เปลว สีเงิน
ไม่ต้องต้องตกใจไปหรอกครับ เรื่องน้ำท่วม
เพราะเมื่อปี ๒๕๕๔
เราได้นายกฯ หญิงชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
ขนาด “เอาอยู่” ยังท่วม จากเหนือ ยันกรุงเทพฯ
ปีนี้ ๒๕๖๗ เราได้นายกฯ หญิงชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” ไม่ท่วมก็เสียยี่ห้อ “ตระกูลชิน” น่ะซี
นี่ถ้า “นายกฯ” คนต่อไปชื่อ “พจมาน ชินวัตร” ด้วยละก็ มิถึงขั้น “น้ำท่วมฟ้า-ปลากินดาว” รึนั่น!?
สาเหตุหนึ่งที่ “ท่วมกรุงเทพฯ” ปี ๒๕๕๔ ตามนิยายปรัมปราเขาว่า เพราะนักการเมือง ขณะนั้น
เขากว้านซื้อที่ดินด้านตะวันออกไว้มาก เพื่อทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ขณะนี้ก็ “ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ”!
เขาไม่ให้น้ำไหลไปออกปากอ่าวทางนั้น เพราะกลัวไปท่วมที่ของเขา จะทำให้เสียราคา
น้ำไปออกทางขวาก็ไม่ได้ ทางซ้ายก็ไม่ได้ ต้อนกันไป-ต้อนกันมา แล้วจะให้กูไปลงทะเลทางไหนวะ?
หมั่นไส้นัก…ผ่าหมากแม่งมันซะเลย
ก็ทะลักเข้าท่วมทั้ง “ชั้นนอก-ชั้นใน” กรุงเทพฯ อ่วมอรทัย จนเป็นตำนาน “เอาอยู่ค่ะ” จนถึงทุกวันนี้!
ปีนั้น ผมซื้อเรือไว้ลำ ๖ พันบาท ถ่อจากถนนหน้าบ้าน ไปขึ้นถนนใหญ่ปากซอย
ยังขึ้นคานอยู่ที่บ้าน ตุลา.นี้ น่าจะได้ฤกษ์เข็นลงน้ำอีกรอบ เพราะเดือนหน้า-เดือนโน้น อาจท่วมระดับ X ๒
เพราะนามนายกฯ ของเรา “แพ-ทอง-ธาร” ตามสิทธิการิยะท่านว่า “ต้องโฉลก” กับน้ำยิ่งนัก
“แพ” คู่กับน้ำ แถมยังมี “ธาร” ที่แปลว่า “สายน้ำ” เข้ามามาอีก มีทั้งแพ-ทั้งธารแบบนี้
“ธาร” เนืองนองจากเหนือยันกรุงเทพฯ น้อยไป
รอบนี้ จะต้องมาชนิด “นองเป็นท้องธาร” ทั้งประเทศ
ทั้งแผ่นดิน “เหนือ กลาง-ใต้-ออก-ตก-กรุงเทพฯ” ไม่มีใครน้อยหน้ากว่ากัน!
ผมทุกข์กว่าเพื่อน เพราะเมื่อต้นเดือน ปลูกทุเรียนไว้ที่หน้าโรงพิมพ์หนึ่งต้น ประคบ-ประหงม ยิ่งกว่านางสาวไทย ถึงขั้นกางมุ้งกันแดดให้เลย
ไทยโพสต์ตั้งอยู่ชายแดน มีลำคลองกั้นเป็นเขตแดนระหว่าง “กรุงเทพฯ-นนทบุรี”
ติดคลองอย่างนี้ด้วยแล้ว ก็ไม่น่าเกินตุลา. “พี่น้ำ-น้องน้ำ” คงจะมิดยอด!
ที่คิดว่าจะเก็บทุเรียนขายเป็นค่าเงินเดือนพนักงานในอนาคต เห็นท่าจะไม่รอดซะแล้ว!?
แต่ไม่ต้องอกไหม้-ไส้ขมกันจนเกินเหตุไปนักหรอก เพราะจากนามโฉลกนายกฯ หญิง นอกจากมีแพ-มีธารแล้ว
ยังมี “ทอง” รวมอยู่ด้วย…
แสดงว่า เมื่อน้ำเนืองนอง เงินทองก็จะไหลมาด้วย ฉะนั้น คนจนก็จงเล่นหวย คนรวยก็เล่นหุ้น-เล่นทองกันไป
เรื่องหุ้น ช่วงนี้ เป็นช่วง “ปั่นตลาด” เป็นขาขึ้น ทางจิตวิทยาว่าด้วยการ “สร้างความเชื่อมั่น” ว่า
“ทักษิณมา” การครอบครองนายกฯ เท่ากับครอบครองรัฐบาล และด้วยระบบ “โกงเอามาแบ่งปัน”
จะเป่าตูด “เศรษฐกิจประเทศ” ผ่านตลาดหุ้นให้กระฉูด “ลวงตา” ได้
ฉะนั้น ใครอยากรวย ก็รีบซื้อ แต่อย่า “แต่งงานกับหุ้น” คือซื้อแล้วกอดไว้เชียว!
นายกฯ หญิงนั้น ช่วงนี้ มีแต่หัว คือตำแหน่งนายกฯ ยังไม่มีครม.คือยังไม่มีรัฐบาล
ฉะนั้น ก็เป็นตุ๊กตาบาร์บี้ให้พวกกุนซือเขาจับแต่งตัวตามเทศกาลไปพลางๆ
ตอนนี้ เทศกาลน้ำท่วม ก็ให้สวมบูทยาง สูงยันน่อง ยืนผัดข้าว-โชว์ตัวหน้ากล้องให้สื่อแแย่งกันลงรูป-ลงข่าว
ส่วนงานกลางน้ำ-กลางฝน ขนย้าย แบกหาม ทำถนน-ทำสะพาน หาข้าวปลาอาหารลอยคอไปแจกชาวบ้าน
“ทหาร” ก็ทำกันไป เหนื่อยสายตัวแทบขาด แม้ไม่มีกล้องแย่งกันไปถ่ายออกจอ ก็เคยไม่ยี่หระ
เพราะทหารคือ “แผ่นทองของพระราชาปิดหลังพระ”
เป็นเยี่ยงนี้มานับแต่แผ่นดินก่อเกิด “ราชอาณาจักรสยาม” เป็นนามประเทศ มาร่วมพันปี โน่นแล้ว!
ทุกข์ยาก “ประชาราษฎร์” เกิดที่ไหนปั๊บ
“ครัวพระราชทาน” ดั่งปาฎิหาริย์ ลอยละล่องจากฟากฟ้า หล่นลงมาตั้งปุ๊บ
ไม่พูด-ไม่จา-ไม่ออกข่าว-ไม่โพนทนาเอาหน้า-เอาตาจากใคร ผัดๆ ต้มๆ ยำๆ แกงๆ ใส่หม้อ ใส่กล่อง
แล้วแยกย้าย-ลอยคอ ไปหาชาวบ้านที่เวิ้งว้าง-สิ้นหวังจากความช้วยเหลือจากใคร
ยิ่งกับนักการเมือง จะมากันทีแบบถี่ๆ ก็ตอนหาเสียงเลือกตั้ง จากนั้น ตั้งแต่หัวยันหาง ไม่เคยเห็น
ทหาร…ที่ถามกันว่า “มีไว้ทำไม?”
คำตอบที่ผุดขึ้นในหัวใจทุกคนตอนทุกข์เข็ญก็คือ
ทหาร “มีไว้เพื่อพ่อแม่พี่น้องและตัวมึงไม่ตายตามภัยมาถึงไง เข้าใจรึยัง?”
เดือนหน้า “ประชาเปราะบาง” ก็จะได้รับแจกคนละ ๕ พัน เอาไปซื้อหวย ซื้อเหล้า ซื้อยา กันแล้ว
ซื้ออะไรก็ได้ทุกอย่างตามใจ เพราะแจกเป็นเงินสด
ก็เงินภาษีพวกเราทุกคน และพวกเราทุกคนนี่แหละที่ต้องใช้หนี้ เพราะรัฐบาลแทนที่จะกู้มาพัฒนาประเทศ
กลับกู้ นับแสนๆ ล้าน เพื่อเอามาแจกหาเสียง ความริยำนักการเมืองไร้สำนึก….
การ “กินเนื้อแล้วโยนเปลือกคือหนี้ให้ประชาชน” มันกลายเป็นความชอบธรรมในระบบสภา ว่าด้วย “มือมาก” คือความถูกต้องไปแล้ว
ผมว่า “ประชาธิปไตยกินชาติ” แบบนี้ มันไม่แฟร์กับสังคมส่วนรวมนะ หรือท่านว่าไง?
ส่วนอีก ๕ พัน เพื่อไทยในทักษิณครอบครองก็ “กู้มาแจก” ผ่านงบประมาณปี ๖๘ อีก แล้วก็โยนหนี้ให้พวกเราจ่ายแทนอีกตามเคย
ปลายปีก็คงได้กัน แจกเป็นเงินสดนี่แหละ เรื่องดิจิทัลแบบซ่อนเลศนัย คงพักไว้ก่อน
ถ้ารัฐบาล “แพทองธาร-เพื่อไทย” ในทักษิณครอบครอง ไม่ชักแหงกๆ ไปซะก่อนละก็นะ
โครงการตั้งแต่สมัย “ทักษิณคิด-ยิ่งลักษณ์ทำ” ปี ๕๔ ที่ยังไม่เกิด แล้วทักษิณนำมาปัดฝุ่น เป็นวิชั่นขายวานซืนในยุค “พ่อคิด-ลูกทำ” ๒ โครงการ คือ
ถมทะเลย่านสมุทรปราการ กับย่านบางขุนเทียน อ้างเพื่อป้องกันน้ำท่วม แล้วขายให้ต่างชาติ ๙๙ ปี พร้อมแผน “ขายแผ่นดิน-ขายคอนโดฯ” ให้ต่างชาติ ๙๙ ปี ที่ขยับแล้วแต่รัฐบาลเศรษฐา แต่ยังไม่สำเร็จ
จะผลักดันให้สำเร็จตามวิชั่น “หรูหรา-หมาเห่า” เมื่อวานซืน นี่หนึ่งโครงการที่ “พ่อคิด-ลูกทำ”
และอีกหนึ่งโครงการ ที่เงินลอยมาเข้าปากหมาเห็นชัดๆ คือโครงการตั้งบ่อนกาสิโน โดยใช้คำว่า “เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” บังหน้า
แค่ “ขายใบอนุญาต” ก็รวยยกโคตร!
แต่ชาวบ้าน จะฉิบหายกันยกโคตร ตราบปัจจุบัน ยันอนาคต เมื่อประเทศเป็นศูนย์กลางเต็มรูปแบบ
ทั้ง กาสิโน โสเภณี LGBTQ ยาเสพติด คอร์รัปชัน พนันออนไลน์ และแหล่งโจรผู้ร้ายข้ามชาติซ่องสุม!
นี่จะเป็นเฟส ๒ ของรัฐบาล “พ่อคิด-ลูกทำ” ต่อจากโครงการ “กู้มาแจก” ตามสัญญาตอนหาเสียง
เรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยมีกาสิโนด้วย ผมไม่ปฎิเสธในหลักการ
แต่ปฎิเสธ คัดค้าน ไม่เห็นด้วย กับวิธีการ “ขายใบอนุญาต” โดดๆ เป็นการ “ตีหัวเข้าบ้าน” ของนักการเมือง โดยประโยชน์ไม่ตกถึงประชาชนเลย นอกจากหายนะ
ความจริง…..
วันนี้ ตั้งใจจะรายงานความคืบหน้าการหล่อหลวงพ่อทวด “องค์สมบูรณ์” ที่วัดทรายขาว สงขลา ซึ่งผมและคณะไปร่วมพิธี
ใช้เครนยักษ์ “ยกฐาน” ส่วนหน้าตัก “องค์หลวงพ่อทวด” ยาว ๙ เมตร ขั้นวางบนอาคาร
เป็น “ปฐมฤกษ์” เมื่อเสาร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๗ คือวานซืน ซึ่งทุกอย่าง สมบูรณ์ สวย งามตระหง่าน
ท่ามกลางคณะสงฆ์ ประชาชนทั้งชาวสงขลา ชาวทุ่งหวัง และจากหลายจังหวัด รวมทั้งจากมาเลเซีย มาร่วมพิธีกันล้นหลาม
คงได้เห็นผ่านจากที่ไลฟ์สดกันบ้างแล้วนะครับ ว่าจะนำมาเล่า ก็มัวแวะโน่นนี่ หมดเนื้อที่
ไว้พรุ่งนี้ หรือวันไหนฤกษ์ดี จะมาเล่ารายละเอียดให้ฟัง บอกได้คำเดียว ทุกบาท-ทุกสตางค์ กว่า ๑๗ ล้านบาท ที่ท่านร่วมบริจาค
ไม่มีตกหล่น ผลสมบูรณ์ออกมาเป็นชิ้นส่วน “หลวงพ่อทวด” ครึ่งองค์ส่วนล่าง เรียบร้อยแล้ว
อาคารประดิษฐาน “หลวงพ่อทวด” รากฐานสูงตระหง่านเทียมฟ้า ก็เสร็จเบื้องต้น
วิหารหลวงพ่อ ก็ดำเนินไปทีละขั้นตอนพร้อมกัน
“พระอาจารย์พิเชษฐ์” เจ้าอาวาสวัดทรายขาว บอกสิ้นงบประมาณไปแล้ว ประมาณ ๒๐ ล้านบาท
เอาไว้เท่านี้นะ แล้วจะคุยกันวันหลัง
สรุปว่า เสร็จสมบูรณ์ ได้ฉลอง “หลวงพ่อทวด” เต็มองค์ กัน ภายในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ แน่นอน
ผมกราบขอบคุณ และขอร่วมอนุโมทนาสาธุกับทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันสร้าง…
“หลวงพ่อทวด” เนื้อบรอนซ์ ใหญ่ที่สุดในโลกองค์นี้ ฝากไว้เป็นมรดกแผ่นดิน
เปลว สีเงิน
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๗
