๕ แสนล้าน “มึงแจก-กูจ่าย” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

คุณ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ครับ
ผม…ในฐานะผู้เสียภาษีคนหนึ่ง
มีความขยะแขยงและรังเกียจ “รัฐบาลเศรษฐา” เป็นอย่างยิ่ง ที่อ้างเศรษฐกิจประเทศซึ่ง “ไม่วิกฤต” ว่าวิกฤต

เป็นเหตุเพื่อเอาเงินหลวง ๕ แสนล้านบาทไปแจกชาวบ้านบังหน้า ซ่อนเจตนา “ตอดกิน” ไว้ข้างหลัง
ด้วยวิธีการซ่อนเงื่อนและซ่อนเล่ห์ในการแจก ด้วยการเอาเงินสด ๕ แสนล้านบาท
ไปแลกอากาศที่เรียก “เหรียญดิจิทัล” แจกชาวบ้านในรูปคูปอง

เงินสดแปลงเป็นกระดาษคูปอง ซื้อของได้เฉพาะร้านและสินค้าตามที่กำหนด-บังคับไว้เท่านั้น

มีอีกแห่ง ที่คูปองเศรษฐาอาจใช้ได้
คือ ใช้ “เช็ดตูด” ตาม “ห้องส้วม”!

และเมื่อร้านค้าได้ดิจิทัลจากลูกค้าที่ถูกบังคับให้ซื้อได้เฉพาะที่ไปแล้ว
ร้านค้าก็ต้องเอาเหรียญดิจิทัลนั้น ไปแลกกลับมาเป็นเงินบาทอีกที

และร้านค้านั้น ก็เฉพาะกับร้านที่ลงทะเบียนเข้าระบบภาษีเท่านั้น หาบเร่ แผงลอย กระจอกงอกง่อยริมถนน รวมทั้งคนที่ได้รับแจกดิจิทัลไป ๑ หมื่น
จะเอา Digital นั้น ไปแลกเป็นเงินสดเอง “แลกไม่ได้” คือเขาไม่ให้แลก

กลเกมยอกย้อนซ่อนเล่ห์เหล่านี้ ท่าน “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” ไม่เห็นด้วย
ได้ทำหน้าที่รักษาระบบการเงินประเทศ โดยไม่สยบยอมต่อรัฐบาล “เคานต์แดรกคูลา”

ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษของท่าน แม้ท่านไม่แสดงออกทางวาจาใดๆ ว่าไม่ยอมสยบต่อสิ่งไม่ถูกต้อง
แต่การที่ท่านไม่ไปเป็น “พระอันดับ” ให้รัฐบาลวัด “สิ้นศรัทธาทำ” ตอนแถลงข่าว ถึง ๒ ครั้ง ๒ ครา

ขอบอกว่า “หนึ่งกระทำ” ที่เดียวดาย เด่นชัดความหมายกว่า “ล้านกะล่อน” ที่สลอนหน้า!

ผม..ขอแอบอ้างในนามประชาชน
ขอบคุณการทำหน้าที่ “ตรง” เป็น “คันทวน” ทรนง-มั่นคงและองอาจของท่าน

การพิทักษ์มาตรฐานเชื่อถือได้ให้กับสถาบัน “ธนาคารแห่งประเทศไทย”
นั่นเท่ากับ “พิทักษ์-รักษา” มาตรฐานเสถียรประเทศประจักษ์ตาชาวโลก-ชาวไทย

เราเคยคุยกัน จำได้มั้ย ว่าคนอย่างเศรษฐาน่ะ ทักษิณว่าฉลาดแล้ว ก็ยังไม่ทันเหลี่ยมเศรษฐา
ทักษิณในฐานะหัวหน้าคอก อาจ “กำแต้ม” เหนือเศรษฐา

แต่แต้มหรือจะสู้ไต๋
เศรษฐานั่นแหละเป็นฝ่าย “กำไต๋” ทักษิณ

อย่าว่าแต่ไต๋ “อดีตนายกฯทักษิณ” เลย
ไต๋ “อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์” เศรษฐาก็ยังกำไว้ด้วยซ้ำ!

ดังนั้น คนอย่างเศรษฐา มีหรือที่จะไม่รู้ว่า “กู้มาแจก” ติดคุก เมื่อรู้ แล้วดันทุรัง จะกู้ทำไม?
ก็เพราะเขาเป็นเศรษฐา “คนฉลาดเหนือโกง” นั่นแหละ เขาจึง “ลักไก่” เคาะไพ่ สลับเกไพ่ เป็นการซื้อจังหวะ ซื้อเวลา

พอเจอคนรู้ทัน อย่าง “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ” จับไต๋ได้ แถมสังคมรู้ทันมองแต้มออกและจับอาการได้
จึงยุกันใหญ่ แน่จริง กู้เลย…กู้เลย ใครไม่กู้…ลูกหมา
ลงท้าย ก็แหย กล้ากู้ซะที่ไหนล่ะ!

ตรงนี้ พฤติกรรมมันฟ้องอยู่ทนโท่แล้วว่า
นายกฯ คนนี้ “ซื่อสัตย์-โปร่งใส” หรือ “คดในข้อ-งอในกระดูก” เพียงใช้ภาพ “ใสนอก” พลางภาพ “ขุ่นใน” เอาไว้

“ทักษิณ” ผู้ตีบท “ลิงหลอกเจ้า” แตกกระจุย เห็นด้วยกับผมมั้ย ว่าศิลปะโค้งงออย่างเศรษฐา
เป็นศิลป์ชั้นสูงในยุค “สถาปัตยกรรมกอทิก” ขนาดนั้นเลย!

เมื่อวาน (๑๐ เมย.๖๗) ก็ถึงตา แบไพ่”
ใช่…. “ไม่กู้”

หากแต่เลี่ยงไปและเล็มเงินสำหรับใช้พัฒนาประเทศและเงินสำหรับชาวไร่-ชาวนา มาเป็นเงินแจกเอาหน้าของพรรคเพื่อไทย

ถามว่า “ผิดมั้ย”?
ไม่รู้….ตอบได้เพียงว่า “สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย” บริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตัว คนอื่น จะมาทำให้เราบริสุทธิ์ไม่ได้”

แต่ ที่รู้ คือ “มันวิบัติไปแล้ว”

ไม่ต่าง “อลัชชีโล้น” ที่เป็นข่าวตอนนี้ ว่า “โกงเงิน-ไม่โกงเงินวัด” คนที่รู้แน่ คือตัวเอง

แต่ “การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง” นั้น แม้ปฎิเสธ แต่หลักฐานมันชัด จะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมรับ เพราะมันเลี่ยงไม่ออก เหมือนไพ่ที่แบหรา!

การและเล็มเงินงบประมาณ ซึ่งมีเพื่อใช้พัฒนา ทำนุ-บำรุงรักษาประเทศ และเงินธนาคารเพื่อการเกษตรฯ (ธกส.) มีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่-ชาวนา

รัฐบาลโดยนายกฯ ที่มีสำนึกบริสุทธิ์ ผมเชื่อ ไม่มีใครหน้าด้าน เก็บกวาดเงินส่วนราชการและงบกลาง จากงบปี ๖๗ จำนวน ๑.๗๕ แสนล้านบาท
ใช้ “งบประมาณ ปี ๖๘” ซิกแซกกู้แทน แล้วใช้เล่ห์กระเท่ เบียดบังมาอีก ๑.๕ แสนล้านบาท

เงินงบประมาณ ๑.๗๕ แสนล้าน บวกกับ ๑.๕ แสนล้าน รวมแล้วได้ ๓.๒ แสนล้าน
ยังไม่เต็มคำ ตามที่เศรษฐา-เพื่อไทยหิวกระหาย ๕ แสนล้าน คือยังขาดอีก ๑.๗๕ แสนล้าน

จะเอาจากที่ไหนล่ะ จะยืมจาก “สิริฮับ โทเคน” หรือไขว้เขวจาก Sc Asset มาผสมให้ครบ ๕ แสนล้าน ก็ทำไม่ได้

“หันซาย-หันขวา” ก็ใช้ความบริสุทธิ์ด้วยเล่ห์ บวกอำนาจรัฐ ที่เศรษฐาเป็นรัฐมตรีคลังนั่นละ
บีบคอ-ล้วงควัก-ลากไส้ เอาจาก ธกส.อีก ๑.๗๕ แสนล้าน อ้าง “แจกเกษตรกร”

พูดกันตรงๆ กู้แบบเลี่ยงกฎหมาย “อัฐยายซื้อขนมยาย” แล้วหลานจัญไร ก็เอาของยายไปกิน ประมาณนั้น!

ในส่วนธกส.รัฐบาลต้องคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย แต่กล้าบอกซะที่ไหนละว่า
จะคืน ๑.๗๕ แสนล้านให้ธกส.ปีไหน จะจ่ายดอกเบี้ยให้ร้อยละเท่าไหร่?

ธกส.ได้แต่อมกล้วย เป็นธนาคารแห่งแรกในโลกมั้ง ที่ให้ยืม โดยไม่เกี่ยงงอนว่า ลูกหนี้จะคืนต้นตอนไหน และจะจ่ายดอกยังไง?

ระวังเหอะ ผู้จัดการธกส.เผลอๆ จะได้ไปนอนพักร้อนคู่กับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทย์รพ.ตำรวจ เจ้าตำรับนักโทษเทวดา “ป่วยทิพย์ขั้นวิกฤต” บ้างหรอก!

๓-๔ ปีต่อจากนี้ ประเทศชาติไม่ต้องพัฒนาตะหวัก-ตะบวยอะไรกันแล้ว เพราะเศรษฐา แล่เนื้อเงินงบประมาณไปแจกเซ่น “สัญญาว่าจะให้” แลกคะแนนตอนหาเสียงหมดแล้ว

อาจสงสัยกัน ว่าธกส.พิมพ์แบงก์ได้เองหรือไง เห็นใครมาเป็นรัฐบาล ก็จะเอาเงินธกส.ไป “อุ้มนั่น-ประกันนี่”

จะรีดต้น-รีดดอกคืนได้ก็แต่กับจากระดับเกษตรกรผู้ไม่มีฤทธิ์เดช แต่กับผู้มากฤทธิ์-มากเดช เอาไปใช้จริงครึ่ง-ใช้โกงครึ่ง แล้วค้างบัญชี มีแต่ตัวเลขหนี้โชว์เป็นแสนๆ ล้าน

ไม่เห็นธกส.ทำอะไรเขาได้!?
ก็จะต้องไปทำอะไรล่ะ ในเมื่อธกส.เป็นรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลล้วงเงินจากกระเป๋าขวา คือเงินจากกระทรวงคลัง ไปใส่กระเป๋าซ้าย คือธกส.

แล้วรัฐบาล ก็ล้วงเงินจากธกส. “กระเป๋าซ้าย” ไปใส่กระเป๋าขวา คือกระทรวงคลัง ใช้โน้น-จ่ายนี่
สรุป เจ้าหนี้กับลูกหนี้ “คนเดียวกัน”

ส่วนตัวเงินทั้งหนี้จริง-หนี้ชักดาบ-หนี้แดก มาจาก “เลือดและน้ำตา” ชาวบ้านที่รัฐบาลรีดไปในรูป “ภาษี”

อ้างว่านำไปทำนุบำรุงรักษา-พัฒนาประเทศและพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ไทย

ดูจากงานวิจัยของ “ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร” นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันทีดีอาร์ไอ ที่เผยแพร่เมื่อ ปี ๒๕๕๗
กรณีศึกษา “โครงการรับจำนำข้าว” สมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ดูก็ได้

โครงการมีผลขาดทุนทางคลัง ณ สิ้นเดือนเมษายน ๒๕๕๗ สูงถึง ๕.๓๙ แสนล้านบาท
ถ้าคำนวณผลตรวจสต็อกข้าวของ คสช. ณ สิ้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๗ จะขาดทุน ๖.๖ แสนล้านบาท

ขณะที่ผลประโยชน์ส่วนเกินจากโครงการจำนำข้าวที่ตกแก่ชาวนา ๕.๖ แสนล้านบาท
แต่ส่วนใหญ่ เป็นชาวนารายกลางและรายใหญ่

ที่สำคัญโครงการนี้ มีมูลค่าการทุจริตในการระบายข้าวสูงถึง ๘๔,๔๗๖ ล้านบาท

เมื่อดูจากรายงานผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ พบว่า

ช่วง ๘ ปีที่ผ่านมา รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เข้ามาแก้ปัญหาหนี้ ที่เกิดขึ้นจากโครงการจำนำข้าว จำนวน ๙.๘๕ แสนล้านบาท

ด้วยการนำเงินจากการระบายข้าวมาจ่ายคืนหนี้ให้ธ.ก.ส.จำนวน ๓๗๑,๒๘๐.๐๕ ล้านบาท
และตั้งงบประมาณใช้หนี้อีก ๒๘๙,๓๐๔.๗๓ ล้านบาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๖๖๐,๕๘๔.๗๘ ล้านบาท

ส่วนภาระหนี้ค้างชำระ ที่รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณจ่ายคืนหนี้ให้กับ ธ.ก.ส.ทั้งสิ้น ๒๔๖,๖๗๕.๖๑ ล้านบาท

แบ่งเป็น เงินที่ธ.ก.ส.สำรองจ่าย ๖๖,๔๐๓.๕๕ ล้านบาท และเงินที่ธ.ก.ส.ไปกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินอื่นอีก ๑๘๔,๔๗๔.๖๒ ล้านบาท

นั่นหมายความว่า……
“ยังมีหนี้ที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวในยุค รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่รอรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” สะสางอีก ๒๔๖,๖๗๕.๖๑ ล้านบาท!

“ตาสว่าง” กันหรือยังล่ะ พวกหิวกระหาย จนกลายเป็นเหยื่อล่อให้เศรษฐาอ้าง “สร้างหนี้มาแจก” เพิ่มพูนจากหนี้ที่ยิ่งลักษณ์ “ฝากรัก” ให้เศรษฐาจ่ายต่ออีกกว่า ๒.๔ แสนล้านบาทนั่นน่ะ

เป็นรัฐบาล ๗ เดือน ผลงานเศรษฐาคือ “สร้างหนี้ต่อ-ก่อหนี้ใหม่” อีก ๕ แสนล้าน

เฉพาะส่วนธกส.เศรษฐา “สานหนี้ต่อ” ให้อีก ๑.๗๕ แสนล้าน “เฉพาะต้น”!

สรุป ๕ แสนล้าน “กระตุ้นเศรษฐกิจ” ให้จีดีพีโต ๕% วางไว้ก่อน แล้วเศรษฐา ช่วยตอบคำถามเฉพาะหน้า ที่มีคนฝากผมถามนี้ก่อน

๑.ทำไมไม่โอนเงินเข้าบัญชีตรงเลย ชาวบ้านจะได้นำเงินไปใช้จ่ายได้ ไม่ต้องปวดหัวกับเงื่อนไขหมกเม็ด ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน?

๒.สกุลเงินดิจิทัลที่แจกแทนเงินสด เป็นของบริษัทอะไร และทำไมต้องใช้ Token ของบริษัทนี้เท่านั้น?

๓.การเอาเงิน ๕ แสนล้าน มาซื้อ Token มีใครได้รับประโยชน์บ้าง?

สรุปในสรุป เงิน ๕ แสนล้าน ที่รัฐบาลเศรษฐานำมาแจก คือเงิน “ภาษีกู”
และ “เงินที่มึงแจก” พวกกูนี่แหละ…เป็นคนจ่าย!

เปลว สีเงิน
๑๑ เมษายน ๒๕๖๗

Written By
More from plew
๓ ทางเลือกของม็อบ ๓ นิ้ว
เปลว สีเงิน วันนี้ ขอเริ่มด้วยเรื่องส่วนตัวซักนิด ไม่ใช่อะไร……. เก็บไว้ท้ายๆ จะอดคุย เพราะผมมันคนชอบแฉลบลงข้างทาง พอจะเข้าประเด็น อ้าว…หมดเนื้อที่ซะแล้ว
Read More
0 replies on “๕ แสนล้าน “มึงแจก-กูจ่าย” – เปลว สีเงิน”