เปลว สีเงิน
ข้าน้อยขอคารวะซื่อแป๋ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ๓ จอก
รัฐธรรมนูญ ฉบับ “ปราบโกง” ของท่าน
เจ๋งจริง!
๔๐ สว.ใช้ธนูดอก “พิฆาตอสูร” ที่ซือแป๋ซ่อนไว้ให้ในมาตรา ๑๗๐ วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒
ยิงเปรี้ยงผ่าน “ศาลรัฐธรรมนูญ” พุ่งตรงถึง “ร่างทรงอสูร” นามว่าเศรษฐา โดยไม่ต้องอ้อมผ่าน ปปช.และศาลฎีกา ให้เนิ่นช้า
ผลปรากฎ เป้าหมายถลาเซ เจียนๆ จะล้ม-มิล้มแหล่
แวดวงอสูรนับแต่หัวหน้าคอกยันลูกคอก หน้าซีด ตัวสั่น ขาอ่อนไปตามๆกัน ตะโกนวอนเทวา
“นักโทษหัวหน้าคอกเจ้าขาาาา โปรดช่วยลูกหมาในคอกด้วย”!
เพราะเมื่อวาน (๒๓ พค.๖๗) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติด้วย “เสียงข้างมาก ๖:๓”
“เห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๗๐วรรคสาม ประกอบมาตรา ๘๒ วรรคหนึ่ง
และพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ๒๕๖๑ มาตรา ๗(๔)”
“รับคำร้อง” ของ ๔๐ สว.ไว้พิจารณาวินิจฉัย!
และให้ “นายกฯเศรษฐา” ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน ๑๕ วัน
ก็ราวๆ สัปดาห์ที่ ๒ ของเดือนมิย.นั่นแหละจะครบกำหนด แต่เชื่อว่า ครบ ๑๕ วัน ทางนายกฯ น่าจะขอเลื่อนเวลาออกไปอีก
ส่วน “นายพิชิต ชื่นบาน” เมื่อลาออกไปแล้ว ที่บานก็หุบ
ด้วยมติ “เสียงข้างมาก ๘:๑” มีคำสั่ง
ไม่รับคำร้อง “เฉพาะส่วนของนายพิชิตไว้วินิจฉัย!
แต่ไฮไลท์ของเรื่อง ที่ทั่วทุกฐานานุรูป “จิกตา” จ้องกัน คือ
เมื่อศาลฯ “รับคำร้อง” แล้ว
จะมีคำสั่งให้นายกฯ เศรษฐา “หยุดปฏิบัติหน้าที่” จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยไปทางใด-ทางหนึ่งหรือไม่?
ปรากฎว่า ด้วยมติ “เสียงข้างมาก ๕:๔”
“ไม่สั่งให้นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่”!
หลักๆ ที่ควรต้องรู้ ก็มีประมาณนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมี ๙ ท่าน การออกเสียงครั้งนี้ จะเห็นว่าหลากหลาย ทั้งเสียงห่างกันขาด ทั้งเสียงแพ้-ชนะ “ฉิวเฉียด”
มีพวก “จิตข้อง” พยายามแปลความตัวเลข ๖:๓ ตัวเลข ๕:๔ ไปทาง “ขัดใจ”
อยากบอกว่า พวกนี้ หาเวลาไปพบ “จิตแพทย์” บ้างก็ดี บางทีจะทำให้ “ใจเปิด” ในการมองโลกได้บ้าง
มิใช่ “โมหะปิด” จริตลบต่อทุกเรื่อง-ทุกคน-ทุกกรณี โดยไม่มีสติปัญญาแยกแยะ
ตัวเลขมติศาลฯ เมื่อวาน คือตัวเลข “อิสรภาพแห่งวินิจฉัยเสรี” ไม่มีใบบอก ใบหนาด ปิดปาก-ปิดตา-ปิดใจ ตุลาการแต่ละท่านในการทำหน้าที่หรอก
เชื่อผม แล้วจะถูกหวย!
หลายคนบอก “รับคำร้องแล้วทำไมไม่สั่งให้เศรษฐาหยุดปฎิบัติหน้าที่ ทีกับนายกฯ ประยุทธ ศาลฯ ยังสั่งให้หยุดเลย”?
ก็กรณีนายกฯ ประยุทธ์ เรื่องเวลา ๘ ปี มันเป็นรูปธรรม “นับได้” ผ่านนิ้วมือหรือเครื่องคิดเลข
แต่กรณีนายกฯ เศรษฐา ประเด็นหลักอยู่ตรงจริยธรรม
มันเป็นนามธรรม ไม่มีวัตถุให้ใช้เป็นหน่วยวัด
ดังนั้น การรับรู้ จึงขึ้นอยู่กับทัศนคติบนฐานมโนธรรมสำนึกแต่ละมนุษย์ ฉะนั้น ความเห็นที่ตางกัน สะท้อนถึงธรรมชาติคิดอิสระ!
ถ้างั้น เรื่องนี้ จะมีคำวินิจฉัยเป็นบทจบออกมาให้รู้กันเมื่อไหร่ ว่าเศรษฐาผิด ความเป็นนายกฯ สิ้นสุดลง หรือไม่ผิด เป็นนายกฯ ได้ต่อไป?
ตรงนี้ “ตอบยาก”
แต่ถ้าบังคับให้ตอบ ผมก็จะตอบว่า ภายในวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๗ รู้หมู่-รู้จ่า!
ถามว่า แล้วนับจากวันนี้ ทั้งสถานการณ์บ้านเมือง ทั้งสถานะ “รัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย” จะอยู่สภาพไหน?
สถานการณ์บ้านเมือง ๙ เดือนบริหารของรัฐบาลเศรษฐา-เพื่อไทย สบายๆ
GDP ประเทศไทย “โตต่ำสุด” ในกลุ่มหลักอาเซียน
แต่ GDP ครอบครัวเทวดา “โตสูงสุด” ในกลุ่มอสูรอมเมือง
เพราะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาแล้วว่า ไตรมาส ๑ ของปี ๒๕๖๗
เวียดนาม, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ โตขยายตัว ๕.๗%
มาเลย์ฯ โตขยาย ๔.๒%
แต่ของไทย GDP โต ๑.๕% เทียบกับปีที่แล้ว!
ยังนับว่าบุญประเทศ เพราะทั้งปี ไม่ว่าการลงทุน การส่งออก การบริโภค เรียกว่า “ทุกการ” ทรุดหมด
มีการเดียวที่ช่วยพยุง พอไม่ให้ประเทศหงายท้อง คือ
“การท่องเที่ยว”
แล้วที่ “ทรุดสุด” ของประเทศ คือจากการไหนรู้มั้ย?
“การลงทุนภาครัฐ” นั่นเอง
คือรัฐบาลไม่นำงบมาลงทุนในการสร้างงาน-สร้างคน ที่เรียกเป็นการพัฒนาประเทศ กักเงินส่วนนี้ไว้เอาไปแจก
การลงทุนจากภาครัฐ จึงถึงขั้นติดลบ คือ – ๒๗.๗%
ตัวเลขที่พุ่งขึ้นไม่หยุดยั้ง ยิ่งกว่าบั้งไฟเงินล้าน คือ
“หนี้ครัวเรือน”
ตอนนี้เพิ่มขึ้นไปถึง ๙๑.๓% ของ GDP ไตรมาสสุดท้ายปี ๖๖ คิดเป็น ๘% ของทั้งระบบ
แยกประเภทได้ประมาณนี้….
หนี้เสียผ่อนรถยนต์ ๒.๔ แสนล้าน โต ๓๒%,
หนี้เสียผ่อนบ้าน ๑.๙๙ แสนล้าน โต ๑๘%
หนี้เสียสินเชื่อส่วนบุคคล ๒.๖ แสนล้าน โต 12%
หนี้เสียบัตรเครดิต ๖๔,๐๐๐ ล้าน โต ๑๔.๖%
ขณะนี้ “หนี้บัตรเครดิต” ทะยานยอดขึ้นไปถึง ๓๒.๔% ส่งสัญญาน “เน่า” คละคลุ้ง!
ผมเก็บตัวเลขจากศูนย์ “เครดิตบูโร” บ้าง จากสภาพัฒน์ฯ แถลงตัวเลข GDP ประเทศ ไตรมาสแรกบ้าง เอามาให้ดู
เป็น “มรณานุสติ” จากผลงาน “รัฐบาล ๙ เดือน”
ที่เคยตะโกน “๘ ปี รัฐบาลประยุทธ์ ไม่ทำเอี้ยอะไรเลย”
แต่พอตัวเองมาเป็นรัฐบาล
“แค่ ๘-๙ เดือนรัฐบาลเพื่อไทย ทำเอี้ยทุกอย่าง”!
เห็นแล้ว ก็พูดได้เพียงว่า “เลือกเศรษฐาเป็นนายกฯ แล้วคนไทยจะเป็นเศรษฐีทั้งประเทศ”
มันกำลังเป็นจริงแล้ว..จริงๆ!!!
“หนี้ครัวเรือน” สูง ๙๑.๓% หมายความว่าไง ก็หมายความง่ายๆ ว่า เงิน ๑๐๐ บาท ในกระเป๋าเราทุกคน
เท่ากับเหลือ ๙ บาท เท่านั้น!
ลาว-ไทย “พี่น้องกัน” ไม่แน่ในอนาคต ถ้าให้ “เศรษฐา-เพื่อไทย” บริหารประเทศต่อไปอีกซักปี-ครึ่งปี
“เงินกีบ-เงินบาท” มาตรฐานเดียวกัน ก็มีโอกาสนะ
เรื่องเศรษฐา ความเป็นนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลงหรือไม่ นั้น เป็นเรื่องใหญ่แค่ XL เท่านั้น
รอหน่อย อย่างที่บอก ภายใน ๒๒ กันยา.ก็รู้
เผลอๆ กรกฎา.-สิงหา.ศาลฯ ก็น่าจะมีคำวินิจฉัย ถ้าเศรษฐาไม่ขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงออกไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าเร็ว……
โดยเศรษฐา “ชิงลาออก” ก่อนศาลฯ มีคำวินิจฉัย
ก็มี influencer คนเดียวเท่านั้น ที่จะสั่งได้ให้ลาออก แล้วเศรษฐาน่าจะทำตาม
คือ “คนสัญชาติเซอร์เบีย” แถวๆ ลอนดอน!
แต่รัฐบาลเพื่อไทย จะอยู่-จะไป ผมว่าขึ้นอยู่กับเรื่องใหญ่ ขนาด XXXLLL อีกเรื่องมากว่า ที่จะเป็นตัวบ่งชี้
นัยว่า พุธที่ ๒๙ พฤษภา.นี้
สำนักงานอัยการสูงสุด นัดนักโทษทักษิณไปฟังคำสั่งคดี มาตรา ๑๑๒ ที่ทักษิณตกเป็นผู้ต้องหาคาอยู่
ว่าจะ “สั่งฟ้อง” หรือ “สั่ง” ไม่ฟ้อง”!
แต่ไม่ว่าจะสั่งแบบไหน ล้วนมีผลเป็นกระแสกระเพื่อมสังคมทั้งด้านบวกและด้านลบทั้งสิ้น
ผมว่า โอกาสที่อัยการจะเลื่อนและนัดให้ไปฟังคำสั่งในวันต่อๆ ไป เปอร์เซ็นต์สูง
เอาละ….
วันนี้นายกฯ “ซอฟต์ พาวเวอร์” จะเดินทางกลับมา “ซอฟต์ แลนดิ้ง” หลังจากทัวร์ยุโรป-ญี่ปุ่นหลายวัน
เป้าหมายต่อไปที่พุ่งชนของเศรษฐา คือ
กู้ร่วม ๒ แสนล้าน โดยไม่กู้เอง ใช้คำว่าการจัดทำ “งบประมาณกลางปี” เพิ่มเติม เป็นตัวกู้
เพื่อเอามาทำเป็น “เงินดิจิทัล” แจก ในไตรมาส ๔
ฉะนั้น วันนี้ ก็คงต้องจบด้วยทิ้งคำถามฝากไว้ให้ตอบ
ใครจะเป็น “นายกฯ คนต่อไป” ต่อจาก “เศรษฐา” ภายในกันยา.นี้?
เปลว สีเงิน
๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๗
