ผักกาดหอม
หมูไม่กลัวน้ำร้อน…
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อดีตนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ไว้หลายเรื่องครับ
พูดแต่ละเรื่องเป็นสายล่อฟ้าทั้งนั้น
เรื่องไปนอนรักษาตัวเพราะป่วยวิกฤตห่างหมอไม่ได้ ที่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ ป่วยทิพย์ คำตอบจาก “ทักษิณ” คือ…
“….มันมี ๑๔ ๑๕ ๑๖ และ ๑๗ ไม่มีอะไรหรอก จะหาเรื่องกันก็หาเรื่องกันเรื่อยๆ ไม่เป็นไร เพราะคนจะหาเรื่อง ผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร…”
ไม่ขำครับ!
เอาให้ชัด ใครหาเรื่อง
หรือ “ทักษิณ” หาเรื่องใส่ตัว
ตรรกะนรกมาก
“ทักษิณ” ยืนยันว่าตัวเองป่วยจริง
กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ รวมไปถึงรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย พูดเป็นเสียงเดียวกัน “ทักษิณ” ป่วยจริงๆ
นึกไม่ออกว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้ “ทักษิณ” และโรงพยาบาลตำรวจ ต้องเก็บเวชระเบียนอย่างมิดชิด ไม่ยอมให้ใครได้ดูว่า “ทักษิณ” ป่วยจริง
การที่ “ทักษิณ” บอกว่า “ไม่รู้จะพูดอย่างไร” ก็ไม่เห็นต้องพูดอะไร นอกจากยืนยันว่าป่วยจริง กางเวชระเบียนให้เห็นชัดๆ มันก็จบแล้ว
ป่วยก็คือป่วย จะได้หมดข้อสงสัย
ง่ายๆ แค่นี้ แต่ก็เลี่ยงที่จะทำ
ทำไม?
มันจึงไปเพิ่มข้อสงสัยว่า ไม่ได้ป่วยจริง
“ทักษิณ” ก็รู้ครับ หากป่วยจริง วิธีรับมือกับข้อสงสัยเรื่อง ป่วยทิพย์ ต้องทำอย่างไร
แต่ “ทักษิณ” ไม่ทำ
และผลของการไม่ทำ ก็นำมาซึ่งการตรวจสอบ
ไม่ต้องการตรวจสอบ “ทักษิณ” เท่าไหร่หรอกครับ เพราะอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แต่เป็นการตรวจสอบกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ว่าปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่
ช่วยเหลือใครไม่ให้ติดคุกแม้แต่วันเดียวหรือเปล่า
เพราะหากองค์กรเหล่านี้ ไม่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา กฎหมายจะไม่มีความหมาย นักโทษได้รับสิทธิไม่เท่ากัน
กระบวนการยุติธรรมปลายน้ำพัง!
นักข่าวถามเรื่องเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ “เศรษฐา ทวีสิน” ถูกศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน
“ไม่ใช่เลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย”
นี่คือคำตอบของ “ทักษิณ”
ถึงเวลาต้องไต่สวนในศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าไปกินมาม่า
“ทักษิณ” ยังจำเหตุผลที่ได้รับพระราชทานอภัยลดโทษได้หรือเปล่า ว่าเคยเขียนฎีกาส่งไปอย่างไร
“…เมื่อถูกดำเนินคดีและศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกดังกล่าวด้วยความเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา ขณะนี้อายุมาก มีปัญหาสุขภาพเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาพยาบาลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ…”
“…ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว จึงพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร เหลือโทษจำคุกต่อไป อีก ๑ ปี ตามกำหนดโทษตามคำพิพากษา เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ สังคมและประชาชน สืบไป…”
เรื่องสำนึกผิด พูดกันไปเยอะแล้ว
หลังได้รับพระราชทานอภัยลดโทษ “ทักษิณ” ไม่เคยสำนึกว่าตัวเองก่อความผิด โกงบ้านกินเมือง แม้แต่ครั้งเดียว
มิหนำซ้ำยังอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง จากฝ่ายตรงข้าม
วันนี้จึงต้องถาม “ทักษิณ” ว่า ได้ใช้ประสบการณ์ช่วยเหลือและทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ แล้วหรือยัง
“ทักษิณ” บอกต้องทำกาสิโน
รัฐบาลก็รับลูกจะผุดเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
“ทักษิณ” บอกว่าต้องขุดทรัพยากรใต้ทะเลมาใช้
รัฐบาลทำตามสั่ง กอดเอ็มโอยู ๔๔ เร่งเจรจาผลประโยชน์ในพื้นที่ที่อ้างว่าทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา ค่อยไปปักปันเขตแดนกันในภายหลัง
ประเทศได้อะไร?
รัฐบาลแพทองธาร บริหารประเทศมาไม่ถึง ๓ เดือน กลับพบจุดตายเพียบ!
ข้อใหญ่ใจความก็อยู่ที่ “ทักษิณริ-อุ๊งอิ๊งทำ” ลิ่วล้อเชียร์
นิสัย “ทักษิณ” ไม่เคยเปลี่ยน ยังคงดูถูกคนที่คิดไม่เหมือนตัวเอง
กรณี เอ็มโอยู ๔๔ “ทักษิณ” มองคนทักท้วงว่าโง่หมด
“…เอ็มโอยู ๔๔ คือบันทึกข้อตกลงที่จะคุยกันในเรื่องที่ยังไม่ได้ตกลงกัน ยังไม่เรียกว่าเป็นข้อตกลง ที่ไม่ต้องเข้าสภาฯ เพราะเป็นเพียงบันทึกข้อตกลง ที่จะคุยกันในเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายไม่ตกลงกัน ว่าจะปรับตัวเข้าหากันได้อย่างไร เป็นแนวที่จะคุยกันไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย ซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่ ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส ในช่วงที่ประเทศกัมพูชาเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจไม่มีอะไรเลย บางคนไม่ทราบว่าเอ็มโอยู ๔๔ คืออะไรแต่ขอตีไว้ก่อน….”
มีใครที่คัดค้านไม่ยกเอาเรื่อง กฎหมาย สนธิสัญญา มาพูดบ้างครับ
เขาชี้ให้เห็นทะลุปรุโปร่งหมดว่า กัมพูชาขีดเส้นมั่ว แต่ “ทักษิณ” ไปเอาเส้นที่กัมพูชาตีมาอยู่ใน เอ็มโอยู ๔๔
แม้จะบอกว่าไทยไม่เคยยอมรับการตีเส้นของกัมพูชา แต่เอ็มโอยู ๔๔ ที่รัฐบาลทักษิณไปทำไว้ ก็ถูกใช้เป็นสารตั้งต้นในการเจรจา
แล้วตรงไหนคือ “ตีไว้ก่อน”
รัฐบาลระบอบทักษิณ มีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันต่างหาก ประชาชนถึงต้องลงมือตรวจสอบกันเอง เพราะเกรงประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก
พี่ชายหนี
น้องสาวหนี
คนเขากลัวไงครับว่าวันหนึ่งลูกสาวอาจจะหนีอีก