิน (Charles H. Rivkin) ประธานและประธานกรรมการบริหาร สมาคมผู้สร้างภาพยนตร์แห่งสหรัฐฯ (Motion Picture Association: MPA) พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงจากบริษัท ผู้ผลิต ภาพยนตร์ชั้นนําของสหรัฐฯ ซึ่งได้เน้นย้ำถึงนโยบายรัฐบาลที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ และการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้บริษัทด้านภาพยนตร์ของสหรัฐฯ ทราบว่าประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ในรูปแบบของการคืนเงินสูงสุดที่อัตราร้อยละ 30 และไม่กำหนดเพดานคืนเงินสูงสุดต่อโครงการ ซึ่งซีอีโอจากบริษัทต่างๆ ดีใจ และพร้อมส่งต่อข้อมูลสิทธิประโยชน์นี้ให้บริษัทในเครือได้รับทราบ ซึ่งจะเพิ่มการจ้างงานและโอกาสให้กับคนไทยในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น“
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่สหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีออกเดินทางจาก นครลอสแอนเจลิสเมื่อเวลา 23:30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อเข้าร่วมประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ เอเชียแปซิฟิก ”เอเปค” กรุงลิมา เปรู ซึ่งจะได้พบกับผู้นำเขตเศรษฐกิจระดับโลกอาทิ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพื่อกระชับความร่วมมือด้านต่างๆ รวมถึงพบปะกับภาคเอกชนสำคัญ ทั้ง Google Microsoft และTikTok ซึ่งจะขอใช้โอกาสและเวทีนี้ ยืนยันว่า “ประเทศไทยพร้อมแล้วสำหรับการลงทุนและการเมืองมีเสถียรภาพ เพื่อให้เกิดการดึงดูดการลงทุนมาสู่ประเทศไทย”