23 พฤษภาคม 2567 นายจักรัตน์ พั้วช่วย สส.เพชรบูรณ์ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิยเผยว่า คณะ กมธ.ได้มีการประชุม เรื่อง พิจารณาอนุญาตเพื่อการบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานด้านทรัพยากรน้ำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน โดยมี ผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ ร่วมให้ข้อมูลต่อ กมธ.ว่า
การบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานสวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ แต่เดิมต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช แต่เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 จำเป็นต้องมีการวางมาตรฐานและแนวปฏิบัติในการพิจารณาอนุญาต เพื่อให้ส่วนราชการภายในกรมถือปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน
นายจักรัตน์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การพิจารณาอนุญาตเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการลดขั้นตอนกระบวนงาน อธิบดีจึงมีคำสั่งกรมอุทยานฯ มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 – 16 และผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์สาขาพิจารณาอนุญาตแทนอธิบดีได้ ซึ่งการบำรุงรักษาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ต้องเป็นการบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้างเดิมหรือก่อสร้างใหม่แทนสิ่งก่อสร้างเดิมที่ชำรุด หรือเพื่อให้มีคุณภาพดีกว่าเดิม แต่จะล้ำไปจากพื้นที่เดิมไม่ได้ หากจะมีการก่อสร้างสิ่งใดใหม่ จำเป็นต้องมีการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติบางส่วน ซึ่งต้องกระทำโดยพระราชกฤษฎีกา หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติประกาศกำหนดในกรณีวนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ จึงใช้ระยะเวลามากกว่าการขออนุญาตตามปกติ สำหรับกรณีการก่อสร้างใหม่หรือปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่อนุญาตให้มีการอยู่อาศัยและทำกินตามปกติธุระตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว หรือเป็นเขตกันชนซึ่งอยู่ภายนอกเขตอุทยานฯ สามารถกระทำได้ แต่หน่วยงานต้องประสานงานมายังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งท้องที่ เพื่อให้บรรจุโครงการไว้ในแผนการบริหารจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
“ภายหลังการพิจารณา กมธ.ได้มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ว่า แม้ว่าการก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานในพื้นที่ที่อนุญาตให้มีการอยู่อาศัยจะกระทำได้ แต่การพัฒนาบางส่วนในทางสัญจรสู่ชุมชนนั้นยังคงอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ การดำเนินการจึงมีความยากลำบากอยู่ หน่วยงานควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย ส่วนการพัฒนาพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติหรือเขตป่านั้นมีระเบียบกำหนดให้ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ก่อนจึงจะได้รับจัดสรรงบประมาณได้ ซึ่งค่อนข้างเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา”นายจักรัตน์ กล่าว