ผักกาดหอม
พ่อนายกฯ พูดไปหมดแล้ว
แล้วนายกฯ อุ๊งอิ๊งจะพูดอะไรหลังจากนี้
เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม ที่ผ่านมา มีงานช้าง ทางเนชั่นกรุ๊ปเขาจัดดินเนอร์ทอล์ก หัวข้อ Vision For Thailand 2024 มี “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นคนทอล์ก ที่พารากอนฮอลล์ ชั้น ๕ สยามพารากอน
ส่วนตัวฟังตั้งแต่ต้นจนจบ จะดูวิชันของ “ทักษิณ” หลังห่างหายจากแผ่นดินไทยไป ๑๗ ปี
ฟังไปฟังมาเหมือนรัฐบาลกำลังแถลงนโยบายยังไงก็ไม่รู้
ก็คิดในใจ แล้วจะเหลืออะไรให้นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๑ แถลงนโยบายต่อสภาฯ
ถ้าแถลงแล้วเหมือนก๊อบปี้กันมา นายกฯ อุ๊งอิ๊ง เสียหายนะครับ
ฟังอยู่ร่วมๆ ๒ ชั่วโมงได้ข้อสรุปว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำรัฐบาลลูกสาวอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์หนาหูกันก่อนหน้านี้
มันดูธรรมดาไป
“ทักษิณ” ครอบครองรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ต่างหาก
ครอบครองตั้งแต่เส้นผมยันปลายตีน
“ดีเอ็นเอ” ชัดมากครับ
หนักกว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์
กับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง “ทักษิณ” คือเงาทะมึนที่ยืนค้ำอยู่เบื้องหลัง คอยกำกับ และสั่งการ อย่างใกล้ชิด ชนิดเหลือแค่เข้าส้วมเท่านั้นที่จะยอมห่างสักครู่
ไม่ได้เกินจริงครับ เพราะสิ่งที่ “ทักษิณ” พูดคือสิ่งที่ รัฐบาลต้องนำไปปฏิบัติหลังจากนี้ ตามสโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”
๑๗ ปีผ่านไป “ทักษิณ” ยังคิดเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
พัฒนาเพิ่มมูลค่าโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมอันดีของสังคมไทย
ที่สำคัญ “ทักษิณ” ยังคงมีความคิดเอาแต่ได้เหมือนเดิม
การตอบคำถามเรื่องรัฐบาลข้ามขั้ว คือตัวอย่างของความโลภ ความเอาเปรียบ และสองมาตรฐาน โดยไม่สนหลักการ
แต่…ทักษิณ ไม่ได้พูดอะไรผิดครับ ถูกทุกอย่าง
ไม่ใช่รัฐบาลข้ามขั้ว
แต่ฝั่งไหนรวมเสียงได้มากกว่าฝั่งนั้นก็ตั้งรัฐบาล
เป็นกติกาสากลที่ระบอบรัฐสภาทั่วโลกใช้กัน
แล้วมันผิดตรงไหน?
จำการตั้งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี ๒๕๕๑ ได้หรือเปล่าครับ
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคพลังประชาชน จากคดีทุจริตเลือกตั้ง “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
“มันจบแล้วครับนาย” เกิดการย้ายขั้วของกลุ่มเนวิน-อนุทิน ไปตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์
วันนั้น “ทักษิณ” พูดว่าไง
“นักการเมืองบางกลุ่มหักหลังประชาชน”
ทำไมถึงไม่บอกกับประชาชนว่า ใครรวมเสียงได้มากกว่า ฝั่งนั้นได้สิทธิ์ตั้งรัฐบาล
แล้วหลังจากนั้น “ทักษิณ” เล่นอะไร
อยากได้อำนาจคืนถึงขั้น ปลุกม็อบเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
ประกาศจะมาเดินนำม็อบเอง
สุดท้ายมีทั้งชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐ และคนถูกลูกหลงตายไปกี่ศพ
ตายเพื่อใคร?
วันนั้นทำไมถึงคิดต่างจากวันนี้ราวนรก-สวรรค์
วันนี้ “ทักษิณ” ปากหวานบอกให้คนไทยรักกัน เลิกขัดแย้งกัน ต้องสามัคคีกัน แล้วทำไมปี ๒๕๕๓ ถึงไม่พูดแบบนี้
จะได้ไม่ต้องเผาบ้านเผาเมือง
เพราะตอนนี้ลูกสาวกำลังเป็นนายกฯ จึงไม่อยากให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยมาตอแยจนกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลใช่หรือไม่
วิชัน “ทักษิณ” ที่พูดในคืนวันพฤหัสบดีมีทั้งสิ้น ๑๔ ข้อครับ
บางข้อทำได้ถือว่าดีมาก
เช่น ปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน และธุรกิจ ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม การลงทุนขนาดใหญ่ แต่น่าเสียดายครับ หาวิชันปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในภาพรวมไม่เจอ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด
บางข้อทำแล้วจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกเยอะ เช่น นโยบายบาป อย่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยกระดับเศรษฐกิจใต้ดิน โมเดลให้ต่างชาติเช่าที่ดินต้องปรับเพื่อให้เกิดการลงทุน และแจกดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งยังคงอยู่
รอดูครับว่าในวันแถลงนโยบายต่อสภา นายกฯ อุ๊งอิ๊ง จะนำเสนอนโยบายเหล่านี้หรือไม่
ถ้าใช่ ก็เป็นเครื่องยืนยันว่า รัฐบาลอุ๊งอิ๊งถูกครอบครองโดย “ทักษิณ” อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
คำถามต่อมา…แล้วประเทศไทยปกครองด้วยระบอบการเมืองอะไร
รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลบริหารประเทศ มีทั้งหน้าที่และความรับผิดชอบ
หากรัฐบาลอุ๊งอิ๊งบริหารผิดพลาด เพราะการชักใยของ “ทักษิณ” “อุ๊งอิ๊ง” คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย
แล้ว “ทักษิณ” จะต้องไปรับผิดชอบอะไร
อีกเรื่องไม่กล่าวถึงไม่ได้คือคดี ม.๑๑๒
“ทักษิณ” แก้ตัวเรื่องนี้ดูคล่องแคล่วทีเดียว
“…นักข่าวเกาหลีมาสัมภาษณ์ผม แต่ผมไม่รู้ว่าจะอัดวิดีโอด้วย ก็พูดคุยกันไป ยืนยันว่าผมไม่เคยแตะเรื่องเจ้านาย เพราะคำว่า Cycle หรือวงจร
ผมคิดว่าตำรวจตกภาษาอังกฤษ แต่คำว่าเซ็นเตอร์คือตรงใจกลาง ผมไม่ได้พูดถึงเซ็นเตอร์แต่พูดถึงเซอร์เคิล ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงของการกระชับอำนาจปฏิวัติพอดี
ผมได้ข่าวมาว่าคนที่ทำคดีแทบเป็นบ้า เพราะถูกกดดันและผมรู้ว่าใครกดดัน ซึ่งคนกดดันก็ยังอยู่ เดี๋ยวผมจะไปซักในศาล รวมทั้งมั่นใจว่าเรื่องนี้จะจัดการได้สบายมาก…”
ประการแรกโดยประสบการณ์คนทำสื่อ วิเคราะห์ได้ทันทีว่า การสัมภาษณ์มีการอัดวิดีโอ และตัว “ทักษิณ” ก็รู้ เพราะมุมกล้องอยู่ระดับสายตา การถ่ายทำไม่มีสิ่งของอะไรกีดขวางทั้งสิ้น
ประการถัดมา “ทักษิณ” ให้สัมภาษณ์ภาษาไทย จะมีทับศัพท์เฉพาะ คำว่า Cycle เท่านั้น
และประเด็นหลักไม่ได้อยู่ที่ Cycle เนื่องจาก Cycle เป็นเพียงคำขยายคำพูดก่อนหน้าเท่านั้น
แถมยังขยายให้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
ความโดยรวมทั้งหมด “ทักษิณ” ไม่ได้พูดถึงวงจรการเมือง
แต่เป็นการพูดถึงภาพรวม Palace Circle
“เขา” ในความหมายแรกของ “ทักษิณ” คือใคร
ไม่ใช่องคมนตรี เพราะคำพูดมีท่อนแยก
ไปแก้ตัวที่ศาล เหมือนที่โม้ไว้เถอะครับ
