ม.มหิดล คิดค้นและพัฒนา ‘วัคซีนเรบีส์’ สำเร็จระดับห้องปฏิบัติการ เตรียมผลักดันใช้ทั่วเอเชีย

ในปีๆ หนึ่งบุคคลทั่วไปอาจโดน “สุนัขต้องสงสัย” กัดอย่างน้อยที่สุดเพียงปีละหนึ่งครั้ง แต่บุคลากรที่ต้องปฏิบัติหน้าที่สัมผัสและใกล้ชิดสัตว์โดยตรงมีความเสี่ยงทุกวัน

“วัคซีนเรบีส์” เพื่อป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จึงเป็นความหวังสู่ทางรอดของโรคติดเชื้อไวรัสชนิดรุนแรงที่เป็นแล้วต้องเสียชีวิตทุกรายดังกล่าว

มหาวิทยาลัยมหิดล โดย สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล (MB) พร้อมทำให้ความหวังของคนไทยที่จะได้มีวัคซีนเรบีส์ใช้ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าด้วยฝีมือคนไทยเป็นของตัวเองครั้งแรกได้เป็นจริงในอีก 8 ปีข้างหน้า

ปัจจุบันการทดลองคิดค้นวัคซีนดังกล่าวประสบความสำเร็จในระดับห้องปฏิบัติการ และอยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ส่วนสายพันธุ์ของเรบีส์ไวรัสที่ใช้ทำวัคซีนได้ตีพิมพ์ในเบื้องต้นแล้วในวารสารวิชาการชั้นนำระดับนานาชาติของสหรัฐอเมริกา

โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล (MB) และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล องค์การเภสัชกรรม สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมปศุสัตว์ ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐฝรั่งเศส และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

โดยต้องขอจดทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนวิจัยในคนผ่านความร่วมมือกับคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนเดินหน้าผลิตใช้จริงในคนไทย และในเอเชียต่อไป

ดร.ณรงค์ นิทัศน์พัฒนา นักเทคนิคการแพทย์ (ผู้เชี่ยวชาญ) ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาวัคซีน สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล (MB) มหาวิทยาลัยมหิดล นับเป็นความภาคภูมิใจของมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ “ปัญญาของแผ่นดิน” ผู้เป็นเบื้องหลังสำคัญของการคิดค้นและพัฒนาวัคซีนเรบีส์ฝีมือคนไทยครั้งแรก ภายใต้ทุนสนับสนุนหลักจาก สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

โดยได้คัดเลือกเรบีส์สายพันธุ์ Rabies virus strain TH 13-42-07240 ซึ่งพบมากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากธนาคารเก็บรักษาเชื้อไวรัสของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ก่อนนำมาเข้าสู่กระบวนการฆ่าเชื้อด้วยสาร Beta Propiolactone (BPL) เพื่อให้ได้วัคซีนบริสุทธิ์ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก (WHO)

ดร.ณรงค์ นิทัศน์พัฒนา กล่าวต่อไปอีกว่า วัคซีนเรบีส์ที่ใช้ในคน ต่างจากวัคซีนเรบีส์ที่ใช้ในสัตว์ตรงความสะอาดบริสุทธิ์ที่มากกว่า จึงต้องอาศัยต้นทุนในการผลิตสูงกว่า เพื่อให้ได้วัคซีนที่เหมาะสม และปลอดภัย ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อทุกคนที่เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อเรบีส์

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรที่ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยสัมผัสและใกล้ชิดสัตว์โดยตรงนั้น ต้องได้รับวัคซีนป้องกันเรบีส์เป็นประจำ และผู้ที่ถูกสุนัข หรือแมวที่สงสัยว่าติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้ากัด หรือขีดข่วน รวมกันแล้วประมาณมากกว่า 2 ล้านโดสต่อปี

อย่างไรก็ดี การพัฒนาวัคซีนเรบีส์ยังต้องการการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และเพียงพอจากภาครัฐ ซึ่งหากสามารถพัฒนาให้ใช้จริงในคนไทยได้เร็วเพียงใด จะไม่เพียงส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศ แต่รวมถึงทั่วเอเชีย

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th

Written By
More from pp
มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพ ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย จ. สุโขทัย
เด่น ดับโศก ผู้บริหาร มูลนิธิ เมเจอร์ แคร์ พร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิฯ และพนักงาน บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) 
Read More
0 replies on “ม.มหิดล คิดค้นและพัฒนา ‘วัคซีนเรบีส์’ สำเร็จระดับห้องปฏิบัติการ เตรียมผลักดันใช้ทั่วเอเชีย”