เปลว สีเงิน
ดีใจด้วยกับท่าน “รองนายกฯ ภูมิธรรม”
ที่จัดการเก็บกวาด “ข้าวโกงทุกเม็ด” ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ประจานนโยบายพรรค “โกงเอามาแบ่งปัน” ให้สำเร็จสิ้นซากไปได้
นับเป็นผลงานฟอกขาวที่สร้างโสมนัสให้ ๒ พี่น้องแห่งตระกูล”ชินวัตร”ยิ่งนัก
มิเสียแรงที่มอบความไว้วางใจให้เป็น “หลี่กงกง” ผู้ทรงอำนาจในรัฐบาลขณะนี้!
เพื่อบันทึกไว้ใน “หอประวัติศาสตร์การโกงแห่งชาติ” เพื่อการศึกษาและก่นสรรเสริญของฝ่าย “ประชาธิปไตยคอร์รัปชันนิยม” ในรุ่นต่อๆ ไป
ขอบันทึกเอกสารจาก “ต้นฉบับจริง” ที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ร่วมโพสต์เป็นทัศนะตอบสนองการประกาศความสำเร็จของท่านรองนายกฯ ภูมิธรรมไว้ตามลำดับ ดังนี้
……………………………..
Phumtham Wechayachai
?ปิดตำนานจำนำข้าว
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ผมได้ลงไปตรวจข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าว
ซึ่งเป็นนโยบายช่วยชาวนาของรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์
มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในสังคมจนกลายเป็น “จินตนาการเกินเลยความจริง”
วันนี้ “ความจริง” ที่ปรากฏ คือ ทาง อคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการประมูลข้าว ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล สรุปได้ว่า
1.ข้าวในคลังบริษัทพูนผลเทรดดิ้ง จำกัด หลังที่ 4 ซึ่งมีข้าวจำนวน 3,356.592361 ตัน
ผู้ชนะการประมูล บ.สหธัญ ให้ราคาเพิ่ม จาก 18.69 บาท เป็น 18.71 บาท ต่อ กก.มูลค่าเดิม 62,734,711.23 บาท เพิ่มเป็น 62,800,000 บาท
2.ข้าวในคลังกิตติชัย หลัง 2 ซึ่งมีข้าวจำนวน 11,656.654600 ตัน
ผู้ชนะการประมูล บ.ทรัพย์แสงทองไรซ์ ให้ราคาเพิ่มจากเดิม 15.62 บาท/กก. มูลค่า 182,040,000 บาท เป็น 18.00 บาท/กก. มูลค่า 209,819,083 บาท
สรุปรวมมูลค่าที่ขายได้นำเงินเข้ารัฐ รวม 272,619,083 บาท
จาก “ความจริง” ของมูลค่าของข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ปรากฎในวันนี้ ทำให้ผมอดที่จะจินตนาการย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน
แล้วตั้งคำถามว่า
ทำไมราคาประมูลขายข้าวในครั้งนั้น ถึงมีราคาต่ำไม่ถึง 10 บาท/ กก ด้วยข้ออ้างว่าเป็นข้าวเน่า ที่ไร้การตรวจพิสูจน์
วันนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีภาระหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องนี้
พยายามดำเนินกระบวนการทุกขั้นตอนให้เกิดประโยชน์กลับคืนสู่รัฐได้มากที่สุด
ถือว่าเป็นการปิดตำนานจำนำข้าวด้วย “ความจริง” ที่พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัย
มิใช่ “จินตนาการ” ที่ตั้งอยู่บน “อคติ” จนทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล
ภูมิธรรม เวชยชัย
รองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
20 ก.ค. 2567
…………………………………………
วันรุ่งขึ้น “นพ.วรงค์ เดชกิจกิวกรม” ผู้ได้รับการขนานนามว่า “มือปราบทุจริตโกงรับจำนำข้าว” จนอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และรัฐมนตรี รวมถึงข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ติดคุกหลายคน โพสต์ ดังนี้
วรงค์ เดชกิจวิกรม – Warong Dechgitvigrom
21 กค.67
#ปิดตำนานจำนำข้าว
#หยุดฟอกขาวจำนำข้าว
หลังจากที่มีการประมูลข้าว 10 ปี นายภูมิธรรมได้โพสต์ลงโซเชียลว่า ปิดตำนานจำนำข้าว กับความจริงที่พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัย
ผมคิดว่านายภูมิธรรมคงต้องการสื่อสารว่า ตนเองขายข้าวได้ราคาดี และพยายามเบี่ยง ว่ามีการขายข้าวบางคลังราคาถูกในอดีต
นายภูมิธรรมคงไม่ได้ลืมหูลืมตาดูบ้างเลยว่า ข้าวพวกนั้นเป็นข้าวเน่า เสื่อมสภาพ มีเชื้อราเป็นก้อนๆ ที่ทุจริตสมัยยิ่งลักษณ์
ส่วนข้าว10 ปีนี้ ไม่มีใครบอกว่าเป็นข้าวเน่า เพียงแต่มีข้าวขาวปลอมปน
ที่สำคัญคือ การประมูลข้าว 10 ปี ก็ไม่โปร่งใส มีการให้อคส.ไปตกแต่งกองข้าว ทำให้เสียภาษีประชาชน ทั้งๆ ที่ควรเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของคลัง
ยังพบข้าวกระสอบใหม่จำนวนไม่น้อยที่ผสมในกองข้าวดังกล่าว จุดที่น่าอายคือ การกำหนด tor ห้ามนำตัวอย่างข้าวไปตรวจนอกคลัง
ดังนั้น การปิดตำนานจำนำข้าว จึงปิดท่ามกลางข้อกังขาของประชาชนและทำลายความเชื่อมั่นตลาดข้าวไทย แต่ที่แน่ๆ โครงการจำนำข้าวคือ
มหากาพย์การโกงที่ยิ่งใหญ่และสร้างความเสียหายให้กับประเทศมากที่สุด….หยุดฟอกขาวจำนำข้าว
…………………………………..
และสืบเนื่องจากโพสต์ของท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย นั้น “นายสมชัย ศรีสุทธิยากร” นักวิชาการเพื่อสังคม อดีตกกต. มีความเห็นในทางเสนอแนะ ดังนี้
ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร
20 ก.ค.67
อย่าเพิ่งรีบปิดวิก
การแสดงไม่ควรจบ แค่ขายข้าว 10 ปี ได้ กิโลละ 18 บาท ได้เงินเข้ารัฐ 272 ล้านบาท
1. หากกล่าวหาว่า รัฐบาลก่อนขายข้าวตุกติก ขายถูกเกิน แค่กิโลละ 10 บาท
ควรใช้อำนาจรัฐ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และเอาผิดนักการเมืองและข้าราชการที่สมคบคิดทำให้ประเทศเสียหายด้วย
2. ติดตามบริษัทที่ประมูลข้าว 10 ปีได้ ว่าเขานำข้าวไปปรับปรุงหรือแปรรูปทำอะไร ขายในหรือนอกประเทศ
และมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ หรือความปลอดภัย โดยสถาบันที่น่าเชื่อถือแจ้งต่อประชาชนด้วย
3. หากนำมาขายในประเทศ ควรให้เครดิต โดยบอกตรายี่ห้อของข้าวที่ขาย เพื่อเป็นทางเลือกของประชาชน หากขายต่างประเทศ ควรเปิดเผยชื่อประเทศที่ส่งข้าวไปขายให้ประชาชนไทยและชาวโลกได้รับรู้
4. หากข้าวที่นำไปขายได้รับการต้อนรับจากคนไทยและประเทศคู่ค้าอย่างดีเยี่ยม จึงควรให้เครดิต และเสียงปรบมือต่อรองนายกภูมิธรรมและรัฐบาลเพื่อไทย
แต่หากผลเป็นตรงข้าม 272 ล้านบาท อาจไม่คุ้มกับความเสียหายที่ตามมาและเป็นเรื่องที่ต้องแสดงความรับผิดชอบ
………………………………..
การประมูล “ข้าว ๑๐ ปี” ได้เงิน ๒๗๒,๖๑๙,๐๘๓ บาท คืนรัฐ จนท่านรองนายกฯภูมิธรรม ประกาศเป็นผลงาน “ปิดตำนานจำนำข้าว” ที่ยิ่งใหญ่ สุดแสนจะภูมิใจ นั้น
เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับข้าวรับจำนำทุกเม็ดและตัวเลขความเสียหาย
ขอนำข่าวจากการรายงานของหนังสือพิมพ์ “กรุงเทพธุรกิจ” มาบันทึกประกอบไว้ ดังนี้
กรุงเทพธุรกิจ
26 ม.ค. 2024
ปิดตำนานโครงการรับจำนำข้าว “อคส.” ประเมินความเสียหาย “ยิ่งลักษณ์” 7 แสนล้าน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ที่กำหนดราคารับจำนำ (รับซื้อ) ข้าวทุกเมล็ดตันละ 15,000 บาท (ข้าวเจ้าความชื้น 15%) ช่วงดำรงตำแหน่ง 2554-2557
และหากรวมนโยบายจำนำข้าวในส่วนของรัฐบาล สมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวม 6 โครงการ ตั้งแต่ปีการผลิตนาปี 51/52 ไปจนถึงนาปี 56/57
มูลค่าความเสียหายจะอยู่ที่ 7.8 แสนล้านบาท (787,209,942,122 บาท ) ปริมาณข้าว 51 ล้านตัน
ทั้งนี้ การจำนำข้าวตั้งแต่ฤดูกาลผลิตนาปี 51/52 ปริมาณ 3.5 ล้านตัน มูลค่า 4.2 หมื่นล้านบาท
นาปรัง ปี 52 ปริมาณ 3 ล้านตัน มูลค่า 4.3 หมื่นล้านบาท นาปี 54/55 ปริมาณ 4.9 ล้านตัน มูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาท
จากนั้น ก็เข้าสู่นโยบายการ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” ของพรรคเพื่อไทย ทำให้นาปรัง ปี 55 ปริมาณ 11 ล้านตัน
ความเสียหาย 1.68 แสนล้านบาท
และปริมาณข้าวสูงสุดอยู่ที่นาปีและนาปรัง ปี 55/56 ปริมาณ 18 ล้านตัน มูลค่าความเสียหาย 2.8 แสนล้านบาท จากนั้นปี 56/57 ปริมาณ 9.9 พันตัน มูลค่า 1.6 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากนับเฉพาะโครงการรับจำนำในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประเมินความเสียหายไว้ที่ 7.0 แสนล้านบาท (701,237,831,765 บาท ) ปริมาณข้าวอยู่ที่ 44 ล้านตัน (44,663,247 ตัน)
………………………………….
เสียหายไป ๗ แสนล้านบาท จากผลงานรัฐบาลเพื่อไทย ยุค “ยิ่งลักษณ์”
ได้คืน ๒๗๒ ล้านบาท จากรัฐบาลเพื่อไทยยุค “เศรษฐา”
ใต้กำกับ “ยิ่งลักษณ์-นักโทษเทวดา”
ก็ยก “ตีนตบ” ขึ้นตบกันซิครับ…ทั่น มัวตะมอยกินมือกันอยู่ได้!
เปลว สีเงิน
๒๒ กรกฏาคม ๒๕๖๗